โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

สุขภาพ

รู้ทันข้อเท้าพลิก-ข้อเท้าแพลง แนวทางดูแลและป้องกันอย่างถูกวิธี

PPTV HD 36

อัพเดต 3 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 3 ชั่วโมงที่ผ่านมา
ข้อเท้าพลิก-แพลงพบได้บ่อย ควรปฐมพยาบาลด้วยหลัก RICE หากอาการรุนแรงหรือไม่ดีขึ้นใน 1 สัปดาห์ควรพบแพทย์เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อน

อาการบาดเจ็บบริเวณข้อเท้าเป็นภาวะที่พบได้บ่อยในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาการข้อเท้าพลิก-ข้อเท้าแพลง (Ankle sprain) ซึ่งอาจเกิดขึ้นจากกิจกรรมทั่วไปรวมถึงการออกกำลังกาย หากไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม อาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนหรืออาการเรื้อรังที่ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตในระยะยาว สาเหตุ วิธีการปฐมพยาบาล แนวทางรักษา และการป้องกันอย่างถูกต้องจะช่วยลดโอกาสการเกิดภาวะแทรกซ้อนและเร่งกระบวนการฟื้นตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ

วิธีบริหารข้อไหล่ ลดอาการปวด แพทย์แนะควรทำหลังอาหารทุเลาลงแล้ว

เทคนิคปรับท่าวิ่งให้ถูกต้อง ลดอาการบาดเจ็บ ปวดเข่า ปวดหลัง

ลักษณะอาการบาดเจ็บที่ข้อเท้า

อาการเฉียบพลัน

  • ปวดข้อเท้าทันทีหลังได้รับบาดเจ็บ
  • บวมบริเวณข้อเท้า
  • มีรอยฟกช้ำหรือช้ำเขียว
  • เคลื่อนไหวลำบาก เดินไม่ได้หรือเดินลำบาก

อาการเรื้อรัง

  • ปวดข้อเท้าเมื่อใช้งาน
  • ข้อเท้าแข็ง (Stiff ankle) โดยเฉพาะช่วงเช้า
  • กล้ามเนื้อรอบข้อเท้าอ่อนแรง
  • ข้อเท้ารู้สึกหลวม หรือไม่มั่นคงเมื่อยืน หรือมีอาการข้อเท้าพลิกซ้ำ

สาเหตุที่พบบ่อยของอาการบาดเจ็บข้อเท้า

  • กิจกรรมกีฬา เช่น วิ่งบนพื้นไม่เรียบ กระโดด หรือเปลี่ยนทิศทางเร็ว
  • อุบัติเหตุในชีวิตประจำวัน เช่น เดินพลาดขั้นบันได ลื่นเสียหลักจากสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม หรือ จากการสวมใส่รองเท้าไม่เหมาะสม

ปัจจัยเสี่ยงส่วนบุคคล

  • เคยมีประวัติข้อเท้าพลิก
  • กล้ามเนื้อรอบข้อเท้าอ่อนแรง
  • น้ำหนักเกิน หรืออายุเพิ่มขึ้น
  • ความยืดหยุ่นของข้อเท้าลดลง

วิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้น

ใช้หลัก RICE protocol โดยเฉพาะช่วง 48-72 ชั่วโมงแรกหลังบาดเจ็บ

R-Rest (พักการใช้งาน)

  • หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่เพิ่มอาการปวด
  • หลีกเลี่ยงการเดินลงน้ำหนักข้อเท้าข้างที่บาดเจ็บ
  • ใช้ไม้เท้าค้ำหรืออุปกรณ์ช่วยพยุง

I-Ice (ประคบเย็น)

  • ประคบน้ำแข็ง 15–20 นาที ทุก 2–3 ชั่วโมง โดยใช้ผ้ารอง ไม่ให้สัมผัสผิวหนังโดยตรง

  • C-Compression (พันรัด)

  • ใช้ผ้ายืดพันให้กระชับ ระวังไม่ให้แน่นเกินไปจนเลือดไหลเวียนไม่สะดวก

  • E-Elevation (ยกเท้าสูง)

