การเมืองฉบับ‘บ้านใหญ่’ ‘ภท.vsปชป.’ออปชันเป๋าตุง?
“คิดว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในปีหน้า บรรดาพรรคการเมือง ก็คงไม่ได้คิดว่าจะต้องเลือกตั้งกลางปี 70 ถามคอการเมืองนักวิเคราะห์การเมืองก็ตอบว่าปี69 พรรคภูมิใจไทย ก็ไม่ได้คิดต่างกัน”
จากอาการของ “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ที่ดูเหมือนจะมั่นอกมั่นใจว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นเร็ววัน ชั่วโมงนี้จึงได้เห็นภาพการเดินสายของ “บิ๊กเนมสีน้ำเงิน” ที่กำลังโชว์พลังดูดพ่วงด้วย“โปรย้ายค่าย” เป็นรายวัน
โดยเฉพาะสมรภูมิปักษ์ใต้ฐานที่มั่นสำคัญที่รอบนี้อาจต้องขับเคี่ยวฟาดฟันกันหลายพรรคไม่หมูเหมือนแต่ก่อน ฉะนั้นด้วยยี่ห้อ “พรรคสีน้ำเงิน” ที่ทำการเมืองสไตล์บ้านใหญ่แล้ว
ไม่แปลกหากเวลานี้จะได้เห็นสัญญาณขยับจากบรรดาคีย์แมนสีน้ำเงิน ไล่ตั้งแต่วันที่21ก.ค.ที่ผ่านมา ปรากฎภาพ“เนวิน ชิดชอบ” ครูใหญ่พรรคภูมิใจไทย“พิพัฒน์ รัชกิจประการ”แม่ทัพภาคใต้ค่ายภูมิใจไทย ยกคณะส.ส.ลงพื้นที่จ.ตรัง
เป้าหมายปลายทางอยู่ที่บ้านพักริมถนนตรัง-ปะเหลียน อ.ย่านตาขาวจ.ตรัง ของ“โกหนอ”สมชาย โล่สถาพรพิพิธ อดีตส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ หลายสมัย และยังเป็นบิดา“ถ่ามเอ้ง” สุณัฐชา โล่สถาพรพิธ ส.ส.ตรังเขต 3 พรรคประชาธิปัตย์ เพื่อแสดงความยินดีที่“สุณัฐชา” ได้ดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร คนใหม่
ที่เรียกเสียงฮือฮาคือการขึ้นป้ายไวนิลข้อความต้อนรับ“ครูใหญ่” พร้อมคณะท่ามกลางการจับตาถึงทิศทางการเมืองของ“บ้านใหญ่โล่สถาพรพิพิธ” ภายใต้ดีลระหว่างพรรคสีน้ำเงินจะเกิดขึ้นหรือไม่อย่างไร
จะว่าไปทั้ง “โกหนอ” และ “เนวิน” ก็อาจมีความคุ้นเคยเป็นทุนเดิม ตั้งแต่ปี2544 “โกหนอ” เป็นสส.สมัยแรกในนามพรรคประชาธิปัตย์ ขณะที่ “เนวิน” เป็นสส.พรรคชาติไทยก่อนที่ต่อมาจะย้ายไปพรรคไทยรักไทย
เป็นเช่นนี้แน่นอนว่า สนามเมืองตรังในรอบที่ผ่านมา โดยเฉพาะเขต4 ที่แม้กระแสหนึ่งจะมองว่า เป็นความไม่ลงรอยภายในบ้านโล่ฯ ฝั่ง “โกหนอ” ส่งคนของตัวเองลงชิงในนามพรรคประชาธิปัตย์ โดยมีคู่แข่งคือ “ดิษฐ์ธนิน ภาคย์อิชณน์”ซึ่งมีศักดิ์เป็นหลานน้าของ “โกหนอ” ลงชิงในนามภูมิใจไทย
ทว่าผลการเลือกตั้งที่ออกมาที่ทิ้งห่างกันเพียง1พันกว่าคะแนน มีการจับตาว่า จะเป็นการเดินเกมแบบ“แบ่งสาย-แบ่งหน้ากันเล่น” ของคนในบ้านโล่ฯหรือไม่
