ทำไมคดีสุดฉาวและการเสียชีวิตของ ‘เจฟฟรีย์ เอปสตีน’ กำลังทำให้ฐานเสียงสำคัญของทรัมป์สั่นคลอน?
ดูเหมือนว่าการเสียชีวิตในคุกของ ‘เจฟฟรีย์ เอปสตีน’ มหาเศรษฐีการเงินผู้ที่ตกเป็นประเด็นฉาวทั่วสหรัฐฯ จะกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการสืบสวนครั้งใหญ่ เมื่อล่าสุดหลักฐานที่ถูกเปิดเผยออกมาดันมีชื่อของ ‘โดนัลด์ ทรัมป์’ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ (เคยอ้างว่า) เลิกเป็นเพื่อนกับเอปสตีนไปนานแล้ว
หลักฐานเหล่านี้เปิดเผยโดย Wall Street Journal (WSJ) ซึ่งเป็นจดหมายที่ส่งถึงเอปสตีนเนื่องในวันเกิดครบ 50 ปีของเขา เมื่อปี 2003 ซึ่งหนึ่งในนั้นมีจดหมายที่ลงชื่อทรัมป์ ซึ่งเป็นปรากฎเป็นภาพวาดเปลือยของผู้หญิงคนหนึ่งและมีลายเซ็น ‘โดนัลด์’ พร้อมข้อความว่า “สุขสันต์วันเกิด — และขอให้ทุกวันเป็นความลับอันแสนวิเศษอีกครั้ง”
ทรัมป์บอกกับ WSJ เมื่อวันอังคาร (15 กรกฎาคม) ที่ผ่านมาว่า เขาไม่ได้เป็นคนเขียนจดหมายฉบับนี้ และขู่ว่าจะฟ้องร้อง WSJ และรูเพิร์ต เมอร์ด็อก (Rupert Murdoch) เจ้าพ่อวงการสื่อ ช่วงเวลาเดียวกับที่โฆษกทำเนียบขาวออกมาเตือนถึงการตีแผ่เรื่องนี้ และบอกว่าจดหมายฉบับนี้เป็นของปลอม
ด้านรองประธานาธิบดี เจดี แวนซ์ (JD Vance) แสดงความคิดเห็นบนโซเชียลมีเดียโดยกล่าวว่า เรื่องนี้ “ไร้สาระสิ้นดี” อย่างไรก็ตาม รายงานของ WSJ มีแนวโน้มว่าจะไปกระตุ้นให้มีการตรวจสอบการทำงานของทรัมป์ต่อคดีของเอปสตีนที่ละเอียดมากขึ้นและเรื่องนี้กำลังทำให้ฐานเสียงของทรัมป์อย่าง MAGA เกิดความระส่ำระส่าย
ความขุ่นเคืองของเหล่า MAGA (ฐานเสียงสำคัญของทรัมป์) เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา หลังจากที่กระทรวงยุติธรรมออกมาแถลงว่า เอปสตีนไม่ได้ระบุชื่อลูกค้าเอาไว้ และจะไม่มีการเปิดเผยข้อมูลคดีของเอปสไตน์สู่สาธารณะ เนื่องจากข้อมูลส่วนใหญ่ถูกเก็บเป็นข้อมูลภายในของฝ่ายตุลาการแล้ว
ประกอบกับประเด็นก่อนหน้านี้ในเดือนพฤษภาคม อัยการสูงสุด แพม บอนดี เคยออกมาบอกว่า รายชื่อ(ลูกค้า)อยู่บนโต๊ะทำงานของเธอแล้ว และมีหลักฐานเป็นคลิปวิดีโอหลายหมื่นคลิปที่ชี้ว่าเอปสตีนกระทำผิด ซึ่งรัฐบาลทรัมป์จะเป็นผู้ทยอยเปิดเผยสู่สาธารณชน แต่เมื่อมีการแถลงจากกระทรวงฯ เธอก็ออกมากลับคำว่า เธอไม่มีข้อมูลดังกล่าวเช่นกัน โดยจากเรื่องที่เกิดขึ้นทำให้ทีม MAGA เชื่อว่ามีการปกปิดข้อมูล
