โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

สุขภาพ

คาโรชิซินโดรม (Karoshi Syndrome) ภัยเงียบของการทำงานหนักเกินไป

Amarin TV

เผยแพร่ 21 ชั่วโมงที่ผ่านมา
งานหนักไม่เคยทำร้ายใครจริงหรือ? รู้จัก คาโรชิซินโดรม (Karoshi Syndrome) ภัยเงียบของการทำงานหนักเกินไป

ประเทศญี่ปุ่นค้นพบ ภาวะคาโรชิซินโดรม (Karoshi Syndrome) ในปี 1969 ซึ่งเกิดขึ้นจากชายวัย 29 ปี พนักงานขนส่งของบริษัทหนังสือพิมพ์เจ้าใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น เสียชีวิตจากเส้นเลือดในสมองแตกฉับพลัน

คาโรชิซินโดรม หรือที่รู้จักกันในชื่อภาษาญี่ปุ่นว่า "คาโรชิ" (過労死) คือปรากฏการณ์การเสียชีวิตหรือการเจ็บป่วยรุนแรงที่เกิดจากการ ทำงานหนักเกินไป (overwork) โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำงานล่วงเวลาเป็นจำนวนมากในระยะยาว จนส่งผลให้เกิดปัญหาสุขภาพอย่างเฉียบพลัน เช่น ภาวะหัวใจวาย เส้นเลือดในสมองแตก หรือภาวะอื่น ๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับความเครียดและความเหนื่อยล้าสะสม

คำว่า "คาโรชิ" เริ่มเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายในประเทศญี่ปุ่นตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1970 และ 1980 ซึ่งเป็นช่วงที่เศรษฐกิจญี่ปุ่นเติบโตอย่างก้าวกระโดด และวัฒนธรรมการทำงานหนัก การอุทิศตนเพื่อบริษัท และการแข่งขันสูงเป็นเรื่องปกติ โดยเมื่อปี 2021 องค์การอนามัยโลกได้เผยผลการศึกษาว่า มีผู้เสียชีวิตจากโรคหลอดเลือดสมองและหัวใจซึ่งเป็นผลจากการทำงานหนักเกินไปถึง 7 แสนคนต่อปี

สาเหตุและปัจจัยที่นำไปสู่คาโรชิซินโดรม

• ชั่วโมงการทำงานที่ยาวนาน โดยเฉลี่ยแล้ว การทำงานล่วงเวลาที่เกิน 80 ชั่วโมงต่อเดือน (หรือประมาณ 100 ชั่วโมงในบางกรณี) ถือเป็นเกณฑ์เสี่ยงสูงต่อการเกิดคาโรชิ

• การขาดการพักผ่อน การพักผ่อนไม่เพียงพอ ขาดวันหยุด หรือการพักผ่อนหย่อนใจ

• ความเครียดสูง แรงกดดันจากงาน เป้าหมายที่สูงลิ่ว การแข่งขันภายในองค์กร และความกลัวที่จะถูกมองว่าไม่มีประสิทธิภาพ

• สุขภาพจิต การทำงานหนักอาจนำไปสู่ภาวะซึมเศร้า วิตกกังวล ซึ่งเป็นปัจจัยเสริมให้ร่างกายอ่อนแอลง

• วัฒนธรรมองค์กร วัฒนธรรมที่คาดหวังให้พนักงานทำงานหนักเป็นพิเศษ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมบางประเภท เช่น ไอที การเงิน หรือสื่อ

เช็กลิสต์อาการที่เข้าข่ายคาโรชิซินโดรม

อาการที่เข้าข่ายคาโรชิซินโดรม มักเป็นสัญญาณเตือนว่าร่างกายกำลังแบกรับภาระที่หนักเกินไป และต้องการการพักผ่อนอย่างเร่งด่วน โดยสามารถแบ่งออกเป็นอาการทางกายและอาการทางจิตใจ

อาการทางกาย

• อ่อนเพลีย เหนื่อยล้าเรื้อรัง รู้สึกเหนื่อยตลอดเวลา แม้จะนอนหลับพักผ่อนแล้วก็ยังไม่สดชื่น ไม่รู้สึกว่าได้พักผ่อนอย่างแท้จริง

• นอนไม่หลับ หรือหลับไม่สนิท มีปัญหาในการเริ่มหลับ ตื่นกลางดึกบ่อยครั้ง หรือฝันถึงเรื่องงานจนสมองไม่ได้พักผ่อน

• ปวดเมื่อยตามร่างกาย ปวดหลัง ปวดไหล่ ปวดคอ หรือปวดศีรษะบ่อยครั้ง (คล้ายกับ Office Syndrome แต่รุนแรงกว่า)

• ระบบทางเดินอาหารผิดปกติ เช่น ปวดท้องบ่อย คลื่นไส้ อาหารไม่ย่อย

• อาการทางหัวใจและหลอดเลือด อาจเริ่มมีอาการผิดปกติ เช่น ใจสั่น เจ็บหน้าอก หายใจถี่ หรือความดันโลหิตสูงขึ้น

• น้ำหนักตัวเปลี่ยนแปลง อาจน้ำหนักลดลงหรือเพิ่มขึ้นผิดปกติเนื่องจากความเครียดและการละเลยการดูแลตัวเอง

