โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

สุขภาพ

'นวัตกรรมวิศวะจุฬาฯ' ลดนำเข้าอุปกรณ์ทางการแพทย์-ราคาที่จับต้องได้

กรุงเทพธุรกิจ

อัพเดต 1 วันที่แล้ว • เผยแพร่ 20 ชั่วโมงที่ผ่านมา

คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พัฒนานวัตกรรมที่มุ่งตอบโจทย์สังคมไทยอย่างแท้จริง ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คน แต่ยังช่วยเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ลดการพึ่งพาการนำเข้า และเพิ่มโอกาสการเข้าถึงอุปกรณ์ทางการแพทย์และบริการสุขภาพในราคาที่จับต้องได้

รศ.ดร.วิทยา วัณณสุโภประสิทธิ์ คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวในโอกาสครบรอบ 112 ปี ว่าคณะวิศวกรรมศาสตร์พัฒนานวัตกรรมที่ตอบโจทย์สังคมไทยและสังคมโลก และขับเคลื่อนประเทศไทยให้ก้าวสู่ความยั่งยืนอย่างแท้จริง นวัตกรรมหลายชิ้นได้รับการสนับสนุนจาก CU Engineering Enterprise ซึ่งเป็นกลไกส่งเสริมสตาร์ตอัปของคณะทำให้สามารถนำองค์ความรู้จากงานวิจัยไปสู่การใช้งานจริงในเชิงพาณิชย์และสร้างธุรกิจ สร้างอุตสาหกรรมในประเทศได้อย่างเป็นรูปธรรมทำให้นวัตกรรมเหล่านี้เข้าถึงประชาชนได้จริง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

112 ปี วิศวะจุฬาฯ! ปั้นคนเก่ง สร้าง Ecosystem มีทักษะตรงใจอุตสาหกรรม

วิศวะ จุฬาฯ ผนึก กฟผ. ถอดบทเรียนไฟดับยุโรป เร่งวางแผนรับมือพลังงานสะอาด

นวัตกรรมโปรตีนไฟโบรอินจากรังไหม

ยกตัวอย่างผลิตภัณฑ์“SilkLife” นวัตกรรมโปรตีนไฟโบรอินจากรังไหมไทย ผลงานเด่นด้านวิศวกรรมชีวเวชของ Engine Life บริษัทสปินออฟของคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่จัดแสดง ณ Thailand Pavilion ในมหกรรม WORLD EXPO 2025 OSAKA ประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 13 เม.ย. ถึง 13 ต.ค. 2568 โชว์ศักยภาพการพัฒนานวัตกรรมทางการแพทย์ที่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงการดำเนินชีวิตมนุษย์ในอนาคต โดยประเทศไทยนำเสนอผ่านแนวคิด “Immunity” หรือ “ภูมิคุ้มกัน” และใช้สโลแกน “Thailand Connecting Lives for Greatest Happiness” เน้นนำเสนอศักยภาพด้านสุขภาพ นวัตกรรมการแพทย์ ภูมิปัญญาไทย และวัฒนธรรมอันโดดเด่นของไทยสู่เวทีโลก

“โปรตีนไฟโบรอินจากรังไหมไทยสามารถนำมาพัฒนาเป็นวัสดุทางการแพทย์ได้หลากหลาย ทั้งในรูปแบบของไฮโดรเจลนำส่งยา แผ่นปิดแผลที่มีคุณสมบัติดูดซับของเหลวและปลดปล่อยยาฆ่าเชื้อ ตลอดจนวัสดุทดแทนกระดูกและเนื้อเยื่อ ซึ่งเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรของไทย และยังสร้างทางเลือกใหม่ให้การรักษามีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น"

สร้างอีโคซิสเต็มครบวงจร ตั้งแต่การปลูกไหมโดยเกษตรกรในพื้นที่ต่างๆ ด้วยมาตรฐานความสะอาดในโรงเรือนเก็บรังไหม ไปจนถึงกระบวนการแปรรูปที่พร้อมสำหรับใช้ในทางการแพทย์ ซึ่งมีศักยภาพสูงในการนำไปใช้ในหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น เครื่องสำอาง ยา และการรักษาโรค จุดเด่นของนวัตกรรมนี้คือการ ห่วงโซ่มูลค่า (value chain) ของรังไหม ซึ่งเป็นผลิตผลทางการเกษตรที่หากไม่แปรรูปอาจมีมูลค่าไม่สูงนัก ให้กลายเป็นสารที่มีมูลค่าสูงสำหรับการใช้งานในร่างกาย

