ยอมจนดีกว่าเหงา! คนรุ่นใหม่ควักเงินไม่อั้นเพื่อรักษาะมิตรภาพ
คนรุ่นใหม่อย่าง Gen Z และมิลเลนเนียลกำลังเผชิญปัญหา “มิตรภาพราคาแพง” ถึงแม้เงินในกระเป๋าจะไม่ค่อยพอ แต่หลายคนก็ยอมทุ่มจ่ายเพื่อไม่ให้ตัวเองต้องเหงาหรือพลาดกิจกรรมกับเพื่อน ๆ การสำรวจล่าสุดโดยAlly Financial พบว่า แม้ 3 ใน 5 ของคนรุ่นนี้ยอมรับว่าการใช้เงินกับเพื่อนกระทบเป้าหมายทางการเงิน แต่เกือบ 70% ก็ยังเลือกเจอกันแบบตัวต่อตัวอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง
ผลการวิจัยยังบอกด้วยว่า หนุ่มสาวใช้เงินเฉลี่ยราว250 ดอลลาร์ต่อเดือน (ประมาณ 8,000 บาท) เพื่อกิจกรรมกับเพื่อน ไม่ว่าจะเป็นปาร์ตี้ งานวันเกิด หรือการไปเที่ยวเล่น และถ้านับรวมครึ่งปี ผู้ชายจ่ายเฉลี่ยเกือบ 1,800 ดอลลาร์ ส่วนผู้หญิงราว 1,250 ดอลลาร์ ซึ่งถือว่าหนักทีเดียวในยุคที่ค่าครองชีพพุ่งสูง
มากไปกว่านั้น 42% ของคนที่ถูกสำรวจบอกว่า มักจะใช้เงินเกินงบที่ตั้งไว้กับกิจกรรมกลุ่มอยู่เป็นประจำ และที่น่าตกใจก็คือ ราว 1 ใน 5 ยอมรับว่าความต่างด้านฐานะหรือไลฟ์สไตล์ เคยทำให้พวกเขาสูญเสียเพื่อนไปเลย
นอกจากนั้น ยังมีเกือบ 1 ใน 4 ที่บอกว่ารู้สึกกังวลเวลาเห็นความต่างทางการเงินระหว่างตัวเองกับเพื่อน ๆ และกว่า 20% รู้สึกเครียดทุกครั้งเมื่อไม่แน่ใจว่าจะมีเงินพอเข้าร่วมกิจกรรมหรือไม่ ขณะเดียวกัน 17% ยอมรับว่าเคยโกหกเรื่องฐานะของตัวเองเพื่อให้กลมกลืนกับกลุ่ม
ยอมจนดีกว่ารู้สึกโดดเดี่ยว
ถึงจะรู้ว่ามันกระทบเป้าหมายใหญ่ ๆ ในชีวิต เช่น การปลดหนี้การศึกษา หรือการเก็บเงินซื้อบ้าน แต่ราว 25% ก็ยอมบอกตรง ๆ ว่า “ขอไม่มีเงินดีกว่าไม่มีเพื่อน” เพราะความเหงามันเจ็บปวดกว่ามาก ยิ่งเมื่อองค์การอนามัยโลกเตือนว่า ความโดดเดี่ยวมีผลเสียต่อสุขภาพไม่ต่างจากการสูบบุหรี่วันละ 15 มวน
นักวิเคราะห์จาก Ally Financial แนะนำว่า การเผชิญกับ FOMO (กลัวตกกระแส) ไม่จำเป็นต้องทำร้ายการเงินของเรา วิธีที่ดีที่สุดคือคุยตรง ๆ กับเพื่อนเกี่ยวกับงบประมาณ และหากิจกรรมที่ไม่ต้องเสียเงินเยอะ เพราะ “เพื่อนแท้” คือตัวจริงที่จะเคารพการใช้เงินของคุณ ไม่ใช่กดดันให้คุณต้องจ่ายเกินกำลัง
ที่มา : nypost
ข่าวที่เกี่ยวข้อง