เปิดแผน "เบอร์เกอร์คิง X นารูโตะ" เน้นโตทำกำไร
การแข่งขันในตลาดร้านอาหารบริการด่วน หรือ QSR คุณ อานัส นลินวิลาวัณย์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เบอร์เกอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้บริหารร้าน เบอร์เกอร์ คิง กล่าวว่า มีความรุนแรงมาต่อเนื่อง ซึ่งบริษัทฯ ได้ศึกษาคู่แข่งและติดตามอย่างใกล้ชิด แต่นโยบายของบริษัทฯ คือไม่ไปแข่งขันชนกับใคร โดยจะเน้นเติบโตในด้านผลกำไรเป็นหลัก
ทำให้ การเปิดสาขาใหม่จะมีจำนวนลดลง คือจากเดิมจะเปิดสาขา ไม่ต่ำกว่า 15 สาขาต่อปี แต่หลังจากโควิด 19 มา บริษัทฯ มุ่งเน้นการมีผลกำไร ทำให้การเปิดสาขาจะลดลงเหลือ 5-10 สาขาต่อปี และแต่ละสาขาจะต้องคืนทุนได้ภายใน 3 ปี ดังนั้น การเปิดสาขาใหม่จะต้องเป็นไปอย่างมีกลยุทธ์ ซึ่งจะทำให้การหาโลเคชันมีความยากขึ้นด้วย
ส่วนแผนปีนี้ จะเปิดสาขาใหม่ประมาณ 4-5 สาขา และจะเริ่มในช่วงครึ่งปีหลัง จากปัจจุบันมีสาขาเบอร์เกอร์คิง อยู่แล้วจำนวน 102 สาขาทั่วประเทศ
ด้านกำลังซื้อ พบว่าลดลงอย่างเห็นได้ชัด โดยลูกค้าลดความถี่ในการเข้าร้าน จากเดิม 4-5 ครั้งต่อสัปดาห์ เหลือ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ รวมถึงจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ลดลง ยังส่งผลกระทบต่อสาขาที่เน้นกลุ่มนักท่องเที่ยว เช่นที่สนามบิน อีกด้วย
ดังนั้น กลยุทธ์ในช่วงที่เศรษฐกิจไม่ดีนัก จะต้องมีโพรดักส์ที่สามารถตอบโจทย์ลูกค้าในด้านความคุ้มค่าของการใช้จ่ายในแต่ละครั้ง ขณะเดียวกัน จะมีเมนูหลากหลายมากขึ้น และมีการพัฒนาเมนูใหม่ ๆ ออกมาต่อเนื่อง เพื่อสร้างโอกาสในการเพิ่มยอดขาย รวมถึง เมนูพรีเมียม ตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มมีกำลังซื้อ จะทำให้ แม้ความถี่จะลดลงไป แต่จะมียอดขายเพิ่มขึ้นในบางกลุ่ม ซึ่งบริษัท ฯ เชื่อว่า สามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้ระดับหนึ่ง
สำหรับลูกค้านักท่องเที่ยวต่างชาตินั้น ปัจจุบันมีสัดส่วนราวร้อยละ 20 เดิมลูกค้าฝั่งตะวันตก เช่น จากอเมริกา และยุโรป มีกำลังซื้อสูง แต่เมื่อกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เข้ามาไทยเปลี่ยนไป เป็น อินเดีย อิสราเอล หรือมาเลเซีย เป็นต้น จึงมีการปรับเมนูเพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าเหล่านี้มากขึ้นแทน
ขณะเดียวกัน บริษัทฯ จะมีการออกแคมเปญต่อเนื่อง เน้นไปที่การสร้างความตื่นเต้นด้านอารมณ์ ให้ลูกค้าได้มีส่วนร่วมในแคมเปญ และเพื่อขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ มากขึ้น
เช่นล่าสุด แคมเปญ เบอร์เกอร์คิง X (คอลแลบ) นารูโตะ เกิดขึ้นจากการใช้ดาต้า ด้านพฤติกรรมของผู้บริโภค ที่พบว่า กลุ่มเจน Y และ Z และรวมไปถึง X ด้วย จะโหยหาประสบการณ์จากวัฒนธรรม ป๊อป คัลเจอร์ ที่เคยได้รับความนิยมในอดีต จึงได้นำมาทำเป็นแคมเปญเพื่อสร้างความเชื่อมโยงทางอารมณ์กับกลุ่มเป้าหมาย ซึ่ง นารูโตะ ถือเป็นท็อป 3 อนิเมะที่ครองใจคนทั่วโลก
คุณ อานัส กล่าวด้วยว่า เป้าหมายในระยะ 3 ปีนี้ จะเน้นขยายฐานลูกค้าเป็นหลัก ให้เติบโตเป็นตัวเลข 2 หลักในแต่ละปี ส่วนปีนี้ ตั้งเป้าการเติบโตของฐานลูกค้าอยู่ที่ร้อยละ 15 แต่ครึ่งปีที่ผ่านมาเห็นตัวเลขเติบโตอยู่ที่ร้อยละ 12-13 ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะอยู่ในช่วงโลว์ ซีซั่น
แต่คาดว่าเมื่อนักท่องเที่ยวกลับมาในช่วงไตรมาส 4 เศรษฐกิจน่าจะกระเตื้องขึ้นได้ และการใช้จ่ายของคนไทยก็น่าจะดีขึ้น ซึ่งครึ่งปีหลังถือเป็นช่วงที่ท้าทาย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง