กรมอุตุนิยมวิทยา 7 วันข้างหน้า เตือน 30 ก.ค.- 4 ส.ค. ฝนลดเหลือ 40-60%

กรมอุตุนิยมวิทยา 7 วันข้างหน้า เตือนช่วง 30 ก.ค.-4 ส.ค.68 ตอนบนฝนลดลง แต่ยังฝนฟ้าคะนองและฝนตกหนักที่เกิดขึ้นได้บางพื้นที่ โดยเฉพาะภาคเหนือตอนบนและภาคอีสานตอนบน รวมกรุงเทพมหานครและปริมณฑล เฉลี่ย 40-60% ของพื้นที่ เนื่องจากยังมีอิทธิพลจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน และอ่าวไทย คาดฝนจะกลับมาตกเพิ่มอีกครั้งช่วง 11-12 สิงหาคม 2568 ระบุระยะนี้ยังไม่มีพายุเข้าประเทศไทย

กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า (29 ก.ค. 68)ว่า ภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และบริเวณด้านรับลมมรสุมมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย พะเยา น่าน ตาก บึงกาฬ นครพนม จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม

ทั้งนี้เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านประเทศเมียนมา และประเทศลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย

สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบน และอ่าวไทยตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง

กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า

ในช่วงวันที่ 30 ก.ค. – 4 ส.ค. ประเทศไทยตอนบนจะมีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังอ่อนลง ในขณะที่ยังคงมีหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน

สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามัน และอ่าวไทยยังคงมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบน มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบน มีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ข้อควรระวัง

ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทย ระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองและฝนตกหนักที่เกิดขึ้นได้บางพื้นที่สำหรับชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ตลอดช่วง

กรมอุตุฯระบุเพิ่มเติมว่า ระยะนี้ยังไม่มีพายุที่จะเคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย ไม่น่าวิตกและกังวล ฝนที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่ยังมาจากอิทธิพลของมรสุมตามฤดูกาล

ส่วนสถานการณ์แผ่นดินไหว(ช่วงวันที่ 28 – 29 ก.ค. 68): ตรวจพบเหตุการณ์แผ่นดินไหว

• ขนาด 2.0 มีศูนย์กลางอยู่ที่ต.เวียงมอก อ.เถิน จ.ลำปาง
• ขนาด 3.9 มีศูนย์กลางอยู่ที่มณฑลยูนนาน, ประเทศจีน
• ขนาด 1.6 มีศูนย์กลางอยู่ที่ต.มะเขือแจ้ อ.เมืองลำพูน จ.ลำพูน
• ขนาด 3.4 มีศูนย์กลางอยู่ที่ประเทศเมียนมา
• และขนาด 6.1 มีศูนย์กลางอยู่ที่หมู่เกาะนิโคบาร์ ประเทศอินเดีย

ไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทยแต่อย่างใด

คาดหมายอากาศรายภาค

29 ก.ค. – 4 ส.ค. 2568

ภาคเหนือ

ในช่วงวันที่ 30 ก.ค. – 4 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 – 60 ของพื้นที่ ตลอดช่วง และมีฝนตกหนักบางแห่งด้านตะวันตกของภาคในวันที่ 30 ก.ค. ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 – 20 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 22 – 27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27 – 34 องศาเซลเซียส

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ในช่วงวันที่ 30 ก.ค. – 4 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 – 60 ของพื้นที่ ตลอดช่วง และมีฝนตกหนักบางแห่งทางตอนบนของภาค ในช่วงวันที่ 30 – 31 ก.ค. ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 – 20 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 22 – 27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27 – 35 องศาเซลเซียส

ภาคกลาง

ในช่วงวันที่ 30 ก.ค. – 4 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 – 60 ของพื้นที่ ตลอดช่วง และมีฝนตกหนักบางแห่ง ในวันที่ 30 ก.ค. ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 – 20 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 22 – 27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31 – 36 องศาเซลเซียส

ภาคตะวันออก

ในช่วงวันที่ 30 ก.ค. – 4 ส.ค. ฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 – 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ในช่วงวันที่ 30 – 31 ก.ค. ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15 – 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 23 – 29 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29 – 35 องศาเซลเซียส

ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 – 40 ของพื้นที่ ตลอดช่วง

ในช่วงวันที่ 30 ก.ค. – 4 ส.ค. ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15 – 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 22 – 27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31 – 37 องศาเซลเซียส

ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก)

ในช่วงวันที่ 30 ก.ค. – 4 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 – 40 ของพื้นที่ ตลอดช่วง

ตั้งแต่จังหวัดพังงาขึ้นมา: ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20 – 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ตั้งแต่จังหวัดภูเก็ตลงไป: ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15 – 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 24 – 28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31 – 35 องศาเซลเซียส

กรุงเทพและปริมณฑล

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 – 60 ของพื้นที่ ตลอดช่วง และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 – 20 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 25 – 28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31 – 36 องศาเซลเซียส

