Suddenly I See เพลงที่เปลี่ยนชีวิตของ KT Tunstall จากหนังเรื่อง The Devil Wears Prada
ภาพยนตร์กับเสียงดนตรีมักจะมาคู่กันเสมอ เพราะเสียงเพลงเป็นปัจจัยสำคัญในการเสริมเรื่องราวให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเสียงประกอบต่างๆ ที่ทำให้หนังดูมีชีวิตชีวา ดนตรีซึ่งเสริมให้ผู้คนเข้าถึงอรรถรสของหนัง นักแต่งเพลงที่เขียนเพลงเกี่ยวกับตัวละคร ตลอดจนเพลงของนักร้องหลายคนที่ถูกนำมาประกอบในเรื่องราวเหล่านั้น
และเป็นเรื่องน่าเหลือเชื่อ ที่เพลงประกอบหนังไม่ได้แค่เปลี่ยนแปลง Mood & Tone หรือพลังของหนังเท่านั้น แต่บางครั้ง เพลงก็กลายเป็นพลังสำคัญที่เปลี่ยนแปลงชีวิตคนทำเพลงด้วย เพราะภาพยนตร์แฟชั่นแห่งยุค 2000 อย่างเรื่อง The Devil Wears Prada ก็เคยเปลี่ยนชีวิตนักร้องคนหนึ่งมาแล้วเช่นกัน
เพลงที่เปลี่ยนชีวิตศิลปินคนนั้นก็คือ Suddenly I Seeของ KT Tunstall ศิลปินหญิงชาวสกอตแลนด์ โดยเพลงนี้ถูกใช้ในฉากเปิดช่วง 3 นาทีแรกของหนัง ที่เผยภาพสาวๆ ในมหานครนิวยอร์ก รวมทั้งนางเอก Andrea Sachs กำลังแต่งตัวสวยพร้อมออกไปทำงาน และเริ่มวันใหม่อย่างมั่นใจ ซึ่งถ้าหากใครได้ชมแล้วก็จะรู้สึกว่าเพลงนี้เข้ากับบรรยากาศของหนังได้อย่างลงตัวเลยทีเดียว
ฉะนั้นก่อนที่ The Devil Wears Prada 2จะมาในเดือนพฤษภาคมปี 2026 นี้ The Standard Pop ก็อยากจะชวนคุณย้อนกลับไปปี 2006 เพื่อดูฉากแรกของภาพยนตร์เรื่องนี้กันอีกสักครั้ง รวมทั้งย้อนรอยเรื่องราวของเพลง Suddenly I Seeว่า เพลงนี้เปลี่ยนชีวิตของ KT Tunstall ไปอย่างไรบ้าง ซึ่งเราเองก็เชื่อว่า ฉากเปิดของภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ไอคอนิกไม่แพ้กันกับฉากเดินข้ามถนนของ Andrea ที่ใช้เพลง Vogueของ Madonna มาประกอบหนังเช่นกัน
“มันเปลี่ยนชีวิตฉันไปเลย” นั่นเป็นสิ่งที่ KT Tunstall เคยให้สัมภาษณ์ในรายการวิทยุ Magic เกี่ยวกับเพลง Suddenly I Seeเพราะเดิมทีเธอไม่คิดจะเซ็นสัญญากับค่ายใหญ่ใดๆ เพราะอยากจะเป็นศิลปินทำงานอิสระ แต่สุดท้ายเธอก็เลือกเซ็นสัญญากับค่ายเล็กในอังกฤษที่มีชื่อว่า Relentless และทำอัลบั้มเดบิวต์ชุดแรกชื่อว่า Eye to the Telescopeในปี 2004
ส่วนเพลง Suddenly I Seeที่ปล่อยออกมาในปี 2005 ก็เป็นซิงเกิลในอัลบั้มนั้น และเพลงนี้ก็ดังเป็นพลุแตกในอเมริกาช่วงปี 2006 หลังจากเพลงถูกนำไปประกอบภาพยนตร์ The Devil Wears Prada