แม้ภายหลังจะมีคำชี้แจงจาก “หมอแทน” ชัยชนะ เดชเดโช รมช.สาธารณะสุข ในฐานะแม่ทัพภาคใต้ค่ายสีฟ้า ปฏิเสธกระแสข่าวดังกล่าวยืนยันว่า“สุณัฐชา”และบิดาแจ้งพรรคปชป.แล้วว่า “เนวิน” จะไปรับประทานอาหารที่บ้าน และเจ้าตัวยืนยันที่จะไม่ย้ายพรรค
ทว่าในวันพบแกนนำภูมิใจไทย “โกหนอ” ยังให้สัมภาษณ์ทิ้งปริศนาไว้อย่างน่าสนใจถึงสนามเมืองตรังที่เวลามีสส.4คนจาก3พรรคการเมือง ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลล้วนอยู่ใต้ร่มเงา หรือได้รับความช่วยเหลือเกื้อกูลจากบ้านใหญ่แทบทั้งสิ้น ว่า“ในครั้งต่อไปไม่แน่ว่าอาจเป็นพรรคเดียวกันทั้งหมดก็ได้”
เช่นนี้จึงต้องลุ้น คำว่าเป็นพรรคเดียวกันทั้งหมดที่ “โกหนอ” พยายามสื่อสารปลายทางจะเป็นพรรคใดจะใช่พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งมี “ชวน หลีกภัย” อดีตหัวหน้าพรรค และอดีตประธานสภาฯ คานอำนาจอยู่อีกขั้วหรือไม่ หรือจะเป็นพรรคใดต้องติดตาม
ถัดมาคือ การพบกันระหว่าง “พิพัฒน์ รัชกิจประการ” อดีตรมว.แรงงาน แม่ทัพภาคใต้พรรคภูมิใจไทย เดินทางเยือนบ้านใหญ่เขารูปช้างของ “นิพนธ์ บุญญามณี” อดีตรมช.มหาดไทย แห่งพรรคประชาธิปัตย์ โดยมี “สรรเพชญ บุญญามณี” ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ร่วมโต๊ะรับประทานอาหาร
จำนวนนี้ ยังมี “นายกฯแบน” ประสงค์ บริรักษ์ อดีตนายกฯเทศมนตรีเมืองเขารูปช้าง ซึ่งรอบที่แล้วลงชิงสส.เขต1 ในนามภูมิใจไทย แต่แพ้“สรรเพชญ” รวมไปถึง “โกถึก” สมยศ พลายด้วง สส.สงขลา ประชาธิปัตย์ อีกหนึ่งคนนั่งร่วมอยู่ในวงดังกล่าว
จริงอยู่แม้ในการเลือกตั้งนายกอบจ.สงขลาครั้งล่าสุด จะปรากฏซีนชื่นมื่น “สงขลาหนึ่งเดียว” ระหว่าง “นายกชาย”เดชอิศม์ ขาวทอง รมช.มหาดไทย ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ขนาบข้างด้วย “นิพนธ์”และ “สุพิศ พิทักษ์ธรรม”อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ลงชิงนายกอบจ.สงขลาและได้รับเลือกเป็นนายกอบจ.คนปัจจุบัน
ทว่าในเบื้องลึกภายในพรรคสีฟ้าเวลานี้ อย่างที่รู้กันถูกแบ่งเป็น “2ก๊ก” อย่างเห็นได้ชัดระหว่าง “สายเฉลิมชัย ศรีอ่อน” หัวหน้าพรรค และ “สายผู้เฒ่า” ไม่ต่างจากความสัมพันธ์ระหว่าง “นิพนธ์” กับ “เดชอิศม์” ช่วงที่ผ่านมาก็เป็นเสมือนน้ำกับน้ำมัน เช่นเดียวกับ“สรรเพชญ” ที่ไม่ได้ถูกจัดอยู่ในกลุ่ม21สส.สายเฉลิมชัย
ไหนจะกรณีที่ “นิพนธ์” ออกมาแสดงความเห็นกรณีการยึดคืนพื้นที่เขากระโดง ซึ่งเป็นอาณาจักรของตระกูลชิดชอบ ในลักษณะสอนมวย “ภูมิธรรม เวชยชัย” รองนายกฯและรมว.มหาดไทย รวมถึง “มท.ชาย”เดชอิศม์ ในฐานะรมช.มหาดไทย ในหลายครั้งหลายครา
