IF น้ำมะพร้าวไทย ยอดขายอันดับ 1 ในจีน ขึ้นแท่นแบรนด์ระดับโลก เข้าตลาดหุ้นฮ่องกง ทะยาน4.2 หมื่นล้าน

อัพเดต 13 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 13 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ภาพไฮไลต์

แม้การใช้จ่ายของผู้บริโภคจีนในภาพรวมชะลอตัวและกระทบยอดขายสินค้าแบรนด์หรู แต่สินค้าในกลุ่มสุขภาพ กีฬา และไลฟ์สไตล์กลับเติบโตดีต่อเนื่อง และ “น้ำมะพร้าว” คือ หนึ่งในนั้น ล่าสุด “IF” แบรนด์น้ำมะพร้าวไทย ที่สามารถบุกตลาดจีนเมื่อ 8 ปีก่อนจนครองตำแหน่งน้ำมะพร้าวยอดขายอันดับ 1 ในจีนได้สำเร็จ แม้ช่วงที่ผ่านมา จีน จะกลายเป็นตลาดปราบเซียนแบรนด์เครื่องดื่มจากทั่วโลก

“IFBH” (IF Beverages Holdings) บริษัทแม่แบรนด์น้ำมะพร้าว “IF” ไทย เปิดตัวครั้งแรกในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงเมื่อวันจันทร์ที่ 30 มิถุนายน ที่ผ่านมา โดยหุ้น IFBH พุ่งขึ้นสูงสุดถึง 67% ในวันแรกของการซื้อขายจากราคา IPO ที่ 27.80 ดอลลาร์ฮ่องกงต่อหุ้น (ประมาณ 3.54 ดอลลาร์สหรัฐ) โดยราคาหุ้นพุ่งขึ้นทันทีหลังระฆังเปิดตลาด แตะระดับสูงสุดที่ 46.50 ดอลลาร์ฮ่องกง ก่อนปิดวันด้วยราคาที่ 39.50 ดอลลาร์ฮ่องกง

โดยบริษัทสามารถระดมทุนได้ถึง 1.16 พันล้านดอลลาร์ฮ่องกงหรือราว 148 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (4.2 พันล้านบาท) จากการขายหุ้น 41.7 ล้านหุ้น ที่ราคาสูงสุดของช่วงที่เสนอขาย ซึ่งดันมูลค่าบริษัทแตะ 1.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐหรือราว 4.2 หมื่นล้านบาท ดีลนี้ได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม โดยมียอดจองซื้อหุ้นเกินกว่า 2,682 เท่า หนุนโดยแรงซื้อจากนักลงทุนรายย่อยที่ใช้เงินกู้เพื่อจองหุ้นล่วงหน้า (Margin Financing) โดยมีรายชื่อนักลงทุนรายใหญ่ (Cornerstone Investors) ได้แก่ UBS Asset Management และ Black Dragon (กองทุนที่ได้รับการสนับสนุนจากกลุ่ม CP)

การพุ่งขึ้นของหุ้นหลังจาก IPO ครั้งนี้ยังทำให้“พงศกร พงศ์ศักดิ์” ผู้ก่อตั้งและซีอีโอกลายเป็นมหาเศรษฐีคนใหม่ ด้วยมูลค่าทรัพย์สินสุทธิราว 807 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากการถือหุ้น 60% ใน IFBH ผ่านทั้งทางตรงและผ่านบริษัทแม่ General Beverage ซึ่งเขาถือหุ้นอยู่ 91%

บริษัทระบุว่า การระดมทุนครั้งนี้จะช่วยให้ IFBH เดินหน้าขยายตลาดในจีน ซึ่งบริษัทระบุว่าเป็น ตลาดหลักที่ครองส่วนแบ่งอันดับหนึ่งอยู่แล้วในกลุ่มน้ำมะพร้าวแบบพร้อมดื่ม (Ready-to-Drink) โดยบริษัทได้ประเมินว่าตลาดเครื่องดื่มพร้อมดื่มในประเทศจะเติบโตเฉลี่ย 7.1% ต่อปี ไปจนถึงปี 2029 นอกจากนี้จะเป็นเพิ่มประสิทธิภาพของระบบจัดส่ง การพัฒนาผลิตภัณฑ์ และขยายสู่ตลาดใหม่ ได้แก่ ออสเตรเลีย อเมริกา และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อรองรับตลาดในอนาคต

รู้จัก “IF” น้ำมะพร้าวไทย อันดับ 1 ในจีน อันดับ 2 ของโลก

พงศกร พงศ์ศักดิ์ เริ่มต้นธุรกิจเครื่องดื่มจากการก่อตั้งบริษัท เจนเนอรัล เบฟเวอร์เรจ จำกัด (General Beverage) ในปี 2011 และเปิดตัวธุรกิจผลิตและส่งออกน้ำมะพร้าวภายใต้แบรนด์ IF ในปี 2013 หรือเป็นที่รู้จักในฐานะ น้ำมะพร้าวแท้บรรจุขวดใส กับจุดขาย “ส่งตรงจากสวนมะพร้าวถึงมือคุณ”

พงศกร เริ่มเจาะตลาดฮ่องกงเป็นที่แรกในปี 2015 ก่อนเข้าสู่จีนแผ่นดินใหญ่ในปี 2017 ก่อนจะแตกแบรนด์น้ำมะพร้าวพรีเมียม “INNOCOCO” ออกมาเพิ่มเติมในปี 2022 และในปีเดียวกัน พงศกรยังได้ก่อตั้งบริษัท IFBH (IF Beverages Holdings) ขึ้นเพื่อดูแลธุรกิจของ General Beverage ในต่างประเทศโดยเฉพาะ

