“กิฟฟารีน” เปิดตัว AI Coach เพิ่มขีดความสามารถนักขายด้วยเทรนเนอร์ส่วนตัว ผสานเทคโนโลยีและโซลูชั่นจาก “ไมโครซอฟท์” และ “ฟรอนทิส”
กิฟฟารีน เดินหน้าใช้ AI ช่วยเทรนนักธุรกิจกิฟฟารีน สร้างโมเดล Personalize Coaching มี Trainer 24 ชั่วโมง แบบ Real Time เปิดตัว AI โซลูชั่น “Giffarine AI Coach” เป็นผู้ช่วยนักธุรกิจกิฟฟารีนในการวางแผนขายสินค้า นำเสนอผลิตภัณฑ์ และขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ ครั้งนี้ได้ใช้เทคโนโลยีและโซลูชั่น จากมืออาชีพด้าน AI อย่าง Microsoft (ไมโครซอฟท์) และ FRONTIS (ฟรอนทิส) ยกระดับธุรกิจขายตรง MLM สร้างปรากฏการณ์ใหม่เจ้าแรกในไทย
พญ.นลินี ไพบูลย์ ประธานกรรมการ บริษัท กิฟฟารีน สกายไลน์ ยูนิตี้ จำกัด เปิดเผยว่า การแข่งขันที่รุนแรงของธุรกิจขายตรง และภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวต่อเนื่อง ผู้บริโภคชะลอการใช้จ่ายเงิน ส่งผลให้ผู้ประกอบการในทุกธุรกิจต้องปรับตัว และปรับแผนการทำตลาด เพื่อรองรับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป เพราะผู้บริโภคในยุคนี้มีสัดส่วนที่ซื้อสินค้าในช่องทางออนไลน์เพิ่มมากขึ้น ล่าสุดเปิดตัว “Giffarine AI Coach” ซึ่งเป็นเครื่องมือ(tools) ใหม่ในการติดอาวุธให้นักธุรกิจกิฟฟารีน มี Coach หรือ Mentor ส่วนตัวที่ช่วยวิเคราะห์ VDO และช่วยสร้างสคริปต์ พร้อมให้คำแนะนำที่เข้ากับกลยุทธ์และสไตล์ของแต่ละบุคคล ให้สำเร็จ ได้ง่าย ถูกต้อง แม่นยำ และรวดเร็วมากขึ้น สำหรับการขายสินค้าและแนะนำธุรกิจกิฟฟารีน ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยใช้เทคโนโลยีและโซลูชั่นจาก Microsoft (ไมโครซอฟท์) ผู้นำด้านเทคโนโลยีคลาวด์ และ AI รวมถึง Azure AI Foundry และ FRONTIS (ฟรอนทิส) บริษัท Consulting และ Tech Company ที่ให้บริการด้านคำปรึกษา วางแผนยุทธศาสตร์ และการใช้เทคโนโลยีมาช่วยขับเคลื่อนธุรกิจรายใหญ่ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในวงการธุรกิจขายตรง MLM ที่บริษัทได้ลงทุนใช้ AI มาช่วยเป็นโค้ช แนะนำการขายสินค้าของตนเองโดยเฉพาะ ทั้งสร้างสคริปต์ และวิเคราะห์ VDO นำเสนอสินค้า คาดว่าการดำเนินการดังกล่าวจะช่วยสร้างยอดขาย เพิ่มจำนวนนักธุรกิจ และขยายฐานลูกค้าให้กับนักธุรกิจกิฟฟารีน ซึ่งปัจจุบันกิฟฟารีนมีลูกค้าที่ลงทะเบียนรวม 8.7 ล้านรหัส และมีจำนวนนักธุรกิจกิฟฟารีนที่ทำธุรกิจและได้รับรายได้ 870,000 รหัส
“ต้องยอมรับว่า ปัจจุบัน AI มีบทบาทในไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคมากขึ้น กิฟฟารีนเป็นบริษัทขายตรงในรูปแบบ MLM บริษัทแรกในประเทศไทย ที่ใช้ AI มาช่วยทำธุรกิจ ช่วยวางแผน และเป็น Coach หรือ Mentor ส่วนตัวให้กับนักธุรกิจกิฟฟารีน กิฟฟารีนจึงได้ริเริ่มพัฒนา Solution ต่างๆ ที่สามารถช่วยเพิ่มความมั่นใจ และประสิทธิภาพให้นักธุรกิจกิฟฟารีนนำเสนอสินค้า และเพิ่มยอดขายได้มากขึ้น จาก pain point สู่ Solution และนำไปสู่ Changing Lifestyle ที่ดีขึ้นและประสบความสำเร็จในเรื่องของยอดขาย และขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ เพิ่มขึ้น จุดเด่นของ “Giffarine AI Coach” ที่ไม่เหมือนแพลตฟอร์ทั่วไป คือ เป็น Personalize Coaching ที่ทรงพลังในการแนะนำงานขายผ่านการไลฟ์สด เป็นครั้งแรกของการสร้าง VDO Mentor ส่วนตัวให้นักธุรกิจกิฟฟารีนสามารถเรียนรู้การทำงานออนไลน์ได้ด้วยตัวเอง ประหยัดเวลาในการทำงาน เพราะเป็น AI Agent สำเร็จรูปที่ทำงานได้อัตโนมัติ สามารถเลือกใช้ได้ง่าย เพียงแค่กรอกแบบสอบถามที่ Customize เหมือนเป็น One stop personalize trainer online service สำหรับนักธุรกิจกิฟฟารีนทุกคนอย่างแท้จริง เข้าถึงง่าย ใช้ได้ทุกคนที่ต้องการประสบความสำเร็จในการนำเสนอขายสินค้า และแนะนำธุรกิจกิฟฟารีน นักธุรกิจกิฟฟารีนสามารถเข้าถึงได้หมด ยุคสมัยนี้ใครใช้ AI เก่งคนนั้นก็ได้เปรียบ เชื่อว่า AI เป็นสิ่งสำคัญในการทำธุรกิจมากๆ ซึ่งไม่ใช่แค่ธุรกิจขายตรง แต่รวมถึงธุรกิจอื่นๆ ด้วย”
ทั้งนี้ ตลอดระยะเวลา 29 ปี กิฟฟารีนมียอดขายรวมอยู่ที่ 110,758 ล้านบาท ถือว่าเป็นตัวเลขที่น่าพอใจอย่างมาก ซึ่งเป็นผลจากกิฟฟารีนมีความเข้าใจคนไทย ทั้งในเรื่องงานขาย และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงามครบวงจร รวมถึงการปรับกระบวนทัพทั้งออนไลน์ ออฟไลน์ใหม่ๆ เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายของกิฟฟารีน ทำให้การดำเนินธุรกิจปี 2568 ของกิฟฟารีนจะโฟกัสไปที่สถานการณ์เศรษฐกิจควบคู่กับการทำธุรกิจ รวมถึงการออกสินค้าใหม่ๆ โดยเฉพาะกลุ่ม Health & Beauty ที่ยังเป็นเรือธง ทำยอดขายเติบโตสูงที่สุด รวมถึงการให้ความสำคัญในการพัฒนาด้านเทคโนโลยีให้ตอบโจทย์ทั้งความต้องการของนักธุรกิจกิฟฟารีน และโดนใจผู้บริโภค
พญ.นลินี กล่าวว่า ภาพรวมธุรกิจขายตรงปี 2568 ยังมีสัญญาณบวกจากเทรนด์ของตลาดสุขภาพและความงามที่ยังคงเป็นที่นิยมของผู้บริโภค และเป็นธุรกิจที่ยังไปต่อได้โดยมูลค่าตลาดรวมธุรกิจขายตรง ที่ทางสมาคมการขายตรงไทยได้รวบรวมไว้ล่าสุดอยู่ที่ประมาณ 56,400 ล้านบาท ทำให้ปี 2568 กิฟฟารีนจะรุกทำตลาดเต็มสูบ โดยกลุ่มสินค้าที่มีแนวโน้มและโอกาสเติบโตสูงของกิฟฟารีนยังคงเป็นกลุ่มสกินแคร์ และผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ในกลุ่ม Longevity และเสริมภูมิคุ้มกัน ผลิตภัณฑ์กลุ่มดูแลรูปร่าง และผลิตภัณฑ์โปรตีนวีแกน
ขณะที่ ปริญญ์ บุญดีสกุลโชค CEO & Managing Partner ของ บริษัท ฟรอนทิส จำกัด กล่าวว่า ในยุคที่ AI พัฒนาอย่างก้าวกระโดด การนำ AI มาช่วยงานอาจไม่เพียงพอที่จะสร้างความแตกต่าง หัวใจสำคัญคือการสร้าง ‘ความได้เปรียบจาก AI’ หรือ ‘AI Advantage ให้เกิดขึ้นจริงในธุรกิจ FRONTIS รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ให้คำปรึกษาและทำงานร่วมกับกิฟฟารีน ซึ่งเป็นองค์กรที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกลและมองเห็นโอกาสนี้ก่อนใคร โดยเปลี่ยนโจทย์ความท้าทายให้กลายเป็นโซลูชัน ‘Giffarine AI Coach’ ซึ่งไม่เพียงเป็นเครื่องมือ แต่เป็นผู้ช่วยส่วนตัวที่เสริมศักยภาพ Empower ให้นักธุรกิจกิฟฟารีนทำงานได้อย่างมั่นใจและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยสร้างความแข็งแกร่งและโอกาสในการเติบโตทางธุรกิจ กรณีของกิฟฟารีนเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนว่า ในยุค AI Disruption นี้องค์กรที่จะเติบโตอย่างยั่งยืนอาจไม่ได้ขึ้นกับขนาดใหญ่ที่สุดหรือเร็วที่สุด แต่คือผู้ที่ปรับตัวและสามารถผสานเทคโนโลยีเข้ากับกลยุทธ์และคนทำงานได้อย่างตรงจุด
ด้าน ธนวัฒน์ สุธรรมพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ไมโครซอฟท์ ประเทศไทย กล่าวว่า “ไมโครซอฟท์รู้สึกตื่นเต้นที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนกิฟฟารีนสู่อนาคตของธุรกิจขายตรงไทย ด้วยพลังของ AI กิฟฟารีนถือเป็นแบรนด์ MLM สัญชาติไทยรายแรกที่พัฒนา ‘Giffarine AI Coach’ ในรูปแบบ AI Agent เพื่อเสริมศักยภาพนักธุรกิจให้ทำงานและสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ด้วยข้อมูลที่แม่นยำและการนำเสนอสินค้าที่ตรงกับความต้องการของลูกค้า ทั้งยังช่วยเปิดโอกาสให้นักธุรกิจได้เรียนรู้ทักษะใหม่ๆ ขยายตลาดใหม่ เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน ไมโครซอฟท์เชื่อมั่นว่า AI จะเป็นพลังสำคัญสร้างอิมแพค และยกระดับกิฟฟารีนสู่การเป็น Frontier Firm ของธุรกิจขายตรงไทยในยุค AI อย่างแท้จริง