ไขข้อสงสัย COM7 ฮุบ MVP เวิลด์-ดิจิทัลแอสเสทดึงดูด

#COM7 #MVP #ทันหุ้น – COM7 สร้างเซอร์ไพรส์เข้าถือหุ้นใหญ่ MVP สัดส่วน 51% พร้อมทำเทนเดอร์ เดินหน้าโครงการยักษ์ “World Project” ผสานจุดแข็งด้าน Digital Asset ด้าน “โอภาส” ยันโครงสร้างบริหารไม่เปลี่ยน แย้มช่วงนี้ขาขึ้นได้งาน Thailand Boat Festival พร้อมรับอานิสงส์ Tourist Digital Pay เต็มๆ

นายโอภาส เฉิดพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็ม วิชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ MVP เปิดเผยกับ “ทันหุ้น” ว่า หลังจากที่บอร์ด MVP ไฟเขียวเพิ่มทุนเสนอขายให้แก่บุคคลในวงจำกัด หรือ PP โดยเสนอขายให้แก่นักลงทุน 2 รายในราคาหุ้นละ 0.30 บาท ได้แก่ บริษัท คอมเซเว่น โฮลดิ้ง จำกัดหรือ COM7H ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท คอมเซเว่น จำกัด(มหาชน) หรือ COM7 ที่จะเข้ามาซื้อหุ้นจำนวน 580 ล้านหุ้นหรือ 51% และขายให้ TR Partners Ltd. (TRP) จำนวน 220 ล้านหุ้น หรือ 19.345% โดยเตรียมทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมด มองว่าการได้พันธมิตรเข้ามาร่วมทำธุรกิจหนุนการทำธุรกิจให้มีการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง

ส่วนเบื้องหลังดีลสำคัญครั้งนี้ มองสาเหตุหลักมาจากการที่ MVP ติดเครื่องหมาย CB ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของบริษัทในการเจรจางานต่างประเทศ การปลด CB โดยเร็วที่สุดคือการเพิ่มทุน ซึ่ง COM7 ซึ่งเป็นคู่ค้าและพาร์ตเนอร์รายใหญ่ที่ร่วมงานกันมานานกว่า 8-9 ปี และมองเห็นศักยภาพของ MVP มาโดยตลอด ได้เข้ามาช่วยในเรื่องนี้ โดย COM7 มีรายได้จาก MVP พอสมควร และเห็นถึงจุดเปลี่ยนที่สำคัญ

** ดิจิทัลแอสเสทจุดดึงดูด

นายโอภาส เผยว่า ในมุมมองของตน จุดที่ COM7 เข้ามาลงทุนนั้น มี 2 ประเด็นหลัก คือ1. โครงการ “World” และ 2. ธุรกิจ Digital Asset ซึ่งเป็นทิศทางที่ชัดเจน MVP มุ่งมั่นพัฒนาเรื่อง Digital Asset มานาน 4-5 ปี และน่าจะเป็นบริษัทเดียวที่ทำเรื่องนี้มาโดยตลอด การได้ COM7 เข้ามาเป็นพันธมิตร จะทำให้ MVP สามารถขยายและโฟกัสในเรื่อง Digital Asset ได้อย่างเต็มตัวยิ่งขึ้น เพราะ COM7 เองยังไม่มีหน่วยงานด้านนี้

“ถ้าให้มอง คอมเซเว่นคงเห็นว่าคู่แข่งในวงการต่างก็มี Digital Asset Back กันทั้งนั้น อย่าง เจมาร์ท ที่มี JFIN หรือ JIB ที่มี JBC และ IP ซึ่ง COM7 ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทขนาดใหญ่ ยังไม่มีหน่วยงานด้านนี้ ดังนั้น การเข้าซื้อ MVP อาจเป็นการเข้ามาเพื่อทำเรื่อง Digital Asset โดยตรง”