เท้าเทียมก้าวใหม่ของคนพิการไทย

ผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์ หนึ่งในตัวอย่างที่ถูกนำไปใช้ในเชิงพาณิชย์แล้วคือ แผ่นแปะหลังหูที่ค่อยๆ ปล่อยสาร CBD ออกมาเพื่อช่วยให้ผ่อนคลายและนอนหลับได้ดีขึ้นอนาคตทางการแพทย์ นอกจากนี้ ยังมีการวิจัยและพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อนำสารสังเคราะห์โปรตีนจากรังไหมไปใช้ในการ ปลดปล่อยยาต่างๆ เช่น อินซูลิน เพื่อรักษาผู้ป่วยเบาหวานได้อย่างมีประสิทธิภาพและยาวนานขึ้น

เช่นเดียวกับ นวัตกรรมเท้าเทียมเป็นผลงานวิจัยที่มุ่งเน้นการตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะของคนไทย โดยนวัตกรรมเท้าเทียม ไดนามิกส์เอสเพส “sPace” ผลิตโดยบริษัท มุทา จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่ได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และได้ขึ้นทะเบียนสถานประกอบผลิตและจดแจ้งผลิตภัณฑ์กับทาง อย.

เหมาะสมกับสรีระและการเคลื่อนไหว ออกแบบมาให้เหมาะกับสรีระและรูปแบบการเดิน/วิ่งของคนไทย ซึ่งแตกต่างจากเท้าเทียมของชาวต่างชาติที่มีขนาดใหญ่กว่าและอาจทำให้เคลื่อนไหวไม่สะดวก หรือเป็นเพียงเท้าแข็งที่เดินได้เท่านั้น แต่ได้รับการบรรจุใน สปสช. แล้ว ทำให้คนไทยทุกคนสามารถเข้าถึงได้ และยังได้ ไปจัดแสดงที่งาน World Expo ณ โอซาก้า อีกด้วย

"การออกแบบให้เหมาะกับสรีระและการเดินของคนไทย ช่วยให้ผู้พิการสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ดีกว่าเดิมทั้งการเดินและการวิ่ง ไม่ใช่แค่เพียงการเดินได้เหมือนเท้าเทียมแข็งทั่วไปทำให้คนไทยทุกคนเข้าถึงได้เท้าเทียมไดนามิกส์ว่ามีคุณสมบัติและสมรรถนะเท่าเทียมกับที่นำเข้าจากต่างประเทศ แต่ต้นทุนการผลิตถูกกว่าการนำเข้าถึง 5 เท่าทำให้สามารถลดการนำเข้าสินค้าอุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ทางด้านกายอุปกรณ์ซึ่งมีราคาสูงมากได้"

นอกจากนี้ การนำมาผลิตในเชิงพาณิชย์ในอุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์ยังสามารถขยายการผลิตไปยังต่างประเทศได้อีกด้วย ถือว่าเป็นการเพิ่มรายได้ สร้างโอกาสการส่งออกและสร้างความสามารถในการแข่งขันของประเทศ

กะโหลกไทเทเนียมไทยสู่มาตรฐานโลก

นอกจากนี้ยังมีนวัตกรรมทางการแพทย์ “แผ่นปิดกะโหลกไทเทเนียม” เมติคูลี่ (Meticuly)บริษัทสตาร์ตอัปจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ได้รับรองจาก U.S. FDA และเป็นที่ยอมรับในโรงพยาบาลชั้นนำของสหรัฐ ด้วยวัสดุ ไทเทเนียมช่วยให้ผู้ป่วยไม่รู้สึกแปลกปลอมในร่างกายและป้องกันการติดเชื้อ แผ่นปิดกะโหลกไทเทเนียมของเมติคูลี่มีอัตรา การติดเชื้อต่ำ เพียง 0.6%

Meticuly ยังให้บริการออกแบบกระบวนการผ่าตัดร่วมกับแพทย์ โดยใช้ CT Scan ของคนไข้มาสร้างเป็นแบบ 3 มิติ เพื่อออกแบบวิธีการผ่าตัดและผลิตอุปกรณ์นำทาง (Cutting Guide และ Drilling Guide) ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคนไข้แต่ละราย เทคโนโลยี AI ยังช่วยลดเวลาในการออกแบบจาก 5 วัน เหลือเพียง 5 นาที ซึ่งช่วยประหยัดต้นทุนการผลิต

"เป็นนวัตกรรมไทย ที่สร้างมาตรฐานใหม่ในวงการเครื่องมือแพทย์ ด้วยเทคโนโลยีเฉพาะบุคคล อัตราการติดเชื้อที่ต่ำมากในการได้รับอนุมัติให้ใช้ใน“สิทธิบัตรทอง”แล้วช่วยให้คนไทยเข้าถึงอุปกรณ์ทางการแพทย์และบริการสุขภาพในราคาที่จับต้องได้ลดการนำเข้าจากต่างประเทศคนไทยได้ใช้ของดีในราคาที่เข้าถึงได้"

