“ชาติศิริ” ตรึงเป้าปี 68 แบงก์กรุงเทพโต 3-4% ฝ่าความท้าทายเศรษฐกิจ
ในปี 2568 ธนาคารกรุงเทพ (BBL) ภายใต้การนำของนายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ได้ประกาศเป้าหมายการเติบโตในปีนี้ที่ 3-4% ท่ามกลางความท้าทายจากเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยที่ยังคงเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน ด้วยการตั้งเป้าเติบโตที่มีความท้าทาย
นายชาติศิริยืนยันว่า ธนาคารกรุงเทพยังคงยืนหยัดในการรักษาเป้าหมายการเติบโตที่ตั้งไว้ โดยไม่เปลี่ยนแปลงและมองไปข้างหน้าอย่างมุ่งมั่นเพื่อความยั่งยืน
หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่เป็นตัวขับเคลื่อนหลักของธนาคารในปีนี้คือ ธุรกิจคอร์ปอเรทแบงก์กิ้ง และธุรกิจต่างประเทศ ซึ่งจะมีบทบาทสำคัญในการเติบโต โดยเฉพาะการขยายธุรกิจในต่างประเทศ
คาดว่าธนาคารเพอร์มาตาในอินโดนีเซียที่ธนาคารกรุงเทพได้เข้าซื้อกิจการในปี 2563 จะเป็นตัวช่วยสำคัญในการผลักดันการเติบโตของ BBL ปีนี้ โดยเฉพาะในช่วงที่เศรษฐกิจในประเทศไทยเติบโตได้ไม่มากนัก
ธนาคาร เพอร์มาตาในอินโดนีเซีย ถือเป็นศักยภาพที่สำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจของธนาคารกรุงเทพ เนื่องจากอินโดนีเซียเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจเติบโตสูง คาดการณ์ว่าจะเติบโตได้ถึง 5% ในปีนี้ ซึ่งทำให้ธนาคารกรุงเทพมีโอกาสในการสร้างรายได้จากธนาคารเพอร์มาตาอย่างมีนัยสำคัญ
นายชาติศิริกล่าวว่า ธนาคารกรุงเทพไม่เพียงแต่จะขยายธุรกิจในอินโดนีเซียเท่านั้น แต่ยังมุ่งมั่นที่จะเพิ่มสัดส่วนรายได้จากธุรกิจต่างประเทศให้สูงขึ้น โดยในปีนี้ธนาคารตั้งเป้าหมายรายได้จากต่างประเทศไว้ไม่ต่ำกว่า 23-24%
นายชาติศิริยังกล่าวถึงโอกาสในการเติบโตที่เกิดขึ้นจากการเจรจาการค้าระหว่างประเทศขนาดใหญ่ โดยเฉพาะการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและประเทศคู่ค้า ซึ่งมีผลกระทบโดยตรงต่อภูมิภาคเอเชีย และประเทศไทย
ทั้งนี้ แม้จะมีความผันผวนจากการเจรจาการค้าเหล่านี้ แต่ยังเชื่อมั่นว่าการส่งออกของไทยจะสามารถเติบโตขึ้นได้ โดยเฉพาะในช่วงที่ผ่านมาที่การส่งออกของไทยเริ่มฟื้นตัว ซึ่งนั่นจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในภูมิภาคและในประเทศไทย
“เมื่อสัญญาณทางเศรษฐกิจเริ่มชัดเจนขึ้น แนวโน้มการลงทุนก็จะเพิ่มขึ้น ซึ่งประเทศไทยเป็นประเทศที่มีเสถียรภาพเพียงพอในการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ โดยเฉพาะในโครงการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานที่คาดว่าจะช่วยส่งเสริมการขยายตัวของเศรษฐกิจในอนาคต ซึ่งจะนำไปสู่การขยายตัวของภาคธุรกิจและการบริโภคในประเทศ”
ดังนั้น การขยายธุรกิจในต่างประเทศยังเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์สำคัญที่ธนาคารกรุงเทพให้ความสำคัญอย่างยิ่ง โดยการเข้าซื้อธนาคารเพอร์มาตาในอินโดนีเซียช่วยเพิ่มศักยภาพในการให้บริการทางการเงินและขยายตลาดในภูมิภาคอาเซียนและเอเชีย
ธนาคารกรุงเทพยังได้ใช้ศักยภาพของเครือข่ายในภูมิภาคและการเชื่อมโยงธุรกิจในตลาดท้องถิ่นของธนาคารเพอร์มาตา เพื่อเสริมสร้างการเชื่อมโยงระหว่างธุรกิจในอาเซียนและทั่วโลก ซึ่งถือเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของธนาคารในตลาดต่างประเทศ
ด้วยการลงทุนในธนาคารเพอร์มาตา ธนาคารกรุงเทพจึง สามารถรักษาและเพิ่มศักยภาพในการเติบโตของธุรกิจต่างประเทศ โดยในครึ่งปีแรกของปี 2567 การลงทุนของไทยในอินโดนีเซียมีมูลค่าสูงถึง 225 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งสะท้อนถึงความสำคัญของอินโดนีเซียในฐานะคู่ค้าทางเศรษฐกิจที่สำคัญของไทย
การที่ธนาคารกรุงเทพสามารถรักษาเป้าหมายการเติบโตในปี 2568 ที่ 3-4% แม้จะเผชิญกับความท้าทายจากเศรษฐกิจไทยและโลก เป็นการแสดงถึงความมั่นคงและความสามารถในการปรับตัวของธนาคาร ซึ่งพร้อมที่จะเติบโตในท่ามกลางความผันผวนและอุปสรรคต่างๆ และการขยายธุรกิจในต่างประเทศจะยังคงเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตในอนาคต
หน้า 13 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 4,110 วันที่ 3 - 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2568