RT ไตรมาส 2/68 กำไร 13 ล้านบาท เร่งปิดงานสั้น เสริมสภาพคล่อง รับรู้รายได้เร็ว
RT ไตรมาส 2/68 รายได้รวม 863 ล้านบาท กำไรสุทธิ 13 ล้านบาท ทิศทางธุรกิจครึ่งปีหลัง อัดแผนเพิ่มประสิทธิภาพ คุมต้นทุนเข้ม เร่งปิดงานสั้น ส่งมอบงานแล้วเสร็จ 9 งาน มูลค่ากว่า 1,640 ล้านบาท ลุ้นประมูลงานเติม Backlog รับรู้รายได้สม่ำเสมอ
15 สิงหาคม 2568 นายชวลิต ถนอมถิ่น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไร้ท์ทันเน็ลลิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ RT ผู้เชี่ยวชาญพิเศษด้านขุดเจาะอุโมงค์ วิศวกรรมโยธา และ ธรณีเทคนิคครบวงจร เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2568 บริษัทมีรายได้รวม 863 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 874 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 13 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 10 ล้านบาท
ทั้งนี้ บริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้นเทียบกับไตรมาส 1 ปี 2568 ที่มีรายได้รวม 700 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 164 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 23% และพลิกมีกำไรสุทธิจากที่ขาดทุนสุทธิ 102 ล้านบาท เนื่องจากทยอยรับรู้รายได้จากงานในมือ(Backlog) จำนวน 25 งาน
ส่วนผลประกอบการครึ่งปีแรก 2568 บริษัทมีรายได้รวม 1,563 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 1,852 ล้านบาท สาเหตุหลักมาจากผลกระทบของภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ ส่งผลให้บางโครงการต้องขยายระยะเวลาดำเนินงาน และทำให้ต้นทุนโครงการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
สำหรับทิศทางธุรกิจครึ่งปีหลัง 2568 บริษัทเดินหน้าตามแผนเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน ควบคุมต้นทุน และเพิ่มความสามารถในการทำกำไร เพื่อรองรับโครงการใหม่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต รวมถึงมุ่งเน้นรับงานระยะสั้น เพื่อเพิ่มสภาพคล่องและเสริมศักยภาพการเติบโต ผ่านการเร่งส่งมอบงานตามแผน ผลักดันการรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่อง
โดยในปีนี้บริษัทส่งมอบงานรวม 9 งาน มูลค่ารวมกว่า 1,640 ล้านบาท อาทิ
- งานก่อสร้างบ่อพักและท่อร้อยสายไฟฟ้าใต้ดิน โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง
- งานก่อสร้างบ่อเก็บน้ำดิบโรงไฟฟ้าบางปะกง รวมถึงงานเสริมเสถียรภาพทางลาด (Slope Protection)
และมีโครงการที่ใกล้แล้วเสร็จ 4 งาน อาทิ
- โครงการก่อสร้างประตูระบายน้ำศรีสองรัก จ.เลย มีความคืบหน้า 98%
- โครงการอ่างเก็บน้ำคลองโพล้ จังหวัดระยอง มีความคืบหน้า 87%
- โครงการก่อสร้างบ่อพักและท่อร้อยสายไฟฟ้าใต้ดิน ของสถานีย่อยคลองกระเทียม เขตมีนบุรี มีความคืบหน้า 89%
- โครงการก่อสร้างบ่อพักและท่อร้อยสายไฟฟ้าใต้ดิน โครงการทางหลวงท้องถิ่นสายเชื่อมระหว่างถนนวิภาวดีรังสิตกับถนนพหลโยธิน มีความคืบหน้า 74%
“แม้ว่าครึ่งปีแรกบริษัทจะเผชิญปัจจัยจากภัยธรรมชาติและต้นทุนที่เพิ่มขึ้น แต่เชื่อว่ากลยุทธ์ที่วางแผนไว้จะช่วยยกระดับประสิทธิภาพการดำเนินงานและควบคุมต้นทุนได้ดีขึ้น ส่งผลให้ผลประกอบการครึ่งปีหลังปรับตัวดีกว่าครึ่งปีแรกนอกจากนี้ บริษัทติดตามความคืบหน้าโครงการที่คาดจะเปิดประมูลภายในปีนี้อย่างใกล้ชิด เพื่อเติมปริมาณงานรอรับรู้ในมือ (Backlog) และสร้างการรับรู้รายได้อย่างสม่ำเสมอ” นายชวลิตกล่าว