วิกฤตเศรษฐกิจไทยปี 2569: ภาคส่งออก ท่องเที่ยว และการบริโภคเผชิญความท้าทายหนัก แนะมนุษย์เงินเดือนและฟรีแลนซ์เร่งปรับตัว
วิกฤตเศรษฐกิจไทยปี 2569: ภาคส่งออก ท่องเที่ยว และการบริโภคเผชิญความท้าทายหนัก แนะมนุษย์เงินเดือนและฟรีแลนซ์เร่งปรับตัว
#thunhoon #ทันหุ้น - เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มเผชิญความยากลำบากอย่างมากในปี 2569 จากปัจจัยลบสะสมหลายด้าน โดยเฉพาะผลกระทบจากการที่สหรัฐฯ ขึ้นภาษีนำเข้าจากไทยที่อัตรา 36% ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคมนี้ ส่งผลให้การส่งออกของไทยลดลงอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ การท่องเที่ยวก็ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวลดลงและกำลังซื้อลดลง ขณะที่หนี้ครัวเรือนอยู่ในระดับสูงและภาคการลงทุนยังคงเปราะบาง
ปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่กำลังอ่อนแรง
เศรษฐกิจไทยพึ่งพาปัจจัยหลักหลายประการ ได้แก่ การส่งออก (ยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ เกษตรแปรรูป) การท่องเที่ยว การบริโภคภาคเอกชน การลงทุน และนโยบายภาครัฐ อย่างไรก็ตาม ปัจจัยเหล่านี้กำลังเผชิญกับความท้าทายอย่างหนัก:
- การส่งออก: แม้จะฟื้นตัวในช่วงต้นปี 2568 แต่ก็ยังเผชิญความท้าทายจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวและมาตรการกีดกันทางการค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ จะทำให้สินค้าไทยเสียเปรียบในการแข่งขัน
- การท่องเที่ยว: ภาคการท่องเที่ยวฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องหลังโควิด-19 และคาดว่าจะกลับสู่ระดับก่อนการระบาดในช่วงกลางปี 2568 อย่างไรก็ตาม การฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวจีนอาจไม่เป็นไปตามคาด และรายได้ต่อหัวของนักท่องเที่ยวบางกลุ่มอาจลดลง
การบริโภคภาคเอกชน: ยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ แต่มีสัญญาณของความเปราะบาง โดยเฉพาะกลุ่มครัวเรือนรายได้น้อยที่มีภาระหนี้สินสูง - การลงทุน: การลงทุนภาคเอกชนมีแนวโน้มดีขึ้นในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2567 แต่บางภาคส่วน เช่น อสังหาริมทรัพย์และยานยนต์ยังคงหดตัว ขณะที่การลงทุนภาครัฐคาดว่าจะเร่งตัวขึ้นในปี 2568 หลังจากงบประมาณมีความชัดเจน
ผลกระทบเป็นลูกโซ่ต่อเศรษฐกิจ
สถานการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นลูกโซ่ของผลกระทบที่เชื่อมโยงกัน: การที่สหรัฐฯ ขึ้นภาษีนำเข้าจากไทยทำให้การส่งออกลดลง ประกอบกับจำนวนนักท่องเที่ยวที่ลดน้อยลง จะส่งผลต่อเนื่องให้การลงทุนในไทยลดลง เนื่องจากผู้ผลิตลดการขยายกำลังการผลิตและนักลงทุนต่างชาติอาจย้ายฐานการผลิต เมื่อการลงทุนลดลง การสร้างงานใหม่ก็จะลดลง และอาจมีการปลดพนักงาน ส่งผลให้รายได้และกำลังซื้อของประชาชนลดลงตามไปด้วย นำไปสู่การบริโภคภาคเอกชนที่ลดน้อยลง วงจรนี้จะฉุดรั้งการเติบโตทางเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศให้ชะลอตัวลงหรือถึงขั้นหดตัวได้ มีการประเมินว่าปัจจัยเหล่านี้อาจทำให้ GDP ของไทยติดลบและความเสี่ยงเศรษฐกิจถดถอยเพิ่มขึ้น
คำแนะนำในการเตรียมรับมือสำหรับประชาชน
เพื่อรับมือกับภาวะเศรษฐกิจที่ยากลำบากในปี 2569 ทั้งมนุษย์เงินเดือนและผู้ประกอบอาชีพอิสระควรเตรียมพร้อมดังนี้:
สำหรับมนุษย์เงินเดือน:
- บริหารจัดการเงินอย่างเข้มงวด: ทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายอย่างละเอียด ลดหนี้สินที่ไม่จำเป็น โดยเฉพาะหนี้ดอกเบี้ยสูง และเปรียบเทียบราคาก่อนซื้อ
- สร้างเงินสำรองฉุกเฉิน: ควรมีเงินสำรองอย่างน้อย 3-6 เท่าของค่าใช้จ่ายจำเป็นต่อเดือน เพื่อเป็นสภาพคล่องในยามฉุกเฉิน
- พัฒนาทักษะและเพิ่มคุณค่าในตัวเอง: เรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ ที่ตลาดต้องการ เช่น ทักษะดิจิทัล ภาษา หรือทักษะเฉพาะทางในอุตสาหกรรมที่เติบโต เพื่อเพิ่มโอกาสในการจ้างงาน
- มองหารายได้เสริม: ใช้ทักษะที่มีสร้างรายได้เพิ่ม หรือหางานพาร์ทไทม์
- ดูแลสุขภาพกายและใจ: สุขภาพที่ดีคือต้นทุนสำคัญ และจัดการความเครียดที่เกิดจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ
สำหรับผู้ประกอบอาชีพอิสระ:
- กระจายแหล่งรายได้: ไม่พึ่งพาลูกค้ารายเดียว และเสนอสินค้า/บริการที่หลากหลาย
- สร้างเครือข่ายและสร้างแบรนด์ส่วนตัว: รักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าเก่า สร้างโปรไฟล์ที่แข็งแกร่ง และเข้าร่วมกลุ่มหรือสมาคมที่เกี่ยวข้อง
- บริหารจัดการกระแสเงินสดอย่างรัดกุม: มีเงินสำรองสำหรับธุรกิจ เรียกเก็บเงินตรงเวลา และวางแผนภาษีให้ถูกต้อง
- พิจารณาการประกันภัย: โดยเฉพาะประกันสุขภาพ และประกันสังคม มาตรา 40
- ปรับตัวให้เร็ว: ติดตามข่าวสารเศรษฐกิจในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง และพร้อมปรับเปลี่ยนไปรับงานหรือสร้างสรรค์บริการใหม่ ๆ ที่ตลาดต้องการ
การเตรียมตัวที่ดีจะช่วยให้ประชาชนสามารถรับมือกับความผันผวนของเศรษฐกิจได้ดีขึ้น และมองหาโอกาสใหม่ ๆ ที่อาจเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ท้าทายนี้ได้
รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ทุกช่องทางเหล่านี้