โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

Colors of the Wind เพลงจากการ์ตูน Pocahontas อายุ 30 ปีที่อยู่ๆ ก็โดนใจคนเจนฯ Z เพราะมันอาจพูดถึงสถานการณ์โลกและผู้คนยุคนี้ได้อย่างร่วมสมัย

Mirror Thailand

อัพเดต 2 วันที่แล้ว • เผยแพร่ 2 วันที่แล้ว
ภาพไฮไลต์

ในยุคที่บรรดาการ์ตูนแห่งความทรงจำสมัยเด็กๆ ของใครหลายคนจากค่ายวอลต์ ดิสนีย์ ถูกหยิบยกมาขัดถูใหม่ออกมาเป็นเวอร์ชั่นคนแสดง (Live Action) มากมายหลายเรื่องอยู่เรื่อยๆ อย่างล่าสุดก็เรื่อง Lilo & Stitch ที่ชวนให้เราย้อนวันวานได้อย่างอบอุ่นหัวใจอีกครั้ง

และ Pocahontas ก็เป็นหนึ่งในการ์ตูนดิสนีย์เพียงไม่กี่เรื่องที่โชคร้ายหน่อยตรงที่ว่ามันเต็มไปด้วยประเด็นเปราะบางซึ่งอาจทำให้แฟนๆ ไม่น่าจะได้เห็นมันในเวอร์ชั่นคนแสดงในเร็วๆ นี้ก็จริง แต่อยู่ๆ เพลงซาวด์แทร็กอย่าง Colors of the Wind จากการ์ตูนเรื่องนี้ที่ฉายครั้งแรกเมื่อปี 1995 ก็กลับกลายเป็นเพลงการ์ตูนดิสนีย์ที่คนรุ่นใหม่หลายคนบอกว่าพวกเขา ‘อิน’ กับมันอย่างไม่น่าเชื่อ!

อันที่จริงแล้วตัวเนื้อเรื่องที่ได้แรงบันดาลใจมาจากเรื่องจริงในประวัติศาสตร์ของการ์ตูนยุค 90s อย่าง Pocahontas นั้นถูกวิพากษ์วิจารณ์และชวนถกเถียงกันมาตลอดว่า ‘มีปัญหา’ กับการที่มัน Romanticise และเผยแพร่ทัศนคติบางอย่างที่ไม่ถูกต้องนัก อย่างเช่นการล่าอาณานิคม การเข่นฆ่าชนพื้นเมืองเพื่อแย่งชิงดินแดน การเเบ่งแยกเชื้อชาติสีผิว แล้วแทนที่ด้วยเรื่องราวความรักโรแมนติกของหนุ่มนักสำรวจคนขาวกับหญิงสาวพื้นเมือง อะไรแบบนั้น

ทว่าเนื้อหาในเพลงประกอบอย่าง Colors of the Wind ที่ว่าด้วยการเคารพธรรมชาติและผู้คนที่อาจแตกต่างจากเรา กลับโดนใจคนรุ่นใหม่โดยเฉพาะชาวมิลเลนเนียลและเจนฯ Z ที่เติบโตมาทันได้ดูการ์ตูน หรือมีโอกาสได้ย้อนฟังเพลงนี้ หนึ่งในนั้นก็คือ Lanie Pritchett สาว Tiktok วัย 22 จากมหาวิทยาลัย Stephen F. Austin State ในเท็กซัส ที่เคยหยิบยกบางท่อนจากเพลงการ์ตูนเรื่องนี้มาลิปซิงค์ในวันที่ Donald Trump เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เป็นครั้งที่ 2 ซึ่งเธอบอกว่าอยากหยิบเพลงนี้มาสื่อสาร ‘บางสิ่ง’ ที่อยู่ในใจ จนกระทั่งคลิปของเธออันนั้นกลายเป็นไวรัลที่มีคนดูกว่าครึ่งล้านในชั่วข้ามคืน