“ฉันจำได้ว่า วันหนึ่งฉันได้รับสายโทรศัพท์จากผู้จัดการ เขาบอกว่ามีหนังอเมริกันเรื่องหนึ่งอยากใช้เพลง Suddenly I Seeของเรา เพราะงั้นจังหวะนี้ เธอก็ต้องเอ็นจอยไปกับช่วงเวลานี้นะ เพราะมันคงไม่เกิดขึ้นอีกแล้วล่ะ
สิ่งที่ผู้จัดการของฉันหมายถึงก็คือว่า ถ้าคุณได้ดูฉากแรกในเรื่อง The Devil Wears Pradaจะเห็นว่า พวกเขาใช้เพลงเราทั้งเพลง ไม่ตัด ไม่มีบทพูดอะไรทับด้วย พวกเขาแทบจะทำมิวสิกวิดีโอที่นำแสดงโดย Meryl Streep และ Anne Hathaway ให้กับเราเลย! ทีแรกฉันเกือบจะไม่ตกลงแล้ว แต่พวกเขาก็โน้มน้าวฉันจนได้ แต่พูดจริงเลยว่า นั่นเป็นสิ่งที่วิเศษที่สุดเท่าที่จะเกิดขึ้นได้ในช่วงการเริ่มทำอาชีพนี้ของฉัน”
นอกจากนี้ ในช่วงภาพยนตร์กำลังฉาย เธอและเพื่อนในวงกำลังทัวร์อยู่ที่สหรัฐอเมริกา ทุกคนจึงตัดสินใจไปดูหนังในโรงด้วยกัน ซึ่งพวกเขาก็ดีใจและตื่นเต้นเป็นอย่างมากที่เพลงนี้ถูกใช้เต็มเพลงตั้งแต่ฉากแรก เพราะแต่ละคนก็ไม่รู้มาก่อนว่าจะใช้เพลงเต็มไม่มีตัด และไม่มีเสียงตัวละครอื่นๆ มากลบเสียงเพลง จนเธอเล่าอย่างติดตลกว่า ผู้ชมคนอื่นๆ ในโรงภาพยนตร์วันนั้นก็คงจะงงกันว่าทำไมคนเหล่านี้ต้องตื่นเต้นกับหนังมากถึงขนาดนั้น
อย่างไรก็ตาม แม้เพลงนี้จะโด่งดังแค่ไหน แต่เธอใช้เวลาเขียนเพลงนี้ไม่นานนัก โดยเธอใช้เวลาแต่งแค่ 40 นาทีเท่านั้น และเธอเขียนเพลงนี้คนเดียวโดยไม่มีใครมาแต่งช่วย ซึ่งแตกต่างจากยุคนั้นที่เพลงดังของศิลปินหลายๆ คนจะใช้นักแต่งเพลงหลายคนช่วยกันเขียน ดังนั้นเธอจึงภูมิใจและดีใจที่เพลงนี้ยังได้รับความนิยมมาจนถึงปัจจุบัน
เธอเคยเล่าว่า ความจริงแล้วเพลงนี้เขียนขึ้นในช่วงกำลังหมดไฟในการทำงาน เพราะเธอคิดว่า การเซ็นสัญญากับค่ายเพลงอาจไม่เวิร์กอย่างที่คิด แต่วันหนึ่งเธอหันไปเจอกับภาพปกอัลบั้ม Horsesของศิลปินหญิง Patti Smith ซึ่งเป็นภาพขาวดำของ Patti ที่สวมใส่ชุดง่ายๆ แต่กลับดูสวยงาม ผ่อนคลาย เป็นตัวของตัวเอง เหมือนกับว่าเธอไม่จำเป็นต้องพยายามทำให้ใครประทับใจ ซึ่งนั่นก็เป็นสิ่งที่ KT Tunstall อยากจะเป็น เธอจึงตัดสินใจเขียนเพลง Suddenly I See ขึ้นมา เพื่อสื่อถึงความรู้สึกการได้เห็นใครสักคนแล้วอยากจะเป็นแบบนั้น เหมือนกับตอนเธอได้เห็นภาพ Patti Smith ครั้งแรกบนปกอัลบั้มนั้น
(KT Tunstall / beachfestival_nieuwpoort Instagram)
