CHW สร้างต้นแบบ 'คลินิกแพทย์แผนไทยพรีเมียม' ดันแพทย์แผนไทยสู่สากล
ดร.พท.คณิศร์ณิชา ชาญภา รองคณบดีฝ่ายการแพทย์แผนไทย วิทยาลัย เฮลท์ แอนด์ เวลเนส (CHW) มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) ในฐานะผู้อำนวยการ DPU คลินิกการแพทย์แผนไทย เผยแนวทางการขับเคลื่อนการพัฒนา DPU คลินิกแพทย์แผนไทย ว่าขณะนี้กำลังดำเนินการสร้างต้นแบบ “คลินิกแพทย์แผนไทยพรีเมียม” ที่เน้นมาตรฐานคุณภาพสูง ทั้งในด้านบริการ การรักษา และการส่งเสริมสุขภาพแบบองค์รวม โดยมุ่งพัฒนาให้เป็นโมเดลต้นแบบของคลินิกแพทย์แผนไทยในยุคใหม่
พร้อมกันนี้ยังได้จัดตั้ง “ศูนย์พัฒนาเพิ่มศักยภาพ (Re-skill) บุคลากรแพทย์แผนไทย” เพื่อยกระดับองค์ความรู้และทักษะของแพทย์แผนไทยทั่วประเทศให้สามารถให้บริการอย่างมีคุณภาพในระดับสากล
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
อยากเป็นนักบิน? CADT DPU เปิดหลักสูตร ป.ตรี ควบใบอนุญาตใน 3.5 ปี!
อย่าปล่อยไว้! 'ปวดข้อเท้าสะสม' เสี่ยงข้อเท้าเสื่อมก่อนวัย
ริเริ่มแนวคิด ‘พัฒนาแพทย์แผนไทยพรีเมียม’
“เรามองว่าการพัฒนาแพทย์แผนไทยจะต้องมีความเป็นมืออาชีพ มีมาตรฐาน และสามารถแข่งขันในระดับโลกได้ จึงริเริ่มแนวคิด ‘พัฒนาแพทย์แผนไทยพรีเมียม’ ซึ่งเป็นการยกระดับทั้งระบบ ตั้งแต่การศึกษา การบริการ การพัฒนาองค์ความรู้ รวมถึงการใช้เทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้อย่างเหมาะสม เพื่อให้แพทย์แผนไทยสามารถดูแลสุขภาพประชาชนได้อย่างครอบคลุมและทันสมัย” ดร.พท.คณิศร์ณิชา กล่าว
ในด้านการปฏิรูปการศึกษาวิชาชีพแพทย์แผนไทย DPU กำลังดำเนินการพัฒนาและปรับปรุงหลักสูตรแพทย์แผนไทยให้สอดรับกับความต้องการของโลกยุคใหม่ โดยเน้นการผลิตบัณฑิตที่มีความรู้ลึกด้านศาสตร์แพทย์แผนไทย ควบคู่ไปกับทักษะการจัดการธุรกิจสุขภาพและการใช้เทคโนโลยีด้านการแพทย์ เพื่อสร้างบุคลากรที่สามารถสร้างนวัตกรรมสุขภาพจากภูมิปัญญาไทยได้อย่างมีคุณภาพและยั่งยืน
สมัครรับเลือกตั้งเป็นกรรมการสภาการแพทย์แผนไทย
ดร.พท.คณิศร์ณิชา กล่าวต่อว่า หลังวาระของคณะกรรมการสภาการแพทย์แผนไทย พ.ศ. 2565–2568 สิ้นสุดลงตามพระราชบัญญัติวิชาชีพการแพทย์แผนไทย พ.ศ. 2565 ตนจึงตัดสินใจสมัครรับเลือกตั้งเป็นกรรมการสภาการแพทย์แผนไทย ชุดใหม่วาระปี 2568–2571 ในนาม “ทีมแผนไทยอภิวัฒน์”
โดยมีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่องค์กรวิชาชีพ และพัฒนาสภาการแพทย์แผนไทยให้เป็นศูนย์รวมความร่วมมือของสมาชิกทั่วประเทศ พร้อมขับเคลื่อนวิชาชีพแพทย์แผนไทยให้ได้รับการยอมรับในระดับสากล สมศักดิ์ศรีภูมิปัญญาไทย และเป็นรากฐานสำคัญของระบบสุขภาพและเศรษฐกิจไทยอย่างยั่งยืน
สำหรับการเลือกตั้งในครั้งนี้ สมาชิกสามารถใช้สิทธิ์ลงคะแนนได้ทั้งทางไปรษณีย์และระบบอิเล็กทรอนิกส์ (E-Voting) ระหว่างวันที่ 1–30 กันยายน 2568 โดยจะมีการนับคะแนนในวันที่ 1 ตุลาคม 2568 และประกาศผลอย่างเป็นทางการภายในวันที่ 15 ตุลาคม 2568