นั่นอาจเป็นเพราะว่า Colors of the Wind คือเพลงที่มีแมสเสจไม่ธรรมดาอยู่ในนั้นมาตั้งแต่ก่อนกาล ทั้งเรื่องความแตกต่างหลากหลาย (Inclusivity) ของเชื้อชาติวัฒนธรรม ผู้คน วิถีชีวิต ความคิดความเชื่อ รวมไปถึงเรื่องของธรรมชาติ สิ่งแวดล้อมและโลก ซึ่งถ่ายทอดออกมาเป็นภาษาที่สวยงาม นั่นทำให้มันยังมันเป็นส่วนหนึ่งของป๊อปคัลเจอร์ในทุกวันนี้ได้อย่างน่ามหัศจรรย์ แม้จะมีอายุอานามร่วม 30 ปีแล้วก็ตาม อย่างท่อนหนึ่งของเพลงที่น่าจะสื่อสารกับสถานการณ์ทุกวันนี้ที่ว่า :

“You think the only people who are people

Are the people who look and think like you

But if you walk the footsteps of a strangerYou'll learn things you never knew, you never knew… ”

“ท่านคิดว่ามีแค่คนกลุ่มเดียวที่เป็นมนุษย์

คือพวกพ้องที่มองและคิดเห็นเหมือนอย่างท่าน

แต่หากท่านดินตามรอยเท้าแห่งคนแปลกหน้า

ท่านจะได้เรียนรู้สิ่งใหม่ที่ไม่มีวันจะได้รู้… ”

เพลงที่ได้รางวัลออสการ์ สาขา Best Original Song รวมถึงรางวัลแกรมมี่ สาขาเพลงยอดเยี่ยมในเวลานั้นอย่าง Colors of the Wind เป็นเพลงที่ถูกเขียนขึ้นตั้งแต่ในปี 1992 โดยนักแต่งเพลง Alan Menken และนักเขียนบทละครบรอดเวย์ Stephen Schwartz เพื่อใช้เป็นเพลงประกอบการ์ตูนเรื่อง Pocahontas ที่ว่าด้วยหญิงสาวชนพื้นเมืองกับหนุ่มนักสำรวจชาวอังกฤษผู้มาเยือนดินแดนไกลโพ้นที่เขาไม่รู้จักในยุคล่าอาณานิคมของชาวยุโรปช่วงปี ค.ศ. 1600s

และโดยไม่ได้คำนึงถึงวิถีชีวิตของผู้คนที่อยู่อาศัยบนผืนแผ่นดินนี้มาก่อนอย่างชาวพื้นเมืองโพวฮาตาน (Powhatan) ซึ่งตั้งถิ่นฐานอยู่ในบริเวณที่เป็นรัฐเวอร์จิเนียและแมรีแลนด์ในปัจจุบัน หญิงสาวผิวทองแดงจึงสอนให้หนุ่มผิวขาวรู้จักเคารพสิ่งที่อยู่รอบตัว นั่นก็คือธรรมชาติ รวมถึงสรรพสัตว์และผู้คน ซึ่งสำหรับเขาและกลุ่มคนผู้มาเยือนอาจมองว่าเป็นแค่ดินแดนห่างไกลความเจริญ ไร้อารยธรรมศิวิไลซ์ เหมือนเป็น ‘คนป่า (เถื่อน)’ แต่ใดๆ แล้วทุกคนก็ล้วนเป็นมนุษย์เหมือนๆ กัน ตามเนื้อเพลงท่อนหนึ่งที่ร้องว่า ‘whether we are white or copper skinned’ คือไม่ว่าเราจะเป็นคนผิวขาวหรือทองแดง ก็ควรที่จะเคารพสิทธิเสรีภาพของกันและกันอย่างมนุษย์คนหนึ่งเฉกเช่นเดียวกัน

ผู้ร่วมแต่งเพลงอย่าง Stephen Schwartz บอกว่า เขาเเรงบันดาลใจของเนื้อเพลงนี้นั้นได้มาจากถ้อยคำของ Chief Seattle หรือหัวหน้าอินเดียนแดงเผ่าดูวามิช (Duwamish) และเผ่าซูความิช (Suquamish) เจ้าของสุนทรพจน์ที่เขียนถึง Franklin Pierce ประธานาธิบดีคนที่ 14 ของอเมริกา ในตอนที่รัฐบาลของคนผิวขาว ณ ขณะนั้นมีความต้องการขอซื้อดินแดนของชาวอินเดียนแดงในยุคกลางคริสต์ศตวรรษที่ 19 โดยมีเนื้อหาว่า :

“ประธานาธิบดีที่วอชิงตันได้ส่งข่าวมาว่าท่านใคร่ซื้อผืนแผ่นดินของเรา แต่พวกท่านอาจซื้อขายผืนฟ้าได้หรือไร และความอบอุ่นของผืนแผ่นดินนี้เล่า อาจซื้อขายได้ละหรือ สำหรับพวกเราแล้ว ความคิดเช่นนี้ ช่างเป็นความคิดที่ประหลาดนัก ในเมื่อพวกเรามิได้เป็นเจ้าของความสดชื่นในอากาศ ทั้งประกายระยิบระยับของสายน้ำก็ไม่ใช่สมบัติของเรา เช่นนี้แล้ว ท่านจะสามารถซื้อมันได้ด้วยหรือ”

“ทุกอณูอนุภาคของผืนพิภพนี้เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์สำหรับประชาชนของข้าพเจ้า ในทุกประกายของใบสน ในทุกเม็ดของทรายตามชายฝั่ง ในทุกเกล็ดหมอกกลางป่าไม้สีดำ ในทุกๆ เสียงร่ำร้องอึงอลของหมู่แมลง…เราเป็นส่วนหนึ่งของโลก และโลกก็เป็นส่วนหนึ่งของเรา ดอกไม้หอมคือน้องสาวของเรา ทั้งกวาง ม้า และอินทรีใหญ่ ต่างก็เป็นพี่น้องของเรา ทั้งยอดผา น้ำหวานในทุ่งหญ้า ไออุ่นในตัวลูกม้าและในกายมนุษย์ สิ่งเหล่านี้ทั้งหมดต่างอยู่ร่วมในครอบครัวเดียวกัน”

และเนื้อหาท่อนนี้นี่เองที่ได้ปรากฏอยู่ในเพลง Colors of the Wind อย่างสวยงาม ถ่ายทอดด้วยภาษาที่สละสลวยว่า :

“You think you own whatever land you land on

The Earth is just a dead thing you can claim

But I know every rock and tree and creature

Has a life, has a spirit, has a name”

“ท่านคิดว่าเธอครอบครองดินแดนใดก็ได้ที่ย่างเหยียบ

ผืนดินนี้เป็นเพียงสิ่งไร้ชีวิตที่ท่านต้องการ

แต่ข้ารู้ดี ทั้งหิน ทั้งพฤกษา และทุกสรรพสิ่ง

มีทั้งนาม และมีชีวิต มีจิตใจ”

โดยผู้แต่งอย่าง Menken เคยให้สัมภาษณ์ว่าถ้อยคำอันทรงพลังของอินเดียนแดงเหล่านี้เป็นประเด็นที่สำคัญมากๆ ในเรื่องของการเคารพธรรมชาติ และถึงแม้เพลงจะมีเนื้อหาที่ค่อนข้างแรง ตรงไปตรงมา มันก็ไม่เคยถูกตีกลับจากทางดิสนีย์เลยตั้งแต่เขาเสนอมันให้กับสตูดิโอ แถม Jeffrey Katzenberg ผู้อำนวยการสตูดิโอขณะนั้นก็อีเมล์กลับมาหาด้วยว่า เขาเอาแต่เล่นเพลงนี้ในเครื่องเล่นพกพา แล้วก็เปิดมันให้คนโน้นคนนี้ฟังซ้ำไปซ้ำมาหลายรอบ เพราะชอบมากๆ เลยละ

ในตอนแรก ค่ายดิสนีย์ต้องการจะให้นักร้องชาวอเมริกันพื้นเมืองจริงๆ เป็นคนร้องเพลงนี้ในเวอร์ชั่นออริจินัลซาวด์แทร็ก แต่สุดท้ายก็ลงเอยที่มันถูกขับร้องโดย Judy Kuhn นักร้อง-นักแสดงละครบรอดเวย์เจ้าของเสียงอันเป็นเอกลักษณ์ แต่อย่างไรก็ตาม ตัวละครนางเอกอย่างโพคาฮอนทัสนั้น ดิสนีย์ก็ได้เลือก Irene Bedard ซึ่งเป็นชาวอเมริกันพื้นเมืองแท้ๆ มาเป็นผู้ให้เสียงพากษ์