อาจกล่าวได้ว่า Suddenly I Seeเป็นเพลงถูกเขียนขึ้นมาอย่างเรียบง่าย ไม่ได้มีความสมบูรณ์แบบเพอร์เฟกต์อะไรตามที่เธอนิยามตัวเอง ส่วนดนตรีก็เน้นสไตล์ความเป็นลูกผสมระหว่างดนตรีบลูส์และคันทรีป๊อป ผนวกรวมเข้ากับเสียงโวคัลง่ายๆ แต่เน้นความจริงใจ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของตัวศิลปินอย่าง KT Tunstall ด้วยเช่นกัน
เธออยากให้เพลงนี้ฟังแล้วเข้าใจง่าย แต่ก็เป็นการทริบิวต์ให้กับพลังของเหล่าสุภาพสตรี คล้ายกับว่า ถ้าได้ฟังแล้วก็จะให้ความรู้สึกเหมือนเป็นเพื่อนสาวหรือพี่สาวที่คอยสนับสนุนกันและกันอย่างจริงใจในแบบเพื่อนหญิงพลังหญิง ซึ่งด้วยเหตุผลนี้ก็ทำให้เพลงสามารถไปกันได้ดีกับThe Devil Wears Prada ที่ทำให้เห็นภาพผู้หญิงกล้าหาญ มีความทะเยอทะยาน มั่นใจ กล้าเติบโต และพร้อมจะส่องแสงอย่างเป็นประกายในโลกแฟชั่นนั่นเอง
ครั้งหนึ่งเธอยังเคยให้ความเห็นเกี่ยวกับการใช้เพลงนี้ในการประกอบหนังสุดไอคอนิกเรื่องนี้อีกด้วยว่า “ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าเนื้อเพลงจะไปกันได้ดีกับหนัง Chick Flick มันเหมือนกับว่า ฉันกำลังร้องเพลงเกี่ยวกับการอยากเป็นโมเดลสุดเลิศ!” เพราะเธอคิดว่า โลกแฟชั่นดูไม่ใช่แนวทางของเธอ แต่เพลงกลับเข้ากันได้ดีอย่างไม่น่าเชื่อ
(The Devil Wears Prada / 20th Century Fox)
KT Tunstall ภูมิใจเสมอที่เพลงนี้กลายเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมร่วมสมัย เพราะเธอคิดว่าเพลงนี้ยังคงดู ‘เจ๋งและสดใหม่’ จากการที่เธอได้ยินเพลงนี้จากการร้องประสานเสียงของเด็กๆ หรือในห้างร้านต่างๆ ในยุคนี้ และเด็กผู้หญิงหลายคนก็เริ่มเล่นดนตรี เล่นกีตาร์ รวมทั้งใช้ Loop Pedal (เครื่องอัดเสียงเพื่อนำมาเล่นซ้ำๆ สำหรับการทำเพลง) เพราะพวกเธอเคยฟังเพลง Suddenly I Seeทั้งๆ ที่ตอนนั้นเด็กๆ อาจจะยังเกิดไม่ทันตอนเพลงปล่อยด้วยซ้ำ
Suddenly I Seeอาจไม่ได้เป็นเพลงของศิลปินตัวแม่แห่งวงการ และเป็นแค่เพียงเพลงง่ายๆ และเขียนในระยะเวลาสั้นๆ จากนักดนตรีหญิงที่นิยามว่าตัวเองไม่ใช่คนสมบูรณ์แบบอย่าง KT Tunstall แต่เพลงนี้จะเป็นเหมือนเพื่อนสาวคนหนึ่งที่คอยอยู่เคียงข้างผู้หญิงทุกคนอย่างจริงใจ และจะยังคงเป็นเพลงประกอบที่คลาสสิกที่สุดของภาพยนตร์ The Devil Wears Pradaแม้ว่าเวลาจะผ่านไปแล้ว 20 ปีก็ตาม
ภาพ: 20th Century Fox
อ้างอิง: