‘สีเขียวมัทฉะ’ เมื่อชาที่ดื่มได้สู่แฟชั่นสีเขียวที่เกิดขึ้นในชีวิตจริง
LSA Thailand
อัพเดต 26 สิงหาคม 2568 เวลา 17.39 น. • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา • Lifestyle Asia Thailandไม่น่าเชื่อว่าสีเขียวมัทฉะที่ครั้งหนึ่งเราเคยคุ้นแค่ในแก้วชา วันนี้ได้กลายเป็นโทนสีที่ครองใจโลกแฟชั่นอย่างไม่ทันตั้งตัว เพราะมันไม่ใช่เพียงความสดชื่นจากธรรมชาติ แต่ยังสะท้อนความสงบและความบาลานซ์ของชีวิตที่จับต้องได้ง่ายและดูร่วมสมัย สีเขียวมัทฉะมีความพิเศษตรงที่อยู่กึ่งกลางระหว่างเขียวเข้มที่ดูสุขุมกับเขียวพาสเทลที่อ่อนโยน ทำให้สามารถสร้างความรู้สึกได้ทั้งสองทางในเวลาเดียวกัน
รันเวย์ล่าสุดของแบรนด์ดังระดับโลกอย่าง Loewe, Jacquemus หรือ Bottega Veneta ต่างหยิบโทนเขียวมัทฉะมาใช้สไตลิ่งลุค ตั้งแต่เดรสโทนหม่นที่เข้ากับฤดูร้อน ไปจนถึงกระเป๋าและรองเท้าที่กลายเป็นไอเท็มหายาก เห็นได้ชัดว่าแฟชั่นไม่เพียงกำลังทดลองสีสันใหม่ แต่กำลังเปลี่ยนสีที่เคยเป็นเรื่องของเครื่องดื่มให้กลายเป็นภาษาสากลของสไตล์ ทั้งยังสื่อสารว่าการแต่งตัวในโทนมัทฉะยังเข้ากับชีวิตประจำวันได้มากกว่าที่คิด
เสื้อสเวตเตอร์เขียวอ่อนแมตช์กับกางเกงยีนส์ซีดทำให้ลุคดูลำลองแต่ยังสะอาดตา การใส่เชิ้ตเขียวมัทฉะคู่กับกางเกงขาวหรือกระโปรงครีมก็สร้างความมินิมอลที่ชวนให้นึกถึงความเรียบง่ายแบบญี่ปุ่น หรือถ้าอยากได้บรรยากาศอบอุ่น ลองจับคู่กับโทนน้ำตาลเอิร์ธโทนที่ให้ฟีลคล้ายการนั่งจิบกาแฟกับมัทฉะในคาเฟ่ สำหรับใครที่กล้าเล่นสี ลุค all-matcha หรือการแต่งทั้งตัวด้วยโทนเขียวหลายเฉดก็ทำให้เกิดมิติใหม่ที่สะดุดตาโดยไม่ต้องใช้สีจัดจ้าน
นอกจากบนรันเวย์และสตรีทแฟชั่นแล้ว สีเขียวมัทฉะยังกลายเป็นโทนที่ปรากฏบ่อยในป๊อปคัลเจอร์ อินฟลูเอนเซอร์และเซเลบริตี้ทั้งฝั่งเอเชียและตะวันตกต่างหยิบโทนนี้มาใช้ในลุคประจำวัน เสื้อแจ็กเก็ตสีเขียวมัทฉะในสนามบิน ชุดเดรสสีเขียวมัทฉะสำหรับออกงาน หรือกระเป๋าหนังโทนเขียวหม่นที่เข้ากับชุดโมโนโครมสีดำขาว กลายเป็นสีเซอร์ไพรส์ที่เพิ่มชีวิตชีวาได้ทันที ขณะที่แบรนด์สตรีทอย่าง Nike และ New Balance ก็ยังปล่อยสนีกเกอร์โทนมัทฉะที่ถูกตามหาจนกลายเป็นไอเท็มสะสมที่อยู่ระหว่างความเรียบง่ายกับความโดดเด่น
และถ้าหากมองให้กว้างกว่าการแต่งตัว จะเห็นว่ามัทฉะยังแทรกซึมเข้าสู่โลกไลฟ์สไตล์ตั้งแต่การออกแบบคาเฟ่ เฟอร์นิเจอร์ ไปจนถึงอินทีเรียร์บ้านที่เลือกใช้โทนเขียวนี้เพื่อสร้างบรรยากาศสงบและสบายใจ การแต่งกายด้วยสีมัทฉะจึงเชื่อมโยงกับแนวคิด Wellness และความยั่งยืนที่กำลังเติบโต ไม่ใช่เพียงเพื่อความสวยงาม แต่เพื่อสื่อสารทัศนคติของผู้สวมใส่ว่าแฟชั่นคือการบาลานซ์ชีวิตเช่นเดียวกับการจิบมัทฉะที่ละเมียดละไม
ในที่สุดสิ่งที่ทำให้แฟชั่นโทนมัทฉะน่าสนใจคือการที่มันไม่ต้องการตะโกนดังเพื่อดึงดูดสายตา แต่ใช้ความละเอียดอ่อน ความสงบ และพลังจากธรรมชาติเล่าเรื่องแทน การใส่มัทฉะจึงไม่ใช่การตามเทรนด์ แต่เป็นการประกาศว่าความเรียบง่ายก็สามารถกลายเป็นสไตล์ที่ทรงพลังได้
Note : The information in this article is accurate as of the date of publication.