โรคแพนิก ไม่อันตรายแต่ต้องรักษา เปิด 10 วิธีเอาชนะเพิ่มคุณภาพชีวิต
โรคแพนิก (Panic) โรคทางจิตเวชหนึ่งในกลุ่มโรควิตกกังวล ผู้ที่มีอาการแพนิกจะรู้สึกตื่นตระหนก กลัวขึ้นมาแบบสุดขีด ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันทั่วไป ทำให้ผู้ป่วยรู้สึกแย่และยิ่งกลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับตนเอง สาเหตุของอาการแพนิกที่แท้จริง ในปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด แต่อาการแพนิกสามารถเกิดขึ้นมาได้เองโดยไม่มีปัจจัยกระตุ้น หรือในบางรายอาจมีปัจจัยกระตุ้น เช่น ประสบการณ์ที่เลวร้ายในอดีต, ประสบอุบัติเหตุร้ายแรงหรือกระทบต่อจิตใจอย่างหนัก, เจอเหตุการณ์กระทบกระเทือนจิตใจ
แบบสำรวจ “โรคซึมเศร้า” ตามเกณฑ์วินิจฉัยของแพทย์ เช็กสภาพจิตใจก่อนสาย!
รู้ทัน PTSD ในเด็ก หลังเหตุการณ์ร้ายแรง เปิดวิธีเยียวยาจิตใจ
การทำงานของสมองหรือสารสื่อประสาทผิดปกติ หรือแม้แต่มีคนในครอบครัวเป็นแพนิก คนกลุ่มนี้มักมีโอกาสที่จะเกิดอาการแพนิกมากกว่าคนที่ครอบครัวไม่มีใครเป็นแพนิก
อาการแพนิก
- หัวใจเต้นเร็วผิดปกติ ใจสั่น แน่นหน้าอก
- กระวนกระวาย หายใจเร็ว หายใจลำบาก หายใจไม่อิ่ม
- ปั่นป่วนมวนท้อง อาจรู้สึกคลื่นไส้
- ตัวสั่น มือสั่น เหงื่อซึม
- วิงเวียนศีรษะ หน้ามืด คล้ายจะเป็นลม
- ชาปลายมือปลายเท้า อาจมีชาตามตัว
- รู้สึกร้อน ๆ หนาว ๆ
- การรับรู้บิดเบือน เริ่มแยกความจริงกับความฝันไม่ออก
- กลัวอย่างท่วมท้น กลัวว่าตัวเองจะตาย กลัวจะควบคุมตัวเองไม่ได้ เหมือนจะเป็นบ้า
โรคแพนิกจะมีอาการที่คล้ายกับโรคทางกายหลายโรค เช่น ไทรอยด์เป็นพิษ, โรคหัวใจ, ความดันโลหิตสูง, โรคลมชัก, โรคไมเกรน ,โรคหอบหืด ฯลฯ ซึ่งผู้ป่วยอาจมาพบแพทย์ด้วยความสับสนว่าตนเองอาจเป็นโรคทางกาย แต่เมื่อแพทย์ตรวจร่างกายแล้วพบว่าร่างกายแข็งแรงปกติ ผู้ป่วยกลุ่มนี้จะถูกจัดไปประเมินอาการแพนิกก่อน หากพบว่ามีอาการเข้าข่าย จิตแพทย์ก็จะวางแผนการรักษาแก้อาการแพนิกต่อไป
10 วิธีเอาชนะแพนิกง่าย ๆ
- เข้าใจตัวโรค ยอมรับว่าเป็นโรคแพนิก เข้ารับการรักษาอย่างถูกวิธี เช่น CBT หรือยา (ถ้าจำเป็น)
- ควบคุมการหายใจ ฝึกหายใจช้า ๆ หรือใช้เทคนิค 4-7-8 เพื่อลดอาการตื่นตระหนก
- นอนพักผ่อนให้เพียงพอ นอนอย่างมีคุณภาพ 6–8 ชั่วโมง ช่วยลดความเครียดสะสม
- ระลึกว่าอาการแพนิกไม่อันตรายอาการเป็นแค่ชั่วคราว หายเองได้ ไม่ทำอันตรายถึงชีวิต
- ตั้งสติให้มั่น โฟกัสกับสิ่งของรอบตัวหรือปิดตาเพื่อลดสิ่งกระตุ้นขณะมีอาการ
- ออกกำลังกายเป็นประจำ ลดความเครียด ช่วยให้นอนหลับดีขึ้น และจิตใจสงบขึ้น
- หลีกเลี่ยงคาเฟอีน ลดกาแฟ ชา น้ำอัดลม เพราะอาจกระตุ้นให้ใจเต้นแรงและเกิดอาการได้ง่าย
- ไม่พึ่งสารเสพติด หลีกเลี่ยงบุหรี่และแอลกอฮอล์ เพราะเมื่อหมดฤทธิ์จะทำให้อาการแย่ลง
- พูดคุยกับคนใกล้ตัว ให้คนรอบข้างรับรู้เพื่อช่วยดูแลและลดความวิตกเมื่อต้องเผชิญเหตุการณ์กระตุ้น
- เผชิญหน้ากับสิ่งกระตุ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป ฝึกเผชิญกับสิ่งที่กลัวบ่อย ๆ อย่างค่อยเป็นค่อยไปเพื่อสร้างความเคยชิน
ดูแลคนรอบข้างที่เป็นแพนิก
- A (Approach) ประเมินสถานการณ์เพื่อเข้าถึงผู้ป่วย ผู้ที่ให้ความช่วยเหลือจะต้องมีสติ ไม่ตื่นตระหนกตามผู้ป่วยไปด้วย เพราะจะยิ่งทำให้ผู้ป่วยมีอาการแพนิกมากขึ้น
- L (Listen) รับฟังผู้ป่วยโดยไม่ตัดสิน
- G (Give) ให้กำลังใจ เพื่อให้ผู้ป่วยรู้สึกปลอดภัย
- E (Encourage Professional Help) แนะนำให้ผู้ป่วยรับความช่วยเหลือจากจิตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ
- E (Encourage Other Supports) คอยสนับสนุนผู้ป่วย ไม่ให้ผู้ป่วยรู้สึกอยู่อย่างโดดเดี่ยว
อาการแพนิกไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพกาย แต่หากปล่อยไว้เรื้อรัง ไม่ได้รับการรักษาที่เหมาะสม อาจทำให้ประสบกับปัญหาการใช้ชีวิต เช่น ไม่สามารถอยู่ในสังคม พัฒนาการหยุดชะงัก และมีความเสี่ยงต่อการเป็นซึมเศร้าได้
ขอบคุณข้อมูลจาก : BeDee