รพ.สธ.ไตรมาส 3 ปีงบ 68 เงินบำรุงติดลบ กว่า 8,000 ล้าน 326 แห่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กองเศรษฐกิจสุขภาพ และหลักประกันสุขภาพ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สป.สธ.) นำเสนอรายงานสถานการณ์ทางการเงิน ของหน่วยบริการสังกัดสป.สธ. ไตรมาส 3 ของปีงบประมาณ 2568 พบว่า
- เงินบำรุงหลังหักภาระผูกพัน ปีงบประมาณ 2568 ณ เดือนมิถุนายน อยู่ที่ 35,958.7 ล้านบาท มี 326 แห่ง เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2 จำนวน 108 แห่ง และมากกว่าไตรมาส 3 ของปีก่อนหน้า 48 แห่ง
- จำนวนเงินบำรุงติดลบ 8,287.9 ล้านบาท มากกว่าไตรมาส 2 ที่ติดลบ 5,718.1 ล้านบาท และมากกว่าไตรมาส 3 ของปีก่อนหน้าที่ติดลบ 6,751.8 ล้านบาท
- ขณะที่มี รพ. 573 แห่ง เงินบำรุงเป็นบวก 44,246.5 ล้านบาท
เมื่อพิจารณาระดับวิกฤติทางการเงินของ รพ. ไตรมาส 3 ของปีงบประมาณ 2568 พบว่า
ระดับ 0 จำนวน 337 แห่ง
ระดับ 1 จำนวน 325 แห่ง
ระดับ 2 จำนวน 79 แห่ง
ระดับ 3 จำนวน 56 แห่ง
ระดับ 4 จำนวน 27 แห่ง
ระดับ 5 จำนวน 11 แห่ง
ระดับ 6 จำนวน 29 แห่ง
ระดับ 7 (สีแดง) จำนวน 35 แห่ง เป็นรพ.ชุมชน(ระดับอำเภอ) 34 แห่ง และรพ.ศูนย์ 1 แห่ง
เมื่อวันที่ 6 ส.ค.2568 ที่กระทรวงสาธารณสุข นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์เรื่องนี้ภายหลังการประชุมผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข(สธ.)ว่า ในส่วนของ รพ.ศูนย์ขอนแก่น มีการแก้ปัญหาขาดสภาพคล่องแล้ว เนื่องจากในประเด็นของการใช้จ่ายที่ผ่านมา การจ้างบุคลากรมาก และมาคิดต้นทุนต่างๆ ยังไปได้ จึงได้ช่วยสภาพคล่องด้วยการนำเงินอนาคตของ รพ.นี้ ที่จะทำงานได้นำมาใช้ก่อน สามารถแก้ไขปัญหาดำเนินไปได้แล้ว ส่วนการตรวจสอบของการใช้จ่ายตามระเบียบก็ดำเนินไป
“เรื่องที่ให้สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.)ดำเนินการจัดหาบริษัท บิ๊กโฟร์ เข้ามาตรวจสอบการบริหารจัดการงบประมาณกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติหรือบัตรทอง 30 บาท ก็อยู่ในกระบวนการของการจัดจ้างอยู่” นายสมศักดิ์ กล่าว
ถามถึงกรณีที่ 4 องค์กรมีการยื่นหนังสือคัดค้านแนวทางการจ่ายเงินผู้ป่วยในของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.) ที่จะนำผลการสุ่มตรวจเวชระเบียน 3% มาใช้ในภาพรวม นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตนได้มอบหมายให้ นพ.สมฤกษ์ จึงสมาน อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทย และการแพทย์ทางเลือก ไปร่วมประชุมหารือกับผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ซึ่งเรื่องนี้เข้าใจดีแล้วว่าเป็นเรื่องรายละเอียดของการคิดคำนวณ โดยในการดำเนินการทำเฉพาะ 3% ที่มีการสุ่มตรวจเวชระเบียน หากพบตรงไหนผิดก็ปรับลดเงินตรงนั้น จะไม่ได้เอามาคิดรวมทั้งหมด
ด้าน นพ.สมฤกษ์ กล่าวว่า ในการหารือได้มีการทำความเข้าใจร่วมกันระหว่าง รพ. และสปสช. โดย รพ.เข้าใจวิธีการตรวจสอบเวชระเบียน(Audit Chart)แล้ว ขณะเดียวกัน สปสช.ก็เข้าใจว่าเกณฑ์ในการตรวจสอบนั้นจะต้องสอนแพทย์ใน รพ.ให้เข้าใจว่าจะต้องลงเวชระเบียนแบบนี้
ดังนั้น ในปีงบประมาณ 2568 ที่มีการสุ่มตรวจเวชระเบียน 3 % ที่พบว่าแพทย์ลงเวชระเบียนไม่ถูกต้องนั้น ก็จะคัดส่วนที่เป็นความไม่เข้าใจในการลงเวชระเบียนเชิงคุณภาพออกไปก่อน ไม่นำมาใช้หักเงินค่ารักษาผู้ป่วยในของ รพ.
แต่สำหรับกลุ่มที่พบว่าไม่ได้ให้บริการก็จะนำมาพิจารณาหักเงิน รพ. โดยการหักเงินนั้นมอบให้แต่ละเขตสุขภาพดำเนินการเอง และเงินที่หักคืนมาก็จะยังอยู่ที่เขตสุขภาพนั้น ไปเติมให้ รพ.ที่พบว่าตรวจสอบเวชระเบียนแล้วเงินได้น้อยไป ส่วนปีงบประมาณ 2569 มีการตกลงที่จะตั้งคณะกรรมการร่วมกันเพื่อวางแนวทางในการตรวจสอบเวชระเบียน
พิสูจน์อักษร….สุรีย์ ศิลาวงษ์