เปิดแผนเร่งด่วน แก้หนี้ 'คลินิกชุมชนอบอุ่น' ขาดสภาพคล่อง
ปัญหาของ 'ระบบสาธารณสุข' ไทย หนีไม่พ้นประเด็นภาระหนี้ของหน่วยบริการสาธารณสุขและปัญหาการขาดดุลของ "กองทุนหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า" ที่ต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน โดยนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้พูดถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาการขาดดุลกองทุนหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าและภาระหนี้ของหน่วยบริการปฐมภูมิ รวมถึงแนวทางการแก้ไขสัญญาบริการสาธารณสุขสำหรับหน่วยบริการปฐมภูมิและทุติยภูมิให้มีความเป็นธรรมและมีมาตรฐานเดียวกันได้อย่างน่าสนใจ
ก่อนหน้านี้ นพ.พินัย ล้วนเลิศ (ข้าราชการบำนาญ) อนุกรรมการหลักประกันสุขภาพเขต 13 กทม. ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการแพทย์และสาธารณสุข กองทุนหลักประกันสุขภาพ กทม. ได้ยื่นจดหมายเปิดผนึกถึงนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ( 4 มิถุนายน 2568) เรียกร้องให้มีการตรวจสอบการจ่ายค่าใช้จ่ายของ "คลินิกชุมชนอบอุ่น" ว่า เป็นไปอย่างถูกต้อง ถูกกองทุนหรือมีงบประมาณรั่วไหลไปทางอื่นหรือไม่
โดยในหนังสือฉบับดังกล่าว ระบุว่า หลังปีงบประมาณ 2566 ปีงบประมาณ 2567 และในปัจจุบันปีงบประมาณ 2568 พบว่า ค่าเหมาจ่ายรายหัวของ คลินิกชุมชนอบอุ่น ที่แม้จะเพิ่มมากขึ้นแต่การหักค่าใช้จ่ายไปในกรณีอุบัติเหตุ ฉุกเฉิน พิการและทันตกรรม รวมทั้งการส่งตัวไปรับบริการที่โรงพยาบาลเพิ่มมากขึ้น โดยปีงบประมาณ 2566-2567 สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติจ่ายค่าบริการสาธารณสุข เป็นคะแนน 0.7 บาท ต่อ 1 คะแนน หรือ คลินิกชุมชนอบอุ่นได้รับงบประมาณ เพียง 70 % จากค่าใช้จ่ายที่เบิกไป
ทว่า ในเดือนสิงหาคม และกันยายน 2567 คลินิกชุมชนอบอุ่น ไม่ได้รับงบแม้แต่บาทเดียว ในขณะที่เดือนตุลาคม พฤศจิกายน และธันวาคม ได้รับงบ 40 บาท/คน/เดือน จากเดิมที่เคยได้รับประมาณ 60 บาท/คน/เดือน
ทั้งนี้ ในปีงบประมาณ 2567 ช่วง 5 เดือนแรกมีเงินเบิกเกิน(ขาดดุล)กว่า 883 ล้าน และคลินิกชุมชนอบอุ่น ได้รับค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุขลดลงอย่างมาก รวมทั้งปีงบ 2567 มีเงินเบิกเกิน 1,030 ล้านบาท ดูเหมือนว่า ค่าหัวเหมาจ่ายถูกหักไปมากจนต้องมีการตรวจสอบ
ขณะที่ในเดือนเมษายน 2568 ที่ผ่านมา พบว่า มีคลินิกถึง 37 แห่งที่ไม่ได้รับงบประมาณเลยแม้แต่บาทเดียว ขณะที่มีคลินิกชุมชนอบอุ่น ที่ได้รับเงิน น้อยกว่า 10 บาท จำนวน 17 แห่ง ได้รับเงินระหว่าง 10-20 บาท จำนวน 32 แห่ง ได้รับเงิน 20-30 บาท จำนวน 47 แห่ง และได้รับเงิน จำนวน 30-40 บาท จำนวน 55 แห่ง
นพ.พินัย กล่าวตั้งข้อสังเกตว่า เหตุการณ์แบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนนับตั้งแต่มีระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หากไม่มีการช่วยเหลืออย่างเพียงพอ หน่วยบริการปฐมภูมิเหล่านี้จะถึงสภาวะการณ์ล่มสลายไปในที่สุด พร้อมกันนี้ทางคลินิกชุมชนอบอุ่นขอให้มีการเยียวยาแก้ไขปัญหาโดยจัดเงินค่าบริการเหมาจ่ายรายหัวมายัง “คลินิกชุมชนอบอุ่น” เพื่อให้ได้ใช้บริการต่อผู้ป่วยหลักประกันสุขภาพแห่งชาติในระบบปฐมภูมิต่อไป
"นายสมศักดิ์" รมว.สาธารณสุข กล่าวถึง แนวทางการแก้ปัญหาการขาดดุลของ กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ โดยเฉพาะในพื้นที่ กทม.ว่า มีคณะอนุกรรมการที่ดูแลเรื่องหลักประกันสุขภาพในกรุงเทพมหานคร หรือที่เรียกว่า คณะอนุกรรมการหลักประกันสุขภาพระดับเขตพื้นที่ กรุงเทพมหานคร (อปสข.กทม.) ที่คอยกำกับติดตามสถานการณ์การเงินของหน่วยบริการทุกเดือน ผ่านกลไกประชุมคณะกรรมการบริหารการเงินการคลังสุขภาพ (CFO) และ อปสข.
