ไทยเดินหน้า เอ็มโอยูแรงงาน จ่อดึงศรีลังกา เสียบแทนกัมพูชา
สถานการณ์ไทย-กัมพูชา ส่งผลต่อแรงงานกัมพูชาที่ทำงานอยู่ในประเทศไทย บางส่วนประสงค์เดินทางกลับประเทศ และบางส่วนยังทำงานอยู่ในประเทศไทย อย่างไรก็ตาม กระทรวงแรงงานกัมพูชา ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ผู้ซื้อสินค้าทั่วโลกร่วมกันแบรนด์สินค้า และบริการของไทย เนื่องจากมีการทำร้ายแรงงานข้ามชาติชาวกัมพูชา
นายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ให้สัมภาษณ์ว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น เป็นการทะเลาะวิวาท ไม่ใช่การละเมิดสิทธิมนุษยชน และไม่ใช่ลูกจ้างกับนายจ้าง แต่เป็นผู้ที่มีความขัดแย้งกัน ซึ่งประเทศไทยยึดมั่นในหลักสิทธิมนุษยชน และความเสมอภาคในการดูแลแรงงานข้ามชาติ
กระทรวงแรงงานไม่มีนโยบายเลือกปฏิบัติต่อแรงงาน ไม่ว่าจะมีเชื้อชาติหรือสัญชาติใด และการดำเนินงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นไปตามหลักกฎหมาย และมาตรฐานสากลอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะในบริบทที่แรงงานข้ามชาติมีบทบาทสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ
“เรื่องนี้ได้มีการหารือกันในกระทรวงแรงงานแล้ว จะมีการส่งหนังสือถึงองค์การแรงงานระหว่างประเทศ หรือ ILO (ไอ-เเอล-โอ) ยืนยันไม่ได้มีการละเมิดสิทธิมนุษยชนในไทย รวมถึงจะพาผู้แทน ILO เข้าไปตรวจสอบสถานประกอบการ เพื่อสร้างความมั่นใจ ว่าไม่ได้มีการกดขี่ข่มเหง หรือละเมิดสิทธิมนุษยชนแต่อย่างใด ภายในวันศุกร์ที่ 1 ส.ค.2568”นายพงศ์กวิน กล่าว
แรงงานกัมพูชากลับราว 20,000 คน
นายพงศ์กวิน กล่าวด้วยว่า สถานการณ์ตัวเลขแรงงานกัมพูชาที่เดินทางกลับประเทศ ปัจจุบันหากเป็นแรงงานกัมพูชาในระบบทราบว่ามีอยู่ประมาณกว่า 20,000 คน แต่ตัวเลขยังไม่นิ่ง และในส่วนของแรงงานกัมพูชานอกระบบยังไม่มีตัวเลขส่วนกรณีที่ทางกัมพูชาอ้างว่ามีแรงงานกัมพูชาเดินทางกลับประเทศแล้วกว่า 200,000 คนนั้น เรื่องนี้ยังไม่มีตัวเลขที่ชัดเจน
สำหรับการต่อใบอนุญาตแรงงานกัมพูชาที่มีกำหนดสิ้นสุดวันที่ 9 ส.ค.2568 ได้มีการนำเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) และผ่านการพิจารณาแล้วว่าได้มีการขยายระยะเวลาออกไปอีก 6 เดือน
เมื่อถามถึงกรณีที่มีแรงงานกัมพูชาที่เดินทางกลับประเทศไปแล้ว และอยากกลับเข้ามาทำงานในประเทศไทย นายพงศ์กวิน กล่าวว่า ประเทศไทยไม่มีการปิดกั้น หากไม่มีคดี และไม่มีปัญหาอะไร ตนเชื่อว่า ประเทศไทยยินดีต้อนรับเสมอ และไทยเป็นเมืองยิ้มอยู่แล้ว พร้อมยินดีต้อนรับทุกคนที่เข้ามาโดยไม่มีการแบ่งแยก
ส่วนกรณีที่มีภาพแรงงานกัมพูชาแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ในการทำลายธงชาติไทยนั้น นายพงศ์กวิน กล่าวว่า เรื่องนี้ยังไม่ทราบรายละเอียด โดยจะมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนว่าเรื่องที่แท้จริงเป็นอย่างไร และยังไม่ปักใจเชื่อว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนั้นขึ้นส่วนการตรวจขันตามแคมป์คนงาน นายพงศ์กวิน ระบุว่า ขณะนี้มีการตรวจการตามปกติอยู่แล้ว และไม่มีปัญหาอะไร
“เชื่อว่า หากเป็นแรงงานที่เคยทำงานในไทย จะมีความเข้าใจเรื่องนี้เป็นอย่างดีในกรณีที่เกิดสถานการณ์ที่อ่อนไหว ยืนยันว่า ไทยไม่มีปัญหา และสุดท้ายแล้วขอให้ความมั่นใจว่า เราจะปฏิบัติกับแรงงานที่เป็นแรงงานสัญชาติต่างๆ อย่างเท่าเทียมกับคนไทยในทุกๆ มิติ”นายพงศ์กวิน กล่าว
เล็ง MOU รับแรงงานศรีลังกา
กระทรวงแรงงานมีแผนรองรับในกรณีที่แรงงานกัมพูชากลับประเทศจำนวนมาก โดยจะพิจารณาจัดหาแรงงานสำรองจากประเทศอื่นที่มีความพร้อม และขณะนี้ยังมีแรงงานต่างด้าวที่รอการขึ้นทะเบียนอีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งสามารถนำเข้าสู่ระบบงานได้ทันที
นายพงศ์กวิน กล่าวว่า ยังไม่มีผลกระทบต่อกิจการในภาพรวมมากนัก ซึ่งกระทรวงแรงงานจะมีการเพิ่มนำแรงงานจากศรีลังกาเข้ามา แต่ขณะนี้อยู่ในระหว่างการพูดคุย ก็ต้องดูว่าฝ่ายความมั่นคงอนุญาตหรือไม่ หากอนุญาตก็จะมีการนำเข้าแรงงานศรีลังกาเข้ามาทดแทนต่อไป
“ยังไม่มีการเซ็น MOU กับศรีลังกาอย่างชัดเจน และต้องดูว่า MOU จะเป็นลักษณะแบบไหน และสุดท้ายก็ต้องดูว่าแรงงานในตลาดที่ต้องการมีจำนวนเท่าไร”นายพงศ์กวิน กล่าว
ขอให้ทุกฝ่ายมั่นใจ แม้จะมีแรงงานบางส่วนเดินทางกลับประเทศ แต่จะไม่กระทบต่อภาพรวมทางเศรษฐกิจ กระทรวงแรงงานมีแรงงานสำรองเพียงพอต่อความต้องการของตลาดแรงงานในประเทศอย่างแน่นอน และได้ติดตามประเมินผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานของอุตสาหกรรมที่พึ่งพาแรงงานข้ามชาติ เช่น อาหารทะเล เกษตรกรรม และการผลิตภาคแปรรูป เพื่อวางแผนบรรเทาผลกระทบอย่างเป็นระบบ
พิสูจน์อักษร….สุรีย์ ศิลาวงษ์