แม้จะบอกว่าเป็นการแสดงความเห็นในฐานะ “อดีตรมช.มหาดไทย” ทว่าการแสดงท่าทีที่เป็นไปในลักษณะปกป้องหรือเป็นบวกต่อพรรคสีน้ำเงินเช่นนี้ ย่อมถูกตีความไปถึงทิศทางการเมืองในการร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทยหลังจากนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่พ้น
ว่ากันว่า “นิพนธ์”ซึ่งมีปัญหาส่วนตัวในเรื่องคดีความสมัยเป็นนายกอบจ.สงขลา และมีแนวโน้มสูงไม่ได้ไปต่อในเส้นทางการเมือง จำเป็นต้องทิ้งทวนการเมืองด้วยการวางเส้น-วางแนวการเมืองไว้ให้กับ “ลูกเพชญ” ผู้เป็นบุตรชาย เพื่อดำเนินการเมืองบนเส้นทางใหม่หลังจากนี้
เห็นชัดจากข่าวคราวการแยกตัวออกไปตั้งพรรคใหม่ ดังที่ปรากฏข่าวคราวออกมาก่อนหน้านี้ หรือการย้ายค่ายย้ายสังกัดโดยเฉพาะพรรคสีน้ำเงินซึ่งถูกจับตาอยู่ในเวลานี้
สอดคล้องกับความเห็น“นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ” อดีตสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ที่อ้างถึงบทสนทนาระหว่างตนเองและนิพนธ์ พูดคุยถึงทิศทางการเมืองจะเอาอย่างไรต่อทิศทางการเมืองหลังจากนี้
“นิพิฏฐ์ ” เล่าวว่า ในส่วนของ “นิพนธ์” ที่มีปัญหาส่วนตัว ขณะที่ในส่วนของ “สรรเพชญ” มี2-3ทางเลือก แต่เมื่อภาพที่ออกมา เป็นภาพที่ค่อนข้างชัดเกินครึ่งหนึ่งว่าน่าจะไปภูมิใจไทย
อีกคนที่ต้องจับตาคือ “สมยศ” ที่ปรากฏภาพพบแกนนำภท.เช่นเดียวกัน ต้องจับตาความสัมพันธ์ระหว่าง “โกถึก” และ “มท.ชาย” ที่พักหลังอาจไม่ค่อยราบรื่นหรือไม่
“นักการเมืองสายใต้หากไปภูมิใจไทย จะมีข้อดีคือไปมือเปล่า แต่กลับบ้านเต็มกระเป๋า ซึ่งเป็นออปชันที่ดีที่สุดของนักการเมืองสายใต้” สิ่งที่ “นิพิฏฐ์” ในฐานะอดีตคนคุ้นเคยค่ายสีฟ้าวิเคราะห์
ในส่วนของ “โกถึก” ก่อนหน้านี้มีข่าวออกมาเป็นระยะว่า อาจมีเป้าหมายปลายทางใหม่คือ “พรรคกล้าธรรม” ตอกย้ำด้วยการมอบช่อดอกไม้ให้กำลังใจแก่ตัวแทนพรรคกล้าธรรม ในการประชุมแต่งตั้งตัวแทนพรรคกล้าธรรม เมื่อวันที่14 มิ.ย.ที่ผ่านมา
เป็นเช่นนี้ต้องจับตา จากความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นในเวลานี้ แม้ก่อนหน้านี้จะเป็นการปล่อยซีน “21สส.” พบ “เฉลิมชัย” ก่อนที่“เดชอิศม์” จะออกมาให้สัมภาษณ์ สยบข่าวย้ายพรรค โดย21คนยืนยันที่จะอยู่กับประชาธิปัตย์ต่อ
หรือแม้แต่ในส่วนของ “สรรเพชญ” ซึ่ง “เดชอิศม์” ระบุว่า ถามเจ้าตัวแล้วได้รับคำตอบว่า “ไม่เป็นไรไม่อยากไปอยากอยู่กับนายกชาย”
ทว่าในทางการเมืองแล้วกว่าจะถึงวันเลือกตั้งระหว่างทางอะไรก็เกิดขึ้นได้เสมอ อะไรที่ว่าใช่ถึงเวลาอาจไม่ใช่ อะไรที่ว่าไม่ใช่ถึงเวลาอาจใช่ก็เป็นได้!