สำหรับการแก้ปัญหาการขาดดุลกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พื้นที่กรุงเทพมหานครนั้น จากข้อมูลปีงบประมาณ 2568 ปัจจุบันมีหน่วยบริการปฐมภูมิ (คลินิกชุมชนอบอุ่น) จำนวน 247 แห่ง รับผิดชอบประชากร 2,040,591 คน มีประชาชนมารับบริการ 859,188 คน
โดยการจัดสรรงบประมาณกองทุนผู้ป่วยนอก ปีงบประมาณ 2568 จำนวน 1,462.77 บาท/คน กันเงินไว้ส่วนกลาง จำนวน 361-410 บาท/คน/ปี สำหรับผู้ป่วยฉุกเฉินหรือเหตุสมควร กันเงินไว้ส่วนกลาง 300-360 บาท/คน/ปี สำหรับตามจ่ายผู้ป่วยส่งต่อ พร้อมจัดสรรเงินเหมาจ่ายรายหัวแก่หน่วยบริการตามโครงสร้างประชากรผู้สูงอายุ ภาระโรค เพื่อให้หน่วยบริการได้รับงบประมาณอย่างเหมาะสมตามภารกิจที่รับผิดชอบโดยมีการจัดสรรตั้งแต่ 993.55 บาทถึง 1,227.06 บาท (82.8 บาท/คน/เดือน ถึง 102.26 บาท/คน/เดือน)
ขณะที่ข้อมูลการจัดสรรงบประมาณ สปสช. แก่คลินิกชุมชนอบอุ่น จากข้อมูลตาม พ.ร.บ.งบประมาณฯ ของแต่ละปี (ข้อมูล ณ วันที่ 25 ก.ค.2568 รวมคลินิกชุมชนอบอุ่นใน กทม.ทุกแห่ง) ระบุว่า
ในปีงบประมาณ 2566 ได้มีการจัดสรรเงินให้คลินิกชุมชนอบอุ่น จำนวน 256 แห่ง ทุกกองทุนจำนวน 1,877,461,869.29 บาท เฉพาะในส่วนกองทุนผู้ป่วยนอก จำนวน 1,262,637,029.71 บาท
ในปีงบประมาณ 2567 ได้มีการจัดสรรเงินให้คลินิกชุมชนอบอุ่น 261 แห่ง ทุกกองทุนจำนวน 1,807,229,412.74 บาท เฉพาะในส่วนกองทุนผู้ป่วยนอก จำนวน 1,075,587,017.43 บาท
ในปีงบประมาณ 2568 ได้มีการจัดสรรเงินให้คลินิกชุมชนอบอุ่น 260 แห่ง ทุกกองทุนจำนวน 1,274,826,928.98 บาท เฉพาะในส่วนกองทุนผู้ป่วยนอก จำนวน 760,513,792.54 บาท
อย่างไรก็ดี เพื่อช่วยบรรเทาภาระหนี้ให้กับหน่วยบริการปฐมภูมิ (คลินิกชุมชนอบอุ่น) ที่ประสบปัญหา ในการประชุมคณะทำงาน CFO และ อปสข.ที่ผ่านมาเมื่อเดือนมิถุนายน 2568 ได้การันตีอุดหนุนเงินเหมาจ่ายรายหัวสำหรับหน่วยบริการที่ขาดสภาพคล่อง 26 แห่ง คนละ 30 บาทต่อเดือน
ทั้งนี้ สำหรับปีงบประมาณ 2568 สปสช.ได้จัดสรรงบประมาณให้คลินิกชุมชนอบอุ่นในพื้นที่ต่าง ๆ จำนวน 22 รายการ อาทิ กองทุน Central Reimburse (กรณีเฉพาะ), กองทุนไตวายเรื้อรัง, กองทุนผู้ป่วยนอก , กองทุนสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค, กองทุนเอดส์, ค่าบริการควบคุมป้องกันและรักษาผู้ป่วยโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง, ค่าบริการควบคุม ป้องกัน และรักษาโรคเรื้อรัง, ค่าบริการฟื้นฟูสมรรถภาพด้านการแพทย์ และค่ารักษาพยาบาลผู้ประกันตนที่เป็นคนพิการ สิทธิประกันสังคม เป็นต้น
สำหรับแนวทางการแก้ไขสัญญาบริการสาธารณสุขให้มีความเป็นธรรมมีมาตรฐานเดียวกันต่อหน่วยบริการปฐมภูมิและทุติยภูมินั้น นายสมศักดิ์ ระบุว่า เดิมสัญญาฯระบุให้ หน่วยบริการ จะบอกเลิกสัญญาก่อนครบกำหนดระยะเวลาไม่ได้แต่หากหน่วยบริการไม่ประสงค์ต่อสัญญาฯ ต้องแจ้ง สปสช. ไม่น้อยกว่า 180 วัน ก่อนวันสิ้นสุดสัญญา หากน้อยกว่า 180 วัน ต้องได้รับการยินยอมจาก สปสช.
ได้มีการแก้ไขข้อบังคับการขึ้นทะเบียนหน่วยบริการสัญญาฯ ระบุว่า หากหน่วยบริการไม่ประสงค์ต่อสัญญาฯ ต้องแจ้ง สปสช. เพื่อพิจารณาเหตุผลความจำเป็นและการเข้าถึงบริการสาธารณสุขประกอบการพิจารณา เมื่อมีการยกเลิกสัญญาฯ แล้ว หน่วยบริการต้องรับผิดชอบในความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากการยกเลิกสัญญาดังกล่าวด้วย
หน้า 15 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 4,123 วันที่ 17 - 20 สิงหาคม พ.ศ. 2568