ผู้ร้องเพลงนี้อย่าง Judy Kuhn เองยังยอมรับว่ามองย้อนกลับไปในเวลานั้น เพลงนี้ช่างฟังดูแปลกประหลาด และเธอก็ไม่คิดว่ามันจะเชื่อมโยงอะไรกับใครได้มากมายขนาดนี้ “สำหรับฉันมันฟังดูเศร้า แต่ก็เปี่ยมด้วยความหมายลึกซึ้งตลอดกาลจริงๆ ค่ะ” Judy Kuhn กล่าว

นอกจากนั้นแล้ว บรรดาชาวมิลเลนเนียลและเจนฯ Z ยังหยิบเพลงนี้ไปแปลในอีกหลายภาษา ให้กับหลากหลายบริบทของสิ่งที่พวกเขา ‘อิน’ อย่างเช่น Tiktoker ชาวออสเตรเลียน คนหนึ่งที่ใช้เพลงนี้ร้องให้กับการต่อต้านการเลือกปฏิบัติกับชนเผ่าอะบอริจิน ซึ่งเป็นชนเผ่าพื้นเมืองในออสเตรเลีย

เช่นเดียวกับ Alex Rose Holiday นักร้อง-นักแต่งเพลง วัย 27 ซึ่งเป็นชาวอเมริกันเชื้อสายนาวาโฮ (Navajo) กลุ่มชาติพันธ์ุอินเดียนแดงที่ใหญ่ที่สุดในทวีปอเมริกาเหนือ ได้แปลเพลงนี้เป็นภาษานาวาโฮ โดยยอมรับว่าเราอาจจะต้องแยกแยะระหว่างเนื้อเรื่องที่ถูกกระแสสังคมต่อต้านว่าส่งเสริมความคิดที่รุนแรงและเป็นอันตรายของการเหมารวมคนพื้นเมืองอเมริกัน กับเนื้อเพลง Colors of the Wind ซึ่งให้ความหมายที่แตกต่างออกไป

“ฉันรู้สึกว่าเพลงนี้มันแยกออกจากตัวการ์ตูนนะ มันเป็นเพลงที่กล่าวถึงมุมมองที่เรามีต่อธรรมชาติและโลกของพวกเรามากกว่า” Alex Rose Holiday กล่าว และการร้องเพลงนี้ใหม่ในภาษาพื้นเมืองนาวาโฮสำหรับเธอนั้นก็ยิ่งเหมือนเป็นการ ‘เรียกคืน’ คุณค่าของความเป็นมนุษย์ โดยเฉพาะกับคนที่มีความแตกต่างหลากหลายทางเชื้อชาติอย่างเธอ “สำหรับฉัน มันคือการทวงคืนบางอย่างจากผู้คนที่แต่งมันขึ้นมา แล้วสร้างสรรค์มันใหม่ในแบบของพวกเราต่างหากค่ะ”

ก็อาจจะเหมือนกับที่หลายคนบอกว่า ความน่าทึ่งของเพลง Colors of the Wind คือการที่มันพูดถึงสิ่งเหล่านี้อย่างกว้างๆ ไม่ว่าเราจะมาจากวัฒนธรรมแบบไหน เชื้อชาติ ผิวสีอะไร หรือมีความเชื่อแบบใด ซึ่งนี่อาจเป็นสิ่งที่ทำให้มันสามารถ ‘สื่อสาร’ และเข้ากันได้กับแทบทุกบริบทความเป็นไปทั้งของเราและของโลกได้ในทุกยุคสมัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบันนั่นเอง

อ้างอิง

https://www.nytimes.com/2025/06/30/movies/colors-of-the-wind-pocahontas.html

https://www.archives.gov/publications/prologue/1985/spring/chief-seattle.html

https://www.sarakadee.com/2009/07/19/another-american-for-green-world/

https://mindfurie.wordpress.com/2014/09/07/%E0%B9%81%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%A5%E0%B8%87-colors-of-the-wind-pocahontas/

‘ถ้อยประท้วงของคนป่า’ แปลเป็นภาษาไทยและเรียบเรียงโดย พจนา จันทรสันติ ตีพิมพ์หนังสือ ณ ที่ดวงตะวันฉายแสง จาก Chief Seattle’s Speech ถ้อยความประวัติศาสตร์ของหัวหน้าเผ่าชาวอินเดียนแดง ถึงประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในปี ค.ศ. 1854, นิตยสาร The Aborigines

อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง

ตามบทความก่อนใครได้ที่
- Website : Mirror Thailand.com

Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก Mirror Thailand

หมัดฮุกในสังเวียนชีวิตของ ‘MILLI’ ผู้เรียกตัวเองว่า ‘Woman Fighter’ และถึงแม้จะภูมิใจในตัวเอง แต่บางวันก็ยังรู้สึกแย่ เพราะคำตัดสินจากคนอื่น

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

‘แฟนไม่อยู่ หนูร่าเริง’ คำแซวจากเพื่อนของแฟนที่บางครั้งอาจไม่ใช่เรื่องตลกในความสัมพันธ์ เมื่อมุกที่คนพูดแค่ขำๆ อาจทำให้เกิดรอยร้าวในใจคน

3 ชั่วโมงที่ผ่านมา

อาจต้องไม่ลืมว่า ‘เจ๊หงส์’ เป็นอาชญากรแอบถ่าย ไม่ใช่เพียง ‘ไอดอล’ ด้านการกินผู้ชายหล่อและเหล่าหนุ่มตี๋ที่บางคนขอวาร์ปก็ล้วนเป็น ‘เหยื่อ’ ได้เช่นเดียวกับเพศอื่นๆ

4 ชั่วโมงที่ผ่านมา

อัปเดตภาคต่อหนังแฟชั่นแห่งยุค! The Devil Wears Prada 2 กับการเปลี่ยนผ่านสู่โลกดิจิทัลและวิกฤติของสื่อแฟชั่น ที่แฟนๆ หวังว่ามันจะโอบรับความแตกต่าง และใจดีกับทุกคนมากขึ้น

7 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความไลฟ์สไตล์อื่น ๆ

งดงามชุ่มฉ่ำ “น้ำตกตาดฟ้า” กลางผืนป่าภูเวียง จ.ขอนแก่น

Manager Online

สำนักพุทธฯ เครียด ไม่เคยเจอวิกฤต นารีพิฆาต ข้องใจ ทำไมผู้หญิงคนเดียว เอี่ยวพระจำนวนมาก

MATICHON ONLINE

“อธิเกียรติ จิราธิวัฒน์” ทายาทรุ่นใหม่เซ็นทรัล เน้นสร้างทีมงานเข้าถึงใจคนดีกว่าใช้หุ่นยนต์

Manager Online

Infinite Workday การงานล้ำเส้นชีวิต เป็นมือที่ 3 เพิ่มการหย่าร้าง

กรุงเทพธุรกิจ
วิดีโอ

หมอยง เผย ระวัง"เห็บ"กัดคน แพร่เชื้อไวรัส โรคไข้สูงเกล็ดเลือดต่ำ ติดจากเห็บ พบทั่วไทย เสี่ยงตาย ยังไร้ยารักษา

BRIGHTTV.CO.TH

ถอดรหัส 5 บทเพลงเยียวยาแผลใจ ในวันที่โลกใจร้ายกับคุณ

Thairath Plus - ไทยรัฐพลัส

NCT DREAM คัมแบ็กพร้อมอัลบั้ม Go Back To The Future ที่เล่าเรื่องการเดินทางข้ามเวลา

THE STANDARD

สาวกกระทิงดุเมืองไทย ยลโฉม “Temerario” ก่อนใคร!?

Manager Online

ข่าวและบทความยอดนิยม

ฮยอนจู ‘ออนนี่’: หญิงแกร่งแห่ง Squid Game ที่นักแสดงชาย ‘พัคซองฮุน’ อยากให้คนดูทุกเพศเข้าใจ รับฟัง เอาใจช่วย ‘หญิงข้ามเพศ’ ซึ่งผ่านเรื่องยากๆ ไม่ใช่แค่ในซีรีส์ แต่รวมถึงชีวิตจริง

Mirror Thailand

Celine Song ผู้กำกับ Past Lives และ Materialists คนทำหนังหญิงที่บอกกับเราว่า "ทางออกเดียวต่อความรัก คือจำยอมต่อมันซะ"

Mirror Thailand

17 ปีของ Lady Gaga กับการยืนหยัดเคียงข้างชาวเกย์และชุมชนคนหลากหลายทางเพศอย่างเข้มข้น

Mirror Thailand
ดูเพิ่ม
Loading...