AI เพื่อสุขภาพจิต Demand D-Mind

ในยุคที่ปัญหาสุขภาพจิตทวีความรุนแรง วิศวะจุฬาฯ ได้ร่วมมือกับคณะแพทยศาสตร์ พัฒนานวัตกรรม AI ที่ชื่อว่า “Demand D-Mind”ตรวจจับผู้ป่วยความเสี่ยงสูง นวัตกรรมนี้ใช้ AI ในการวิเคราะห์ข้อมูลจากการปรึกษาพูดคุยในแอปพลิเคชัน “หมอพร้อม” เพื่อ ตรวจจับกรณีผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูงด้านสุขภาพจิตได้อย่างรวดเร็วช่วยเหลืออย่างทันท่วงที เมื่อตรวจพบเคสที่มีความเสี่ยงสูง ระบบจะส่งสัญญาณเพื่อให้บุคลากรทางการแพทย์เข้าไปให้ความช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงที นวัตกรรมนี้ได้ช่วยดูแลกรณีศึกษาไปแล้ว เกือบ 400,000 เคส และสามารถเข้าช่วยเหลือผู้ป่วยในภาวะวิกฤติได้ กว่า 10,000 คน ในประเทศไทย

"นวัตกรรมเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงการสร้างงานวิจัยที่ตอบโจทย์ความต้องการของอุตสาหกรรมและสังคมได้อย่างยั่งยืน การที่นวัตกรรมหลายชิ้นได้รับการสนับสนุนจาก CU Engineering Enterprise ซึ่งเป็นกลไกส่งเสริมสตาร์ตอัปของคณะเอง ทำให้สามารถนำองค์ความรู้จากงานวิจัยไปสู่การใช้งานจริงในเชิงพาณิชย์และสร้างธุรกิจ สร้างอุตสาหกรรมในประเทศได้อย่างเป็นรูปธรรม การร่วมมือกับภาคีต่างๆ ทั้งคณะแพทย์ ภาคอุตสาหกรรม และหน่วยงานภาครัฐ เช่น สปสช. และกรมวิทยาศาสตร์บริการ ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้นวัตกรรมเหล่านี้เข้าถึงประชาชนได้จริง" คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬากล่าว

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก กรุงเทพธุรกิจ

‘เสนา’ผ่าทางตันอสังหาฯฝืดยึดโมเดลผสม‘เช่า-ออม-ซื้อ'

36 นาทีที่แล้ว

จาก “วิกฤติ” สู่‘โรงแรมยั่งยืน’ 600ห้อง ภายใต้ผู้นำรุ่นใหม่ ‘หยี่เต้ง ฮอสพิทาลิตี้’

4 ชั่วโมงที่ผ่านมา

รฟท. - กทท. เดินหน้าความร่วมมือ ดันขนส่งสินค้าทางรางพุ่ง 2 ล้านตู้

6 ชั่วโมงที่ผ่านมา

HMC Polymers ลุยออกหุ้นกู้ ส.ค.นี้ รับเทรนราคาปิโตรฯ ขาขึ้น

7 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความสุขภาพอื่น ๆ

4 วิธีบำรุงกระดูกและข้อ ป้องกันกระดูกพรุน ได้ด้วยการปรับพฤติกรรม

PPTV HD 36

เดินเล่นวันละนิด สุขภาพจิตดีขึ้นจริงไหม?

TOJO NEWS

เมื่ออากาศเป็นพิษ: เมืองไทยรับมือฝุ่น PM2.5 อย่างไร?

TOJO NEWS

'จะทำมันไปทำไม?' เป็นคำถามแล้ว จะได้อะไรขึ้นมา โดย อนิรุทธิ์ ตุลสุข

กรุงเทพธุรกิจ

"บำรุงราษฎร์-กรุงเทพประกันภัย" สร้างพลังบวกให้สังคม นำแพทย์อาสาดูแลผู้สูงอายุบ้านบางแค

ฐานเศรษฐกิจ

"สมศักดิ์" แจงยิบปมย้ายสิทธิบัตรทอง 30 บาทรักษาทุกที่

ฐานเศรษฐกิจ

สมศักดิ์ ปัดไทยปฏิเสธรักษาคนกัมพูชา เผยไทยจิตใจสูงส่งกว่าบางประเทศ

PPTV HD 36
วิดีโอ

ลูกอาการแบบนี้ ภูมิแพ้หรือหอบหืด | หมอคู่คิดส์ แอปหมอเด็กออนไลน์

หมอคู่คิดส์

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...