อย่างไรก็ตามแม้ COM7 จะเข้ามาถือหุ้นใหญ่ 51% แต่ยืนยันว่าไม่ได้มีอะไรเปลี่ยน ตนเองยังคงถือหุ้นในสัดส่วนที่มาก และ COM7 ก็ไม่เคยเข้ามาก้าวก่ายการบริหารงานมาโดยตลอด 8-9 ปีที่ผ่านมา

“ผมเชื่อว่าด้วยหลักการ ไม่น่ามีอะไรมาเปลี่ยน ณ ตอนนี้ ในปีนี้ที่คุยกันไว้ไม่น่ามีอะไร COM7 ยังคงสนับสนุนงานต่างๆ และปล่อยให้บริหารได้อย่างเต็มที่”

** คว้างานภูเก็ต

สำหรับโครงการ “World” มองว่าเป็นโอกาสสำคัญที่ทำให้บริษัทและ COM7 ได้รับประโยชน์ร่วมกัน โครงการนี้เกี่ยวข้องกับ AI และธุรกิจใหม่ๆ โดยล่าสุดมีการชี้แจงจากโฆษกรัฐบาลว่าโครงการนี้ไม่ผิดกฎหมายและผ่าน PDPC (Personal Data Protection Committee) แล้ว ทำให้ได้รับความเข้าใจจากประชาชนมากขึ้น แม้จะเคยมีกระแสโจมตีก็ตาม“World Project” จะสร้างรายได้ต่อเนื่องและมีโครงการต่อยอดกับผู้ถือหุ้น “World”

นอกจากนี้ MVP ยังมีโครงการใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการจัดงาน Thailand Boat Festival Meeting ครั้งที่ 1 ที่ภูเก็ต ซึ่งมีบริษัทกว่า 100 แห่งทั่วเอเชียมาร่วมงาน งานนี้คาดว่าจะเป็นงานใหญ่ที่สุดในเอเชียในเร็วๆ นี้ และจะผสานกับวงการคริปโท โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ภูเก็ต ซึ่งเป็น “Crypto Sandbox” ของไทย MVP ตั้งเป้าหมายที่จะผลักดันงานเรือในภูเก็ตให้ใหญ่ระดับโลก ด้วยการนำเรื่องคริปโทมาขับเคลื่อน โดยคาดว่าจะมีการบังคับใช้เต็มรูปแบบในช่วงไตรมาส 4 และงานใหญ่ในเดือนมกราคมปีหน้า

** โดดรับทัวริสต์ดิจิทัล

นายโอภาส ยังกล่าวถึงโอกาสจากนโยบาย “Tourist Digital Pay” (กระเป๋าเงินดิจิทัลสำหรับนักท่องเที่ยว) ซึ่งมีการประชุมหารือกับผู้เชี่ยวชาญที่มีไลเซนต์จาก ก.ล.ต. ในวันนี้ แม้ในเฟสแรกจะเน้นสินค้าหรูราคา 50,000-500,000 บาท แต่ธุรกิจของ MVP จะได้รับประโยชน์เต็มๆ ไม่ใช่แค่การซื้อเรือ แต่รวมถึงการเช่าเรือ การจอยทริปต่างๆ ซึ่งวงเงิน 500,000 บาทก็เพียงพอ

ขณะที่ MVP ซึ่งทำธุรกิจเรือยอชต์โดยตรง จะได้รับประโยชน์อย่างมาก เพราะมี Digital Nomads จำนวนมากในภูเก็ต และชาวต่างชาติที่มาไทยก็นิยมเล่นเรือ MVP เตรียมจัดอบรมให้ผู้ประกอบการกว่า 100 ราย เตรียมพร้อมเรื่อง KYC และการเป็น Merchant เพื่อรองรับนโยบายนี้ใน Q4 และคาดว่าจะสร้างการเติบโตอย่างมหาศาลในเดือนมกราคมปีหน้า จากปัจจัยเหล่านี้ ทำให้ MVP จะกลับมาอย่างแข็งแกร่ง