  • ยกข้อเท้าให้สูงกว่าระดับหัวใจ เพื่อลดบวม โดยใช้หมอนรองเมื่อนอนหรือนั่งพัก

ข้อควรหลีกเลี่ยงในช่วง 48-72 ชั่วโมงแรก

  • ห้ามประคบร้อน
  • หลีกเลี่ยงการนวดหรือใช้ข้อเท้าเกินความจำเป็น

อาการบาดเจ็บข้อเท้าที่ควรพบแพทย์

  • ปวดรุนแรงจนไม่สามารถลงน้ำหนักได้
  • ข้อเท้าเสียรูปหรือผิดปกติ
  • รู้สึกชาหรือเท้าเปลี่ยนสี
  • มีเสียง “แตก” ขณะเกิดอุบัติเหตุ
  • ปวดต่อเนื่องแม้ได้รับการดูแลเบื้องต้นแล้ว
  • มีประวัติเคยบาดเจ็บข้อเท้าซ้ำหลายครั้ง
  • ปวดข้อเท้าต่อเนื่องเกิน 1 สัปดาห์
  • ข้อเท้าไม่มั่นคงหรือหลวมผิดปกติ
  • การเคลื่อนไหวของข้อเท้าจำกัดลง
  • มีการติดเชื้อ เช่น แดง ร้อน มีหนอง

การวินิจฉัยทางคลินิก

  • การซักประวัติและตรวจร่างกาย
  • ภาพถ่ายรังสี (X-ray): ตรวจหากระดูกหัก และดูการเรียงตัวของข้อต่อต่างๆ

การตรวจเพิ่มเติมอื่นๆ

  • Ultrasound: ประเมินเส้นเอ็น และกล้ามเนื้อ
  • MRI: ประเมินเส้นเอ็น กล้ามเนื้อ ผิวข้อกระดูก และกระดูก
  • CT scan: ประเมินภาวะที่มีกระดูกหักซับซ้อน

การประเมินระดับความรุนแรงของเอ็นที่ฉีกขาด

  • Grade 1: เอ็นมีการอักเสบ หรือยืดออกเล็กน้อย โดยไม่มีการฉีกขาด
  • Grade 2: เอ็นฉีกขาดบางส่วน
  • Grade 3: เอ็นฉีกขาดสมบูรณ์ หรือทั้งหมด

แนวทางการรักษา

การรักษาแบบไม่ผ่าตัด ผู้ป่วยส่วนใหญ่สามารถฟื้นตัวได้โดยไม่ต้องผ่าตัด

ระยะเฉียบพลัน (0-72 ชั่วโมง)

  • ใช้หลักการดูแลตาม RICE protocol
  • รับประทานยาแก้ปวดและลดอักเสบตามคำแนะนำแพทย์
  • ใช้อุปกรณ์พยุงข้อเท้า (Ankle support )หรือใส่เฝือกอ่อนข้อเท้าแบบสั้น (Short leg slab) ตามระดับความรุนแรง
  • ยาแก้ปวดและลดการอักเสบ เช่น พาราเซตามอล หรือยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (Nonsteroidal anti-inflammatory drug; NSAIDs)

ระยะการฟื้นฟู (3-7 วัน)

  • เริ่มประคบร้อนเมื่ออาการบวมลดลง
  • เริ่มออกกำลังกายเบาๆ เช่นขยับข้อเท้าเพื่อเพิ่มความยืดหยุ่น และป้องกันข้อเท้าแข็ง
  • นวดเบาๆ เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนเลือด

ระยะพักฟื้น (1-4 สัปดาห์)

  • ฝึกความแข็งแรงของกล้ามเนื้อรอบข้อเท้า (Strengthening) ความยืดหยุ่น (Stretching) และความสมดุลและการทรงตัว (Balancing and proprioception)
  • การทำกายภาพบำบัดเพื่อลดอาการอักเสบ เช่น อัลตราซาวด์ หรือเลเซอร์ (Laser therapy)

การรักษาแบบผ่าตัด

มักใช้การผ่าตัดแบบส่องกล้อง ซึ่งมีบาดแผลเล็กและฟื้นตัวเร็วกว่า ใช้ในกรณี

  • เอ็นฉีกขาดสมบูรณ์ (Grade 3)
  • ข้อเท้าไม่มั่นคงอย่างต่อเนื่อง
  • อาการไม่ดีขึ้นแม้ผ่านการรักษาอย่างต่อเนื่อง 3–6 เดือน

คำถามที่พบบ่อย

  • มีอาการปวดข้อเท้าหลังข้อเท้าพลิกนานแค่ไหนจึงควรไปพบแพทย์?
  • หากมีอาการมากกว่า 4 สัปดาห์ แนะนำให้พบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุ เนื่องจากอาจมีปัจจัยเสี่ยงอาจทำให้ปวดนาน เช่น
  • เส้นเอ็นหรือกระดูกบาดเจ็บรุนแรงกว่าที่คิด
  • ไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม
  • ไม่ได้รับการบริหารหรือทำกายภาพอย่างเหมาะสม

ภาวะแทรกซ้อนจากข้อเท้าพลิกมีอะไรบ้าง ?

