คดีดัง "ดีลเลอร์" Front-run กองทุน ดึงอดีตนักโทษ "หมอวิสุทธิ์"ร่วมขบวนการ
เป็นที่ฮือฮาในแวดวงตลาดเงิน-ตลาดทุน เมื่อกระแสข่าวที่มีมูลมานานว่ามีการนำข้อมูลกองทุน-สถาบัน โดยคนในวงการที่ควรมี"วิชาชีพและจรรยาบรรณ" แต่กลับ "แพ้ภัยกิเลสและเงินตรา " นำไปใช้ประโยชน์กับพรรคพวกตัวเองในตลาดหุ้นไทย !!
เรื่องดังกล่าวแดงโร่ !! หลัง สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวโทษผู้กระทำความผิด 3 ราย โดยมีดีลเลอร์ บลจ.บัวหลวง ร่วมด้วยพบซื้อหรือขายหุ้นตัดหน้าการซื้อขายของกองทุน และใช้ข้อมูลการลงทุนของกองทุนทำให้เกิดความเสียหาย ช่วงปี 2566-2567 ซึ่งได้มีการส่งดำเนินคดีต่อ บก.ปอศ. และปปง.
ทั้ง 3 รายประกอบไปด้วย 1. นางสาวปิยาพัชร อุดมรัตน์ 2. นายวิสุทธิ์ บุญเกษมสันติ และ 3. นางนาวินี อุดมรัตน์
โดยมีพฤติการณ์ได้ร่วมกันกระทำการเพื่อตนเองหรือบุคคลอื่น ในประการที่น่าจะทำให้กองทุนรวมเสียประโยชน์ เริ่มจากนางสาวปิยาพัชร ในฐานะพนักงานห้องค้าหลักทรัพย์ (dealer) ของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (ขณะกระทำผิดสังกัด บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวมบัวหลวง จำกัด) ซึ่งรู้หรือครอบครองข้อมูลเกี่ยวกับการซื้อขายหลักทรัพย์ของกองทุนรวมนำข้อมูลดังกล่าว ให้แก่นายวิสุทธิ์ เพื่อนำไปใช้ซื้อขายหุ้นก่อนกองทุนดังกล่าว ในช่วงปี 2566 - 2567 โดยมีนางนาวินีร่วมเกี่ยวข้องกับเงิน
ธุรกรรมที่เกิดขึ้นถือว่ามีความผิดชัดเจน และผู้ที่เกี่ยวข้องยังเป็นอดีตนักโทษ "วิสุทธิ์ บุญเกษมสันติ " หรือหมอฆ่าหั่นศพภรรยาตนเองพญ.ผัสสพร บุญเกษมสันติ เป็นคดีดังสะเทือนขวัญ จนศาลฎีกาพิพากษาประหารชีวิตสถานเดียว ต่อมาหมอวิสุทธิ์ ได้ยื่นขอพระราชทานอภัยโทษ โดยได้รับโปรดเกล้าฯ พระราชทานอภัยโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิต และเนื่องจากปฏิบัติตัวดี ในวันที่ 4 สิงหาคม 2557 หมอวิสุทธิ์ได้รับอิสรภาพ นับรวมระยะเวลาที่หมอวิสุทธิ์ ถูกจำคุกเป็นเวลา 10 ปี 9 เดือน
หลังจากนั้นมีข่าวความเคลื่อนไหว หมอวิสุทธิ์ ได้ตัดสินใจบวชเมื่อ 27 ธันวาคม 2558 ที่วัดปทุมวนาราม นาม พระถิระปุญโญ (หมอวิสุทธิ์ บุญเกษมสันติ) จนมาปรากฎชื่ออีกครั้งด้วยการร่วมกระทำความผิดพรบ.หลักทรัพย์ และฐานฟอกเงิน
แม้จะเป็นคดีความที่เกิดขึ้นมานานข้ามปีถึงสามารถตรวจสอบจนมีหลักฐานมัดตัวผู้กระทำการชัดเจน … แต่ทำให้เห็นช่องโหว่การกระทำความผิดได้ง่ายในวงการตลาดเงินตลาดทุนมากขึ้น