โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

NUT ซื้อซ้ำออนไลน์บูม เร่งขยายธุรกิจมาร์จิ้นสูง

ทันหุ้น

อัพเดต 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

#NUT #ทันหุ้น – NUT แนวโน้มผลงานไตรมาส 3/2568 เติบโตต่อเนื่อง รับปัจจัยหนุนลูกค้าอาหารเสริมกลับมาซื้อซ้ำผ่านช่องทางตลาดออนไลน์เพียบ มั่นใจรายได้ปีนี้แตะ 280 ล้านบาท เร่งอัพสัดส่วนธุรกิจเครื่องสำอางมาร์จิ้นสูง เป็น 50% ภายในต้นปีหน้า หนุนกำไรโดดเด่น

นายพุทธิวัฒน์ กิตติภานุวัฒน์ กรรมการและรองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นูทริชั่น โปรเฟส จำกัด (มหาชน) หรือ NUT ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และเครื่องสำอาง เปิดเผยกับ“ทันหุ้น” ว่า แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 3/2568 คาดว่าจะเติบโตขึ้นประมาณ 7-8% YoY จากการควบคุมค่าใช้จ่ายในการขายได้ดีขึ้น สำหรับผลิตภัณฑ์อาหารเสริมบริษัทสามารถดึงดูดลูกค้าให้กลับมาซื้อซ้ำผ่านช่องทางตลาดออนไลน์ (Marketplace) เช่น Lazada, Shopee ได้ดีมากขึ้น

@รายได้โต 280 ล้าน

ขณะที่ได้มีการเน้นการไลฟ์ขายสินค้าผ่านช่องทาง TikTok ซึ่งส่งผลให้ขายได้ดีกว่าเดิม ในส่วนช่องทาง Facebook มีแนวโน้มลดลง เนื่องจากการดูฟีดข่าวต่างๆ ลดลง ทั้งนี้ปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนรายได้จากช่องทางออนไลน์ประมาณ 60-70% และมีอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงกว่าช่องทางออฟไลน์ เนื่องจากช่องทางออนไลน์สามารถเข้าถึง End User ได้โดยตรง ในขณะที่ออฟไลน์ เช่น การขายส่ง ทำให้มีอัตรากำไรขั้นต้นที่ต่ำกว่า โดยบริษัทได้ตั้งเป้าหมายรายได้ทั้งปีนี้อยู่ที่ 280 ล้านบาท

นอกจากการพัฒนาช่องทางออนไลน์แล้ว บริษัทยังได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่สำหรับช่องทางออฟไลน์โดยเฉพาะ เช่น ร้านขายยาและ Home Shopping ซึ่งผลิตภัณฑ์สำหรับช่องทางออฟไลน์จะมีการ แยกแบรนด์ออกไปเพื่อไม่ให้ทับซ้อนกับการขายออนไลน์ และป้องกันการตัดราคากัน โดยจะมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่สำหรับออฟไลน์ที่ชัดเจนยิ่งขึ้น รวมถึงการกระตุ้นยอดขายด้วยโปรโมชั่นต่าง ๆ และสินค้าสัมมนาคุณ โดยเฉพาะสินค้าสำหรับร้านขายยาจะเห็นชัดเจนในช่วงไตรมาส 3-4/2568

@ขยายธุรกิจเครื่องสำอาง

สำหรับผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางในปัจจุบัน บริษัทเน้นการแข่งขันในช่องทางออนไลน์มากกว่า เนื่องจากฐานลูกค้าส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มนี้ แม้ตลาดเครื่องสำอางจะมีการแข่งขันสูง แต่ตลาดก็กว้างเช่นกัน ซึ่งธุรกิจเครื่องสำอางมีมาร์จิ้นที่ดีกว่าธุรกิจอาหารเสริมประมาณ 15% โดยบริษัทมีแผนที่จะขยายผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางเพิ่มขึ้น จากการทยอยออกผลิตภัณฑ์ใหม่ โดยเฉพาะ กลุ่มเครื่องสำอางประเภทสี เช่น ลิปสติก นอกเหนือจากคลีนเซอร์และเซรั่ม

รวมถึงกำลังจะขยายฐานการผลิตเพื่อผลิตเครื่องสำอางประเภทสีด้วยตนเองในอนาคต ซึ่งช่วยในการทดสอบและควบคุมต้นทุนการผลิตได้ดี คาดว่าจะเพิ่มสัดส่วนรายได้เครื่องสำอางให้เป็น 50% และอาหารเสริม 50% ภายในต้นปี 2569 ส่งผลให้ในปีหน้ากำไรจะมีการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ

อย่างไรก็ดีตลาดปัจจุบันของบริษัทส่วนใหญ่อยู่ในประเทศไทย ซึ่งอยู่ระหว่างศึกษาแผนที่จะขยายไปยังประเทศเพื่อนบ้านในปี 2569 เช่น มาเลเซีย และเวียดนาม โดยการขยายไปยังต่างประเทศยังอยู่ในช่วงของการลองตลาดและยิงแอด

Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ทันหุ้น

สื่อสารกระทบน้อย กสทช.ลุยแพ็ก 210 บ.

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ไขข้อสงสัย COM7 ฮุบ MVP เวิลด์-ดิจิทัลแอสเสทดึงดูด

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความไอที ธุรกิจอื่น ๆ

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...
Loading...
Loading...
รีโพสต์ (0)
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...