  • ภาวะข้อเท้าไม่มั่นคงเรื้อรัง (Chronic ankle instability)
  • ข้อเท้าพลิกซ้ำบ่อยครั้ง (Recurrent ankle sprain)
  • อาการปวดเรื้อรัง (Chronic pain)
  • กระดูกข้อเท้าเสื่อมหลังจากข้อเท้าพลิก (Post-traumatic ankle osteoarthritis)

อาการบาดเจ็บข้อเท้าโดยเฉพาะข้อเท้าพลิก-ข้อเท้าแพลง เป็นปัญหาที่พบได้บ่อย และไม่ควรมองข้าม การรักษาอย่างถูกวิธีตั้งแต่แรกเริ่ม การประเมินโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และการทำกายภาพบำบัดอย่างต่อเนื่องสามารถลดภาวะแทรกซ้อนและช่วยให้กลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติอย่างปลอดภัย หากอาการไม่ดีขึ้นภายในระยะเวลาที่เหมาะสม หรือมีสัญญาณอันตราย ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันทีเพื่อรับการวินิจฉัยและดูแลอย่างถูกต้อง

ขอบคุณข้อมูลจาก : โรงพยาบาลพญาไท 3

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก PPTV HD 36

ชาวอินโดนีเซียแห่ติดธง “โจรสลัดหมวกฟาง” แสดงความไม่พอใจรัฐบาล

29 นาทีที่แล้ว

ศบ.ทก. เผย สหรัฐฯ-จีน-มาเลเซีย ให้คำมั่นไม่แทรกแซงแก้ปัญหาไทย-กัมพูชา

49 นาทีที่แล้ว

บุกจับ "เจ้าหน้าที่ ส.ป.ก. - กำนัน" ออกเอกสารสิทธิ์เอื้อนายทุนรุกป่า

56 นาทีที่แล้ว

โภชนาการแก้เด็กเบื่ออาหาร แนะเมนูไม่น่าเบื่อ ช่วยเจริญอาหาร

58 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความสุขภาพอื่น ๆ

สัญญาณ “เด็กหูตึง” ตรวจคัดกรองเร็ว พัฒนาการไม่สะดุด

PPTV HD 36

รู้จัก 10 สิทธิผู้ป่วยพื้นฐาน : เรื่องสำคัญที่คุณต้องรู้เมื่อเข้ารับบริการสุขภาพ

BT Beartai

โภชนาการแก้เด็กเบื่ออาหาร แนะเมนูไม่น่าเบื่อ ช่วยเจริญอาหาร

PPTV HD 36

แค่ถูกเวลา 3 ช่วงกินดาร์กช็อกโกแลต ช่วยอารมณ์ดี หุ่นสวย หัวใจแข็งแรง

Amarin TV

กาแฟ-ชาเข้มๆ น้ำอัดลมใส่เกลือ ช่วยให้หาย "ท้องเสีย" ได้ จริงหรือ?

Amarin TV

สธ.เปิดศูนย์การแพทย์แผนไทยฯครบวงจรแห่งแรก เขต 5 เคลื่อนศก.สุขภาพ

ฐานเศรษฐกิจ

เตือน เคี้ยวหมากฝรั่ง ปล่อยไมโครพลาสติก สู่ร่างกายผ่านทางน้ำลาย

TNN ช่อง16

เดินหน้ารณรงค์ให้ผู้หญิง “กล้าตรวจ” เพื่อตนเอง" รู้ทัน ป้องกัน มะเร็งปากมดลูก

TNN ช่อง16

ข่าวและบทความยอดนิยม

ประวัติ "ไฮโซลูกนัท" ทายาทนักธุรกิจ ผู้เคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตย

PPTV HD 36

ดูวอลเลย์บอลสด วอลเลย์สาวไทย U21 ชิงแชมป์โลก 2025

PPTV HD 36

ประวัติ “หลวงพ่ออลงกต” เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ ผู้อุปการะช่วยเหลือผู้ป่วยเอดส์

PPTV HD 36
ดูเพิ่ม
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...