AMATA โบรกมองเชิงบวกต่อแนวโน้มกำไรครึ่งปีหลัง
AMATA โบรกมองเชิงบวกต่อแนวโน้มกำไรครึ่งปีหลัง
#amata #ทันหุ้น – การซื้อขายหุ้นของบริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) หรือ AMATA วันที่ 21 ส.ค.68 เคลื่อนไหวในช่วง 16.30-16.80 บาท ณ เวลา 16.21 น.ราคาหุ้นอยู่ที่ 16.50 บาท ไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อน มูลค่าการซื้อขาย 346 ล้านบาท
AMATA จัดประชุมนักวิเคราะห์วันที่ 20 ส.ค.68 IAA Consensus ให้คำแนะนำ “ซื้อ” 12 ราย ให้คำแนะนำ “ถือ” 2 ราย ให้คำแนะนำ “ขาย” 2 ราย โบรกเกอร์ให้ราคาเหมาะสมในช่วง 14.90-35.00 บาท มีค่ากลางที่ 22.90 บาท โบรกเกอร์ได้ออกบทวิเคราะห์หุ้น AMATA ในวันที่ 21 ส.ค.68 มีมุมมองดังนี้
สรุปความเห็นโบรกเกอร์เกี่ยวกับ AMATA
ภาพรวมของบทวิเคราะห์จากหลายโบรกเกอร์เกี่ยวกับหุ้น AMATA ชี้ให้เห็นว่า ทุกโบรกเกอร์ต่างคาดหวังการเติบโตของยอดขายและกำไรในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 โดยเฉพาะในไตรมาส 4/68 แม้ว่ายอดขายสะสมในช่วงที่ผ่านมาจะยังต่ำกว่าเป้าหมายของบริษัทมากก็ตาม
มุมมองจากโบรกเกอร์ KGI และ InnovestX
บล.เคจีไอ คาดการณ์ว่าไตรมาส 4/68 จะเป็นช่วงที่ดีที่สุดสำหรับการขายที่ดินของ AMATA แต่ก็ยังคงประมาณการยอดขายและยอดโอนกรรมสิทธิ์ไว้อย่างระมัดระวังที่ 1,400–1,500 ไร่ในปี 2568 และ 1,000–1,200 ไร่ในปี 2569 พร้อมทั้งปรับลดกำไรสุทธิลงเพื่อสะท้อนค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นและโอกาสขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน ทำให้คาดว่ากำไรสุทธิจะลดลง 10% ในปี 2568 เหลือ 2.2 พันล้านบาท และลดลงอีกในปี 2569 เหลือ 2 พันล้านบาท บล.เคจีไอจึงให้คำแนะนำ “ถือ” พร้อมราคาเป้าหมายใหม่ที่ 17.00 บาท
บล.อินโนเวสท์เอกซ์ ยังคงประมาณการกำไรสุทธิเติบโต 7.5% แม้ว่ายอดขายสะสมจะต่ำกว่าเป้าหมายก็ตาม โดยมองว่า Backlog ที่แข็งแกร่งถึง 25,000 ล้านบาท จะช่วยหนุนผลประกอบการในปี 2568 โดยเฉพาะไตรมาส 4/68 ซึ่งจะมีการรับรู้รายได้สูงที่สุด และคงคำแนะนำ “Outperform” ด้วยราคาเป้าหมายที่ 23.20 บาท
มุมมองจากโบรกเกอร์ Land & Houses และ Krungsri
บล.แลนด์แอนด์เฮ้าส์ เห็นสัญญาณเชิงบวกมากขึ้นจากลูกค้า หลังจากที่ไทยลดอัตราภาษีนำเข้าเหลือ 19% ทำให้ลูกค้าชาวจีนในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์, ยานยนต์ และ Data Center ตัดสินใจลงทุนในไทยมากขึ้น บล.แลนด์แอนด์เฮ้าส์คาดว่ากำไรจะเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงครึ่งหลังของปี และให้คำแนะนำ “ซื้อ” โดยมองว่า P/B ที่ 0.7 เท่าต่ำเกินไปเมื่อเทียบกับการถือครองที่ดินต้นทุนต่ำจำนวนมาก
บล.กรุงศรี ยังคงเป้ายอดขายที่ดินทั้งปีที่ 3,000 ไร่ และมองว่ายอดขายที่เหลือจะก้าวกระโดดในครึ่งปีหลัง 2568 โดยมีลูกค้ากลุ่ม Data Center ที่สนใจพื้นที่จำนวนมาก นอกจากนี้ยังมองว่าแนวโน้มในเวียดนามก็เป็นบวก เนื่องจากต้นทุนพัฒนาที่ลดลงจะช่วยเพิ่มกำไร และยังคาดว่าจะได้รับอนุมัติโครงการใหม่ในจังหวัด Phu Tho อีกด้วย บล.กรุงศรีคงคำแนะนำ “ซื้อ” โดยมองว่ายอดขายและการโอนที่แข็งแกร่งในช่วงครึ่งปีหลังจะเป็นปัจจัยบวกในระยะสั้น
มุมมองจากโบรกเกอร์ Kasikorn และ Pi
บล.กสิกรไทย ยังคงแนะนำ “ซื้อ” ด้วยราคาเป้าหมายที่ 23.50 บาท แม้ว่ายอดขายสะสมจะยังห่างไกลจากเป้าหมายของบริษัท แต่เชื่อมั่นว่า Backlog ที่มีอยู่จำนวนมาก (2.5 หมื่นล้านบาท) จะช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งหลังของปี และจะช่วยหนุนราคาหุ้นได้ในที่สุด
บล.พาย มองว่าผลประกอบการไตรมาส 2/68 ที่ต่ำกว่าคาดมีสาเหตุมาจากค่าใช้จ่ายภาษีที่สูง แต่ยังคงแนะนำ “ซื้อ” โดยมีปัจจัยบวกจากฐาน Backlog ที่สูงถึง 25,000 ล้านบาท ทำให้แนวโน้มผลประกอบการใน 1-2 ปีข้างหน้าไม่ได้รับผลกระทบมากนักจากการชะลอการตัดสินใจของลูกค้า และคาดว่าความต้องการที่ดินจากอุตสาหกรรม Data Center จะช่วยให้ยอดขายเพิ่มขึ้นได้ในอนาคต
AMATA โบรกมองเชิงบวกต่อแนวโน้มกำไรครึ่งปีหลัง