เตือนฝนกลับมาตกเพิ่ม 11-12 ส.ค.68

กรมอุตุนิยมวิทยา อัพเดตผลการพยากรณ์ฝนสะสมรายวันเพิ่มเติม (ทุกๆ 24 ชม. (นับตั้งแต่ 07.00น. ถึง 07.00น.วันรุ่งขึ้น) และลมที่ระดับ 925hPa (750 ม.)15 วันล่วงหน้า ระหว่าง 29 ก.ค.- 12 ส.ค.68 init. 2025072812 จากศูนย์พยากรณ์อากาศระยะกลางยุโรป (ECMWF) วิเคราะห์ตามผลจากแบบจำลองฯ เฉดสีแดงหมายถึงฝนหนัก สีเขียวหมายถึงฝนเล็กน้อย ดังนี้

ช่วงวันที่ 29 ก.ค.-10 ส.ค.68 บริเวณประเทศไทยตอนบนพื้นที่ฝนที่เคยตกหนักมีแนวโน้มฝนลดลง แต่ยังมีฝน/ฝนฟ้าคะนองกระจาย และมีฝนตกหนักบางแห่ง ปริมาณฝนส่วนใหญ่เป็นฝนเล็กน้อยถึงปานกลาง บริเวณภาคเหนือตอนบน ภาคอีสานตอนบนและด้านตะวันออกภาคตะวันออก (จ.จันทบุรี ตราด) ด้านรับมรสุม

ส่วนภาคอื่นๆ จะยังคงมีฝนบางแห่ง จากอิทธิพลของร่องมรสุม และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมมีเริ่มมีกำลังอ่อนลงบ้าง

สำหรับภาคใต้จะเริ่มมีฝนเพิ่มขึ้น คลื่นลมมีกำลังปานกลาง โดยเฉพาะทะเลอันดามันตอนบน ชาวเรือ ชาวประมงยังต้องเดินเรือด้วยความระวัง ยังต้องระวังคลื่นลมยังมีกำลังปานกลางถึงค่อนข้างแรง

ช่วงวันหยุด ผู้ที่เดินทางไปภาคเหนือในพื้นที่ที่เกิดอุทกภัยต้องตรวจสอบเส้นทางก่อนออกเดินทาง

ส่วนช่วงวันที่ 11- 12 ส.ค.68 ทั่วไทย มีแนวโน้มฝนเพิ่มขึ้น ในพื้นที่ภาคกลาง ภาคอีสาน ปริมาณฝนเล็กน้อยถึงปานกลาง ปัจจัยยังเกิดจากอิทธิพลของมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ยังพัดปกคลุม

ส่วนภาคใต้จะเริ่มมีฝนเพิ่มขึ้น ช่วงปลายเดือน คลื่นลมเบาลง วางแผนทำกิจกรรมได้ตามปกติ ระวังฝน/ฝนฟ้าคะนองช่วงเย็นถึงค่ำช่วง

สำหรับระยะนี้ยังไม่มีพายุที่จะเคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย ไม่น่าวิตกและกังวล ฝนที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่ยังมาจากอิทธิพลของมรสุมตามฤดูกาล

(ข้อมูลหรือเส้นทางของพายุฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ เนื่องจากยังมีปัจจัยอื่นๆมาเกี่ยวข้องในช่วงที่พายุกำลังเข้าใกล้ชายฝั่ง ใช้เป็นแนวทางประกอบการตัดสินใจและติดตามสภาพอากาศเบื้องต้น)

(ออกประกาศ 29 กรกฎาคม 2568)

รายงานฝนสะสม 24 ชม.ที่ผ่านมา

กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานฝนสะสม 24 ชม.ที่ผ่านมา(28 ก.ค. 68) ตั้งแต่เวลา 07.00 น.ของวันที่ 28 ก.ค. 68 ถึง เวลา 07.00 น. ของวันที่ 29 ก.ค. 68 มีรายงานฝนตกเล็กน้อยถึงปานกลางและมีฝนตกหนักบางแห่ง ปริมาณฝนสูงสุดวัดได้ 126.0 มม.ที่ อ.แม่สอด จ.ตาก

ขณะที่ปริมาณฝนสะสม 24 ชม.ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร รายงานจากสำนักการระบายน้ำ ตั้งแต่เวลา 07.00 น.ของวันที่ 28 ก.ค. 68 ถึง เวลา 07.00 น. ของวันที่ 98 ก.ค. 68 กรุงเทพมหานครมีฝนเล็กน้อยบางพื้นที่ ปริมาณฝนฝนสูงสุดวัดได้ 5.0 มม จุดวัด ปตร.คลองหลวงแพ่ง เขตหนองจอก กทม.

อุณหภูมิสูงสุดบริเวณประเทศไทย เมื่อวานนี้ (28 ก.ค. 68) วัดได้ 37.0 องศาเซลเซียส ที่ อ.เมืองยะลา จ.ยะลา

อุณหภูมิสูงสุดบริเวณกรุงเทพมหานครและปริมณฑล เมื่อวานนี้ (28 ก.ค. 68) วัดได้ 34.7 องศาเซลเซียส ที่ ท่าเรือกรุงเทพ เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : กรมอุตุนิยมวิทยา 7 วันข้างหน้า เตือน 30 ก.ค.- 4 ส.ค. ฝนลดเหลือ 40-60%

ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.prachachat.net