จนกระทั่งคืนวันพฤหัสบดี (17 กรกฎาคม) ที่ผ่านมา ทรัมป์ได้สั่งการผ่านโซเชียลให้อัยการสูงสุดนำคำให้การของคณะลูกขุนที่เกี่ยวข้องมาแสดงทั้งหมด ซึ่งตัวอัยการเองก็ตอบในทันทีว่าจะดำเนินการให้ แม้ว่ากระบวนการดังกล่าวจะใช้เวลานานกว่านั้นมากก็ตาม
อีกคนที่จะขาดไปไม่ได้คือ อีลอน มักส์ มหาเศรษฐีอดีตเพื่อนรักเพื่อนร้ายของทรัมป์ ที่ออกมาโพสต์ข้อความบนโซเชียลมีเดียรัวๆ เกี่ยวกับเรื่องการจัดการเอกสารของเอปสตีนไปมากกว่า 35 โพสต์ โดยมีโพสต์หนึ่ง (ปัจจุบันถูกลบไปแล้ว) ซึ่งบอกว่า มีชื่อของทรัมป์ในไฟล์ และนั่นเลยเป็นเหตุผลว่าทำไมเอกสารถึงไม่ได้เปิดเผยสู่สาธารณะ
เอปสตีน เป็นนักการเงินที่กว้างขวางในแวดวงนักการเมืองและบุคคลผู้ทรงอิทธิพลหลายคน ซึ่งถูกตั้งข้อหาค้ามนุษย์เพื่อการค้าประเวณีเด็กในปี 2019 ที่รัฐฟลอริดาและนิวยอร์ก แต่ต่อมาเขาถูกพบเสียชีวิตในห้องขังระหว่างรอการพิจารณาคดี ซึ่งแพทย์นิติเวชวินิจฉัยว่าการเสียชีวิตครั้งนี้เป็นการฆ่าตัวตาย
การเสียชีวิตของเอปสตีนก่อให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์มากมาย ตั้งแต่ระบบการทำงานของเรือนจำ รวมถึงทฤษฎีสมคบคิดมากมายที่เกิดขึ้นและเชื่อมโยงไปกับบุคคลหลายคนว่ามีส่วนทำให้เขาเสียชีวิต ซึ่งเรื่องความสนิทสนมกับ ‘ทรัมป์’ ก็เป็นอีกหนึ่งทฤษฎีที่ผู้คนหยิบมาพูดถึงกัน
นอกจากจดหมายหลายฉบับแล้ว ยังมีแฟ้มภาพที่เจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรมใช้สอบสวนเอปสตีนเมื่อหลายปีก่อน ซึ่งปรากฎเป็นภาพถ่ายของทรัมป์ร่วมกับเอปสตีน รวมถึงภาพคู่กับนักการเมืองคนอื่นๆ และบุคคลผู้ทรงอิทธิพลต่างๆ หลายราย หลายครั้งตลอดช่วงทศวรรษ 1990 และต้นทศวรรษ 2000 และเป็นหนึ่งในบุคคลที่ปรากฏในบันทึกการบินของเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวของเอปสตีนด้วย
แต่ถึงอย่างนั้น ทรัมป์ก็เคยบอกว่า มิตรภาพของเขาและเอปสตีนสิ้นสุดลง ก่อนที่เอปสตีนจะรับสารภาพในปี 2008 ในข้อหาจัดหาเด็กเพื่อการค้าประเวณี ซึ่งหลังจากนั้นทรัมป์ก็ออกมาพูดอีกว่า ไม่ได้คุยกับเอปสตีนมานานแล้วประมาณ 15 ปี ก่อนที่เอปสไตน์จะถูกจับเข้าเรือนจำในปี 2019
อ้างอิงจาก