ไทยไม่กังวลกัมพูชาเชิญคณะทูตลงพื้นที่ เตรียมจัดคณะฝ่ายไทยอาทิตย์นี้
แถลงการณ์สถานการณ์กระทรวงต่างประเทศประจำวันที่ 30 กรกฎาคม 2568 โดย นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงความคืบหน้าประเด็นไทย-กัมพูชา
ประเด็นที่สื่อให้ความสนใจคือ ท่าทีของกระทรวงต่อการที่รัฐบาลกัมพูชาพาคณะทูตและทหาร 13 ประเทศ รวมถึงนักข่าวชาวต่างชาติลงพื้นที่ปะทะไทย-กัมพูชา นำโดย พลเอก ตัน ซรี อัฟเฟนดี บวง ผู้บัญชาการกองทัพมาเลเซีย เพื่อตรวจสอบความเสียหายและความคืบหน้าสถานการณ์หยุดยิง
ในกรณีนี้ นายนิกรเดช กล่าวว่าไม่มีความกังวล เพราะไทยไม่ใช่ผู้ละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ทั้งยังกล่าวว่า ถ้าท่านเป็นฝ่ายกัมพูชาคงจะมีความกังวลมากกว่า เนื่องจากถ้าคณะผู้สังเกตการณ์มีความละเอียดคงจะพบหลักฐานได้
ด้านประเทศไทย กระทรวงกลาโหมกำลังประสานกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และพาคณะทูตและทหารลงพื้นที่เช่นเดียวกัน และที่การพาคณะทูตลงพื้นที่ของไทยมีความล่าช้ากว่า เนื่องจากไทยไม่ทราบว่ากัมพูชาจะละเมิดข้อตกลงหยุดยิงเมื่อใด จึงต้องพิจารณาเรื่องความปลอดภัยของคณะทูตและทหารให้ถี่ถ้วน
อย่างไรก็ดี การเดินทางของคณะทูต-ทหารที่ไทยจัดจะเกิดขึ้นภายในอาทิตย์นี้ คาดว่าจะเป็นวันศุกร์ที่ 1 สิงหาคม 2568 นอกจากประเด็นดังกล่าวที่สื่อมวลชนสนใจ ยังมีประเด็นที่กระทรวงแถลงเป็นเนื้อหาหลักอีก 4 ประเด็น
การดำเนินการต่อการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงของกัมพูชา: ไทยส่งหนังสือแจ้งมาเลเซียในฐานะประธานอาเซียน และหารือกับสหรัฐฯ และจีนในฐานะพยาน รวมถึงสหประชาชาติ ฝ่ายความมั่นคงมีหลักฐานชัดเจนว่ากัมพูชาละเมิดหลายครั้งหลายพื้นที่ การยิงระเบิดเล็กเข้ามาในแดนไทย และการเพิ่มกำลังพลของฝ่ายกัมพูชา นอกจากยื่นหนังสือก็มีการแถลงข่าวประณามจากกองทัพบก กองทัพไทย และการชี้แจงของกระทรวงการต่างประเทศ
กระทรวงเปิดเผยท่าทีสนับสนุนจากหลายประเทศ อาทิ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของเวียดนาม บุ่ย แทงห์ เซิน ที่เดินทางมาหารือประเด็นดังกล่าว โดยท่านสนับสนุนไทยในการใช้วิธีทวิภาคี รวมถึงรัฐมนตรีต่างประเทศญี่ปุ่น โยชิมาซะ ฮายาชิ ที่โทรมาสอบถามประเด็นดังกล่าววันนี้เอง ก็สนับสนุนท่าทีของไทยในการใช้ช่องทางทวิภาคีเช่นกัน
การกดดันให้ฝ่ายไทยดูแลแรงงานชาวกัมพูชา: กระทรวงแรงงานและอาชีวศึกษาออกแถลงการณ์แสดงความกังวลเกี่ยวกับการคุกคาม การทำร้าย และเลือกปฏิบัติต่อแรงงานกัมพูชาในไทย รวมถึงขอให้ผู้ประกอบการที่นำเข้าสินค้า และชาวกัมพูชาที่ซื้อสินค้าจากไทยร่วมกันกดดันไทย ให้มีการประกันงานที่มีคุณค่า และไม่เลือกปฏิบัติ
กระทรวงขอยืนยันว่าแรงงานต่างด้าวทุกประเทศ รวมทั้งกัมพูชาได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมและเป็นธรรม ภายใต้กฎหมายไทย และพันธสัญญาระหว่างประเทศที่ไทยให้ความเคารพ เช่น IOM, ILO และเอกสารด้านสิทธิมนุษยชนที่ไทยเป็นภาคี
กระทรวงย้ำว่า ปัญหาไทย-กัมพูชาเป็นปัญหาระหว่างรัฐ ไม่ใช่ปัญหาประชาชน ไทยไม่มีนโยบายตอบโต้ประชาชนที่อาศัยและทำงานในประเทศไทย และจะไม่ผลักภาระให้ประชาชนทั้งสองประเทศ
การบิดเบือนข้อมูลข่าวสารของกัมพูชา: ไทยขอแสดงความผิดหวังต่อการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จอย่างเป็นระบบของกัมพูชา โดยเฉพาะผ่านกระทรวงกลาโหม ที่มุ่งบ่อนทำลายภาพลักษณ์ของไทยในเวทีระหว่างประเทศ
กระทรวงชี้ว่าการที่กัมพูชายังละเมิดข้อตกลงหยุดยิงอย่างต่อเนื่อง แต่แสดงตนว่าเป็นผู้ถูกกระทำต่อนานาประเทศ แสดงให้เห็นถึงความไม่จริงใจในการร่วมแก้ไขปัญหา ซึ่งจะบั่นทอนการทำให้สถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติ
บทบาทสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ของไทยทั่วโลก: สถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ไทยทั่วโลกกำลังดำเนินการชี้แจงข้อเท็จจริงในพื้นที่รับผิดชอบ
ที่ผ่านมา สถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ได้เผยแพร่ข้อมูลที่เป็นปัจจุบัน ให้รัฐบาล องค์การต่าง ๆ หน่วยงานท้องถิ่น ชุมชนไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้รับรู้ข้อมูลที่ถูกต้องไม่บิดเบือน และมีคณะผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติและอาเซียน และสถานทูตอีกหลายแห่งที่กำลังแถลงบทบาทท่าทีของไทย
กระทรวงต่างประเทศยืนยันว่าฝ่ายไทยไม่เคยละเมิดข้อตกลงหยุดยิงแม้แต่ครั้งเดียว เนื่องจากไทยมุ่งมั่นทำตามคำพูด และเรียกร้องให้กัมพูชาปฏิบัติตามข้อตกลงและกลับเข้าสู่กระบวนการเจรจาอย่างสุจริตใจ