ปัจจุบันแบรนด์น้ำมะพร้าว IF หรือในภาษาจีนที่ชื่อว่า“溢福” (อี้ฝู) ได้กลายเป็นหนึ่งในน้ำมะพร้าวไทยที่ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วในจีน จากข้อมูลของบริษัทวิจัย Baiguan แบรนด์ IF สามารถก้าวขึ้นเป็นแบรนด์น้ำมะพร้าวที่มีส่วนแบ่งตลาดสูงที่สุดในประเทศจีน โดยมีส่วนแบ่งตลาดสูงถึง 34% และครองอันดับหนึ่งในกลุ่มสินค้าประเภทเดียวกันต่อเนื่องกันถึง 5 ปี

โดยปี 2024 บริษัทขึ้นแท่นเป็นผู้ผลิตน้ำมะพร้าวรายใหญ่ที่สุดของประเทศ ตามข้อมูลจากที่ปรึกษา China Insights Industry Consultancy ด้วยมูลค่ายอดขายปลีกในจีนอยู่ที่ 362 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ยอดขายทั่วโลกอยู่ที่ 374 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้ IFBH ขึ้นแท่น ผู้ผลิตน้ำมะพร้าวรายใหญ่อันดับ 2 ของโลก รองจากแบรนด์ Vita Coco จากนิวยอร์ก

ทีมเล็กปั้นแบรนด์ใหญ่ รายได้โตแซงคู่แข่งระดับโลก

ตามหนังสือชี้ชวนของบริษัท รายได้ของ IFBH ในปี 2024 เติบโตถึง 80% โดยมีสาเหตุหลักจากยอดขายที่เพิ่มขึ้นในจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งคิดเป็น กว่า 92% ของรายได้รวมทั้งหมด ขณะที่อีก 4.6% มาจากฮ่องกง และส่วนที่เหลือมาจากตลาดต่างประเทศ เช่น ออสเตรเลีย กัมพูชา แคนาดา คูเวต มาเลเซีย สิงคโปร์ ไต้หวัน ไทย และสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้จากการเติบโตของ IFBH ได้แซงหน้าคู่แข่งสำคัญอย่าง Vita Coco Co. จากสหรัฐฯ และ Hainan Yedao Co. จากจีน

ข้อมูลจาก Banerjee ให้ความเห็นว่า ความเร็วในการเติบโตของ IFBH มาจาก "โมเดลธุรกิจแบบเบา" (Asset-light) ที่เน้นการจ้างผลิตและบรรจุภัณฑ์ภายนอก ช่วยให้บริษัทควบคุมต้นทุนและขยายตลาดได้อย่างรวดเร็ว

ข้อมูลจากกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ระบุว่า รูปแบบการดำเนินธุรกิจที่เน้นความคล่องตัวและมีประสิทธิภาพสูง แม้จะมีทีมงานเพียง 46 คน แต่สามารถสร้างยอดขายในปี 2567 ได้มากถึง 1.58 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 57,000 ล้านบาท

ความสำเร็จของแบรนด์ IF ไม่ได้เกิดจากคุณภาพของสินค้าเพียงอย่างเดียว แต่ยังมาจากการวางระบบซัพพลายเชนที่มีประสิทธิภาพ โดยแบรนด์เลือกใช้วัตถุดิบจากสวนมะพร้าวน้ำหอมในประเทศไทยที่มีกำลังการผลิตมากถึง 500 ล้านลูกต่อปี ซึ่งช่วยลดต้นทุนวัตถุดิบได้ถึงร้อยละ 18 เมื่อเทียบกับคู่แข่ง พร้อมกับสร้างข้อได้เปรียบเชิงรสชาติที่ยากต่อการลอกเลียนแบบ

นอกจากนี้ แบรนด์ยังมีกลยุทธ์การตลาดที่ตอบรับกับพฤติกรรมผู้บริโภคในดิจิทัล โดยเลือกใช้ “เซียวจ้าน” (Xiao Zhan) นักแสดงและดาราชื่อดังของวงการบันเทิงจีนเป็น Global Brand Ambassador หรือจะเป็นการออกเวอร์ชันพิเศษร่วมกับแบรนด์ดังอย่าง POP MART ในการเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ทันสมัยและขยายฐานผู้บริโภค อีกทั้งยังมีการสร้างสรรค์สินค้าใหม่ที่สอดคล้องกับเทรนด์ของตลาดมากขึ้น เช่น ลาเต้นมมะพร้าว ที่ร่วมกับแบรนด์ Luckin Coffee และสามารถสร้างยอดขายสูงถึง 3 ล้านแก้วภายในเวลาเพียง 1 สัปดาห์

"IF" ได้กลายเป็นกรณีศึกษาที่สะท้อนศักยภาพของธุรกิจขนาดเล็กจากไทย ที่สามารถเติบโตอย่างแข็งแกร่งในตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะในประเทศจีน ที่แบรนด์สามารถครองใจกลุ่มผู้บริโภคคนรุ่นใหม่ ที่ให้ความสำคัญทั้งเทรนด์สุขภาพ และความน่าเชื่อถือของแบรนด์ ได้ดีมาอย่างต่อเนื่อง

อ่านเพิ่มเติม