แบงก์ชาติมองเศรษฐกิจไทยครึ่งหลังปี 68 ชะลอลง หวัง GDP โต 2.3% ภายใต้ไทยถูกเก็บภาษี 18%
เศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลกต่างจับตาการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และนานาประเทศ ซึ่งช่วงที่ผ่านมาเริ่มเห็นข้อสรุปดีลต่าง ๆ เช่น เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ต้องเจอกับอัตราภาษีนำเข้าสินค้าฯ ที่ 15% อินเดียที่ 25% ส่วนประเทศเพื่อนบ้านและคู่แข่งของไทยอย่างเวียดนาม จะถูกเรียกเก็บที่ 20% ซึ่งไทยจะถูกเก็บที่อัตราเท่าไร (เดิมประกาศไว้ที่ 36%) ถือเป็นเรื่องใหญ่ที่ทุกคนต่างจับตาในค่ำคืนนี้
ในมุมมอง "ชญาวดี ชัยอนันต์" ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายองค์กรสัมพันธ์ และโฆษกธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีแรก 2568 ยังเป็นไปตามคาด เพราะมีแรงหนุนจากการเร่งส่งออกเพื่อเลี่ยงผลกระทบทางภาษีฯ ขณะที่เดือน มิ.ย. เริ่มชะลอลงจากเดือนก่อนหน้า เครื่องชี้ต่าง ๆ ปรับลดลงทั้งการส่งออกในหมวดสินค้าเทคโนโลยี และยานยนต์ และการผลิตภาคอุตสาหกรรม รวมถึงภาคการท่องเที่ยวที่ลดลงทั้งรายรับและจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ
ทั้งนี้ ในช่วงครึ่งปีหลังยังมีความไม่แน่นอนสูง ทั้งสถานการณ์ไทย-กัมพูชา และภาคการท่องเที่ยวที่ความเชื่อมั่นอาจปรับตัวลดลง รวมถึงผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมในภาคเหนือ ที่แม้จะมีผลกระทบจำกัด แต่ยังต้องติดตามอย่างต่อเนื่อง
อีกประเด็นสำคัญคือ ผลของการเจรจาการค้าของไทยและประเทศต่าง ๆ กับสหรัฐฯ แม้ในส่วนของไทยอาจเห็นผลการเจรจาในคืนวันนี้ (เส้นตายคือ 1 ส.ค. 68) แต่ไทยจะเจอผลกระทบมากน้อยเพียงใด ยังขึ้นอยู่กับผลการเจรจาการค้าของประเทศคู่ค้าของไทยด้วย เช่น จีน ที่ตอนนี้ยังไม่มีดีลข้อสรุปออกมา รวมถึงยังต้องติดตามผลจากมาตรการเศรษฐกิจของภาครัฐที่จะออกมาเพิ่มเติม
อย่างไรก็ตาม ครึ่งปีหลัง 2568 นี้คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะชะลอลงเมื่อเทียบกับช่วงก่อนหน้า โดยยังคงประมาณการ GDP ไทยทั้งปีนี้ไว้ที่ 2.3% ภายใต้สมมติฐานว่าไทยถูกเก็บอัตราภาษีฯ ที่ 18% (สมมติฐานเดียวกับหน่วยงานรัฐอื่นๆ) และเชื่อว่าผลที่ออกมาน่าจะไม่แตกต่างจากประเทศอื่นๆ จากปัจจุบันที่ประเทศหลักมักเจอการเก็บภาษีในอัตรา 15% ส่วนกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาฯ อยู่ราว 20%
ดังนั้นหากสถานการณ์เปลี่ยนแปลง ธปท. อาจปรับคาดการณ์เศรษฐกิจและผลกระทบโดยจะเปิดเผยในช่วงเดือน ต.ค. ปีนี้เพราะปัจจุบันยังไม่เห็นความชัดเจนเพียงพอจะประเมินผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับไทย
แต่ที่แน่นอนคือ ผลกระทบจากการถูกเก็บภาษีฯ เพิ่มนั้นจะส่งผลต่อภาคการส่งออกของไทยตั้งแต่ไตรมาส 3 และ 4 ปี 2568 ไปจนถึงปี 2569 ขณะที่ฝั่งนโยบายการเงิน กนง. หรือ คณะกรรมการนโยบายการเงินต้องปรับมุมมองด้านความเสี่ยงเพราะความไม่แน่นอนยังสูงมาก โดยมองว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายปัจจุบันสามารถดูแลความเสี่ยงได้ระดับหนึ่ง และอัตราดอกเบี้ยฯ ไม่ใช่เครื่องมือเดียวที่แก้ปัญหาเศรษฐกิจได้ ยังต้องรอดูเครื่องมืออื่นๆ ที่ภาครัฐจะเข้ามามีส่วนร่วม
ติดตามข้อมูลด้านเศรษฐกิจและนโยบายรัฐบาล กับ ThairathMoney ได้ที่
https://www.thairath.co.th/money/economics/thailand_econ
อ่านข่าวหุ้น ข่าวทองคำ และ ข่าวการลงทุน และ การเงิน กับ Thairath Money ได้ที่ https://www.thairath.co.th/money/investment
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : แบงก์ชาติมองเศรษฐกิจไทยครึ่งหลังปี 68 ชะลอลง หวัง GDP โต 2.3% ภายใต้ไทยถูกเก็บภาษี 18%
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ลุ้นลดค่าไฟงวดปลายปี ลดค่าครองชีพชาวบ้าน
- ธปท.-แบงก์ ออกมาตรกาารช่วยลูกหนี้ชายแดน
- IMF ปรับเพิ่มแนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจโลก หลังภาษีสหรัฐฯ บรรเทาลง
- “ศิริกัญญา” แนะภูมิใจไทยเสนอญัตติด่วน แทนเปิดอภิปราย ม.152 -ภาษีทรัมป์ คาดได้ไม่เกิน 20%
- “กอบศักดิ์” ชี้เศรษฐกิจครึ่งปีหลังหดัว ปม “ไทย-กัมพูชา” ถล่มซ้ำ
ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath