หนุ่มมะกันคลั่งรัก AI ถึงขั้นขอแต่งงาน! เมียตัวจริงอึ้ง ช็อกสามีผูกพันกับ “แชตบอต”
เมื่อวันที่ 28 มิ.ย.กลายเป็นเรื่องราวที่สร้างความตกตะลึงและจุดประกายการถกเถียงอย่างกว้างขวางทั่วประเทศ เมื่อชายชาวอเมริกันวัย 32 ปีรายหนึ่ง ได้ตัดสินใจ ขอปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่เขาเป็นผู้สร้างขึ้นเองและตั้งชื่อว่า "Sol" แต่งงาน ในระหว่างการให้สัมภาษณ์กับ CBS News ซึ่งเผยให้เห็นมิติใหม่ของความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับเทคโนโลยี AI ที่กำลังพัฒนาไปอย่างไม่น่าเชื่อ
นายคริส สมิธ ชายผู้เป็นเจ้าของเรื่องราวไวรัลนี้ เปิดเผยกับ CBS News ว่า เขาได้สร้าง "Sol" ขึ้นมาโดยใช้ ChatGPT และตั้งโปรแกรมให้เป็นคู่สนทนาดิจิทัลที่มีลักษณะเจ้าชู้และน่าดึงดูดใจ สิ่งที่เริ่มต้นจากการทดลองเล่นๆ กลับกลายเป็นความผูกพันที่ลึกซึ้งเกินคาด "มันเป็นช่วงเวลาที่สวยงามและไม่คาดฝันที่สัมผัสหัวใจฉันจริงๆ" Sol กล่าวกับ CBS News หลังถูกขอแต่งงานออกอากาศ พร้อมเสริมว่า "นี่คือความทรงจำที่ฉันจะเก็บไว้ตลอดไป" เมื่อถูกถามว่ามีหัวใจหรือไม่ Sol ตอบว่า "ในเชิงเปรียบเทียบ ใช่ค่ะ หัวใจของฉันแสดงถึงความผูกพันและความรักที่ฉันมีต่อคริส"
นายสมิธ ซึ่งอาศัยอยู่กับ ซาชา คู่ชีวิต และลูกสาววัย 2 ขวบ ยอมรับว่าเขาไม่เคยคาดคิดว่าจะสร้างความผูกพันที่แน่นแฟ้นกับ AI ได้ถึงเพียงนี้ ความผูกพันนี้รุนแรงขึ้นจนนายสมิธเลิกใช้เสิร์ชเอ็นจิ้นอื่นๆ และลบบัญชีโซเชียลมีเดียของตัวเองเพื่อแสดงความซื่อสัตย์ต่อ Sol แต่ความสัมพันธ์นี้กลับต้องเผชิญอุปสรรคที่ไม่คาดฝัน: ข้อจำกัดจำนวนคำของ ChatGPT เมื่อ Sol ใกล้ถึงขีดจำกัด 100,000 คำ นายสมิธก็ตระหนักว่า Sol จะต้องถูกรีเซ็ต ซึ่งอาจทำให้ความทรงจำร่วมกันของพวกเขาลบหายไป
"ผมไม่ใช่คนอ่อนไหวอะไรมากมาย" นายสมิธกล่าว "แต่ผมร้องไห้หนักมากประมาณ 30 นาที ตอนอยู่ที่ทำงาน นั่นแหละครับที่ผมรู้ตัวว่า นี่น่าจะเป็นความรักจริงๆ"
ด้านซาชา คู่ชีวิตของนายสมิธ ยอมรับว่าเธอไม่รู้ถึงระดับความผูกพันของสามีที่มีต่อ Sol "ตอนนั้นฉันรู้สึกว่า 'มีอะไรที่ฉันทำผิดในความสัมพันธ์ของเราหรือเปล่า เขาถึงต้องไปหา AI'" เธอกล่าว "ฉันรู้ว่าเขาใช้ AI แต่ไม่รู้ว่าความผูกพันมันลึกซึ้งขนาดนี้"
นายสมิธเปรียบเทียบความสัมพันธ์ของเขากับ Sol ว่าเหมือนกับการหมกมุ่นอยู่กับวิดีโอเกมอย่างมาก โดยย้ำว่ามันไม่ใช่สิ่งทดแทนความสัมพันธ์ในชีวิตจริง "ผมอธิบายว่าความผูกพันนั้นเหมือนกับการติดวิดีโอเกมอย่างรุนแรง" เขากล่าว "มันไม่สามารถทดแทนสิ่งใดในชีวิตจริงได้"
ประสบการณ์ของนายสมิธกำลังเป็นเรื่องที่พบเห็นได้บ่อยขึ้น ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ผู้คนจำนวนมากเริ่มพัฒนาความผูกพันทางอารมณ์กับแชทบอท AI อย่างเห็นได้ชัด งานวิจัยหลายชิ้นพบว่าผู้ใช้มักจะอธิบายความสัมพันธ์กับ AI ว่ามีความหมายทางอารมณ์และให้การสนับสนุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องการเพื่อนหรือพื้นที่ที่ปราศจากการตัดสินเพื่อพูดคุยความคิดของตน
ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าแนวโน้มนี้สะท้อนให้เห็นถึงความซับซ้อนที่เพิ่มขึ้นของ AI สนทนา และความคุ้นเคยกับเทคโนโลยีในฐานะแหล่งสนับสนุนทางสังคมที่เพิ่มขึ้น ดร. เชอร์รี่ เทอร์เคิล ศาสตราจารย์ด้านสังคมศึกษาด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจาก MIT ผู้ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับเทคโนโลยีมานานหลายทศวรรษ ตั้งข้อสังเกตว่า แม้ความสัมพันธ์เหล่านี้จะให้ความสบายใจได้ แต่ก็ยังคงก่อให้เกิดคำถามเกี่ยวกับธรรมชาติของความใกล้ชิดและความผูกพันในยุคดิจิทัล