คะแนนนิยม ทรัมป์ ยังติดลบ ประชาชนกังวลเงินเฟ้อ-นโยบายภาษี
ผลสำรวจ CNBC ล่าสุดเผยประชาชนสหรัฐฯ ส่วนใหญ่ไม่พอใจการบริหารเศรษฐกิจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โดยเฉพาะในประเด็นเงินเฟ้อ ภาษี และการใช้จ่ายภาครัฐ
วันที่ 8 สิงหาคม 2568 สำนักข่าว CNBC รายงานว่า ผลสำรวจ CNBC All-America Economic Survey ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 29 กรกฎาคม – 3 สิงหาคม 2025 พบว่า คะแนนความนิยมของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทั้งในด้านภาพรวมและการบริหารเศรษฐกิจ ยังคงอยู่ในระดับ “ติดลบ” แม้จะปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับผลสำรวจเดือนเมษายน
โดยคะแนนนิยมในภาพรวมอยู่ที่ 46% ขณะที่คะแนนไม่เห็นด้วยอยู่ที่ 51% ส่วนการบริหารเศรษฐกิจมีผู้เห็นด้วยเพียง 45% และไม่เห็นด้วย 53% ซึ่งนับเป็นครั้งที่สองติดต่อกันที่คะแนนนิยมด้านเศรษฐกิจต่ำกว่าคะแนนนิยมโดยรวม ซึ่งต่างจากสมัยแรกที่ทรัมป์มีคะแนนนิยมด้านเศรษฐกิจสูงกว่าเสมอ
การบริหารปัญหาเงินเฟ้อและนโยบายภาษีถูกวิจารณ์หนัก
แม้เศรษฐกิจโดยรวมจะมีสัญญาณดีขึ้น เช่น ความเชื่อมั่นในตลาดหุ้นที่เพิ่มขึ้น และมุมมองที่ดีขึ้นของสาธารณชนเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจ แต่ประชาชนส่วนใหญ่ยังมองว่าเงินเฟ้อยังเป็นปัญหา โดย 60% ระบุว่ารายได้ของตน “ไม่ทันค่าครองชีพ” และ 67% เชื่อว่านโยบายภาษีศุลกากร (tariffs) ของทรัมป์ทำให้ราคาสินค้าทั่วไปสูงขึ้น
นอกจากนี้ คะแนนนิยมของทรัมป์ในประเด็นต่าง ๆ ส่วนใหญ่ยังคงติดลบ เช่น นโยบายต่างประเทศ (-14 คะแนน), การใช้จ่ายภาครัฐ (-19), ภาษี (-13), และเงินเฟ้อ (-23) โดยเฉพาะในหมู่ผู้มีรายได้น้อยและผู้หญิง
คนอเมริกันส่วนใหญ่ยังสนับสนุนการค้าเสรี และมองว่า Tariffs ช่วยธุรกิจในประเทศแต่ทำร้ายผู้บริโภค
แม้ประชาชนส่วนใหญ่ (73%) เห็นว่าการค้าเสรีกับต่างประเทศเป็น “โอกาส” มากกว่า “ภัยคุกคาม” แต่ในแง่ของภาษีศุลกากรหรือ tariffs กลับมีมุมมองแบบสองด้าน โดย 49% เชื่อว่าภาษีศุลกากรทำร้ายแรงงาน ขณะที่ 47% เชื่อว่าช่วยผู้ผลิตภายในประเทศ อย่างไรก็ตาม ประชาชนจำนวนมากยังมองว่า tariffs ส่งผลต่อเงินเฟ้อและต้นทุนชีวิตประจำวัน
ผลสำรวจยังชี้ให้เห็นว่าประชาชนเริ่มโน้มเอียงไปทางพรรคเดโมแครตในการควบคุมสภาคองเกรสมากขึ้น โดยคะแนนความนิยมเพิ่มขึ้นเป็น 49% เทียบกับรีพับลิกันที่ 44% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2021 อย่างไรก็ตาม ความนิยมของพรรคเดโมแครตในหมู่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งกลับติดลบถึง -32 จุด โดยมีผู้เห็นด้วยเพียง 24% และไม่เห็นด้วย 56% ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 1996
นโยบายชายแดนคือจุดเดียวที่ทรัมป์ยังได้รับการสนับสนุน
ในบรรดานโยบายหลัก 7 ด้านที่ถูกสำรวจ มีเพียงนโยบายด้านความมั่นคงบริเวณชายแดนใต้ที่ยังได้รับความนิยม โดยมีผู้เห็นด้วย 53% ขณะที่ 44% ไม่เห็นด้วย ส่วนในประเด็นการเนรเทศผู้อพยพนั้น ประชาชนแบ่งเป็นสองฝั่งอย่างชัดเจน 49% เห็นด้วย และ 49% ไม่เห็นด้วย สะท้อนถึงความขัดแย้งทางการเมืองที่ลึกซึ้งในสังคมอเมริกัน
สรุป: ความเห็นต่อทรัมป์ในช่วงนี้ “ทรงตัว” แต่ความกังวลเชิงนโยบายยังสูง
นักวิเคราะห์มองว่าแม้คะแนนนิยมของทรัมป์โดยรวมจะไม่เปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ แต่รายละเอียดในแต่ละประเด็นแสดงถึงความไม่พอใจสะสม โดยเฉพาะในด้านเศรษฐกิจ เงินเฟ้อ และนโยบายภาษี ขณะที่ความเห็นต่ออนาคตเศรษฐกิจยังสับสน สะท้อนถึงความไม่มั่นคงทางการเมืองและเศรษฐกิจที่กำลังส่งผลต่อการตัดสินใจของผู้มีสิทธิเลือกตั้งในอนาคต
อ้างอิง : cnbc.com