อาการทางจิตใจและพฤติกรรม

• หมกมุ่นกับเรื่องงานตลอดเวลา คิดถึงแต่งานแม้ในเวลาส่วนตัว หรือเก็บไปฝันเกี่ยวกับการทำงาน

• ความเครียดและแรงกดดันสูง รู้สึกเครียดตลอดเวลา มีความกดดันจากการทำงานสูงมากเกินกว่าที่จะรับมือได้

• หงุดหงิด โมโหง่าย มีความอดทนต่ำ อารมณ์แปรปรวน ฉุนเฉียวง่ายกว่าปกติ

• รู้สึกผิดกับการลาหยุด ไม่กล้าลาป่วย ลาพักผ่อน หรือลาทำธุระส่วนตัว เพราะกังวลว่างานจะค้าง หรือจะถูกมองไม่ดี

• หมดไฟ (Burnout) รู้สึกเบื่อหน่าย ท้อแท้ หมดกำลังใจในการทำงาน ขาดแรงจูงใจ

• ภาวะวิตกกังวล รู้สึกกังวลล่วงหน้า ตื่นตกใจง่าย หรือมีอาการแพนิคเมื่อต้องเผชิญหน้ากับงานหรือหัวหน้า

• รู้สึกโดดเดี่ยว ไม่มีเวลาส่วนตัว ไม่มีเวลาให้ตัวเอง เพื่อนฝูง หรือครอบครัว ทำให้รู้สึกว่าชีวิตมีแต่งาน

• เก็บตัว ไม่อยากเข้าสังคม หลีกเลี่ยงการพบปะผู้คน หรือกิจกรรมสันทนาการที่เคยชอบ

วิธีป้องกันคาโรชิซินโดรม

หากคุณหรือคนใกล้ชิดมีอาการเหล่านี้สะสมเป็นเวลานาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีชั่วโมงการทำงานล่วงเวลา (โอที) ที่สูงมาก (เกิน 80 ชั่วโมงต่อเดือน) ถือเป็นสัญญาณอันตรายที่ต้องรีบหาทางแก้ไขทันที เพราะอาจนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ร้ายแรง เราสามารถป้องกันและแก้ไขได้ ดังนี้

• พักจากงาน หาเวลาว่างให้กับตัวเอง

• แบ่งเวลาจากการทำงานมาทำกิจกรรมที่ช่วยผ่อนคลาย

• ออกกำลังกาย และรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย

• ไม่เก็บเรื่องงานมาคิดหลังเวลางาน ต้องปล่อยวางจากงานบ้าง

• ถ้าเริ่มรู้สึกงานล้นมือมากเกินไป ให้พูดคุยกับหัวหน้างานเพื่อปรับปริมาณของงานให้เหมาะสม

• ขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต เพื่อช่วยบรรเทาความทุกข์ใจ

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก Amarin TV

เปิดภาษากายของน้องหมา ที่แสดงออกว่ากำลังแฮปปี้ มีความสุข

25 นาทีที่แล้ว

ไทยแลนด์แดนเสกความสวย 3 ศัลยกรรมยอดฮิตที่คนกัมพูชาชอบมาทำที่ไทย

31 นาทีที่แล้ว

ตำรวจไซเบอร์ จับ 2 เขมรปล่อยข่าวปลอม เครื่องบินF-16ตก

48 นาทีที่แล้ว

ปฏิกิริยาหุ้นไทย และมุมมองตลาดหลังรู้ผลภาษี 19% เศรษฐกิจรอดภาวะถดถอย?

51 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความสุขภาพอื่น ๆ

จัสติน ทิมเบอร์เลค เผยป่วยโรคลายม์ จากการถูกเห็บกัด

TNN ช่อง16

อัปเดตสถานการณ์ 'พายุวิภา' วันนี้ เสียชีวิตอีก 2 ราย บาดเจ็บ 194 ราย

ฐานเศรษฐกิจ

ไทยแลนด์แดนเสกความสวย 3 ศัลยกรรมยอดฮิตที่คนกัมพูชาชอบมาทำที่ไทย

Amarin TV

ย้ำ หมอไทยไม่เลือกปฏิบัติ รักษาผู้ป่วยทุกสัญชาติ

TNN ช่อง16

Plasmapheresis ช่วยชะลอวัยได้จริงหรือไม่?

TNN ช่อง16

ทำไมรู้สึก “ตาแห้ง–แสบตา–เคืองตา” ตลอดทั้งวัน?

Health At Work

ยาที่ห้ามใช้! เมื่อสงสัยว่าเป็น "ไข้เลือดออก" เพิ่มความเสี่ยง อันตรายถึงชีวิต

TNN ช่อง16

เผยสาเหตุหญิงไทย ป่วยมะเร็งปอดมากกว่า 2 หมื่นรายต่อปี

ฐานเศรษฐกิจ

ข่าวและบทความยอดนิยม

ระวัง โรควูบ หมอเตือน สายนอนน้อย ทำงานหนัก หลังคลิปสาวร่วงทั้งยืนคนดูเกือบ 10 ล้าน

Amarin TV

ช่องทีวี ต้นสังกัดพนักงานเสียชีวิตคาโต๊ะ ยืนยัน เยียวยาอย่างดีที่สุด

Amarin TV

ชั่วโมงทำงานจริง VS ชั่วโมงที่กฎหมายกำหนด ประเทศไหนทำงานหนัก?

Amarin TV
ดูเพิ่ม
Loading...