จีนสั่งห้าม ‘อีคอมเมิร์ซ’ บีบร้านค้าหั่นราคา แก้ปัญหา ‘สงครามราคา-เงินฝืด'
สำนักข่าวนิกเกอิเอเชียรายงานว่า ทางการจีนกำลังเตรียมจัดการกับ แพลตฟอร์มค้าปลีกออนไลน์ ที่มักจะ บังคับให้ร้านค้าต่าง ๆ แข่งกันลดราคาสินค้าให้ต่ำที่สุด
ภายใต้กฎหมายการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม (unfair competition law) ที่แก้ไขใหม่ ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 15 ต.ค. นี้ แพลตฟอร์มออนไลน์จะไม่สามารถบีบให้ผู้ขายลดราคาขายสินค้าและบริการให้ “ต่ำกว่าต้นทุน” ได้อีกต่อไป หรือกระทำการใด ๆ ที่เข้าข่ายรบกวนความสงบเรียบร้อยในตลาด นอกจากนี้แพลตฟอร์มยังไม่สามารถทำพฤติกรรมใดๆ ที่เข้าข่าย รบกวนความสงบเรียบร้อยในตลาดได้อีกด้วย
จีนออกกฎคุม ‘สงครามราคา’ คลายกังวลเงินฝืด
สภาประชาชนแห่งชาติ หรือ NPC ซึ่งเป็นสภานิติบัญญัติสูงสุดของจีน ได้ผ่านการแก้ไข กฎหมายการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. การแก้ไขครั้งนี้จะพุ่งเป้าไปที่ แอปพลิเคชันเรียกรถและจัดส่งอาหาร รวมถึง แพลตฟอร์มค้าปลีกออนไลน์ การเคลื่อนไหวนี้สะท้อนถึงความกังวลของผู้นำระดับสูงของจีนต่อแรงกดดันจากภาวะเงินฝืดที่กำลังเพิ่มสูงขึ้น
นอกจากนี้ ในการประชุมคณะกรรมาธิการกลางกิจการการเงินและเศรษฐกิจของพรรคคอมมิวนิสต์เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ซึ่งมีประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เป็นประธาน ได้ข้อสรุปว่าจะต้องพยายาม ควบคุม "การแข่งขันราคาที่ไม่เป็นระเบียบของวิสาหกิจ" หรือการแข่งขันด้านราคาที่ไม่เป็นธรรม
คุมเข้ม ‘โปรโมชัน-ค่าธรรมเนียมแพลตฟอร์ม’
การเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นท่ามกลางภาวะ ตลาดอสังหาริมทรัพย์จีนที่ซบเซาต่อเนื่องเกือบ 4 ปี ทำให้ผู้คนมีความกังวลเกี่ยวกับอนาคตและเริ่ม ระมัดระวังเรื่องค่าใช้จ่ายมากขึ้น ทำให้ตลาดออนไลน์จีนจึงเต็มไปด้วยโปรโมชั่น "ส่วนลด"
เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว สำนักงานบริหารการกำกับดูแลตลาดแห่งรัฐ (SAMR) ซึ่งเป็นหน่วยงานต่อต้านการผูกขาดของจีน ได้ออกคำสั่งให้ผู้ค้าปลีกออนไลน์หลายราย แก้ไขแนวทางการบริการลูกค้าที่เป็นภาระหนักเกินไปสำหรับร้านค้า
นอกจากนี้ SAMR ยังมองว่าค่าธรรมเนียมที่ผู้ประกอบการอีคอมเมิร์ซเรียกเก็บนั้นเป็นปัญหา อย่างมาก เมื่อปลายเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา หน่วยงานได้เผยแพร่ร่างแนวทางที่เรียกร้องให้มีการ กำหนดค่าธรรมเนียมในระดับที่เหมาะสม โดยต้องคำนึงถึงสถานะทางธุรกิจของผู้ค้าด้วย
การปรับเปลี่ยนนี้มีเป้าหมายเพื่อช่วยเหลือ ธุรกิจขนาดเล็กและเจ้าของกิจการรายบุคคล จำนวนมากที่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมสูง ทั้งที่พวกเขามีข้อจำกัดด้านเงินทุน เป้าหมายหลักคือการ ทำให้ผู้ประกอบการรายย่อยสามารถสร้างกำไรได้ง่ายขึ้น รวมถึงเป็นการ ส่งเสริมการบริโภค โดยเฉพาะในกลุ่มพนักงานและเจ้าของกิจการขนาดเล็กด้วยครับ