PLANET ยกระดับศูนย์ Data Center ใน EEC พร้อมขยายสู่ Hyperscale รองรับ AI ในอนาคต
บริษัท แพลนเน็ต คอมมิวนิเคชั่น เอเชีย จำกัด (มหาชน) หรือ PLANET ยกระดับศูนย์ Data Center ของบริษัท เอสทีพี แพลนเน็ต ดีซี จำกัด (STP PLANET DC) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ ด้วยมาตรฐาน ISO/IEC 27001 เพื่อเสริมศักยภาพและความปลอดภัยในการให้บริการ ตอกย้ำศักยภาพความเป็นศูนย์ Data Center ระดับ Tier 3 ชั้นนำในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC)
โดยให้บริการ Colocation และ Cloud แก่ลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ ด้วยอุปกรณ์คุณภาพสูงจากแบรนด์ผู้ผลิตระดับโลก มั่นใจได้ว่าข้อมูลดิจิทัลของลูกค้าจะได้รับการดูแลภายใต้มาตรฐานสากลอย่างเข้มงวด พร้อมแผนการขยายสู่ Hyperscale Data Center รองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมปัญญาประดิษฐ์ (AI) ด้วยทำเลที่ตั้งเชิงยุทธศาสตร์และโครงสร้างพื้นฐานที่ครบครัน มุ่งสู่การเป็น Green AI Data Center Ecosystem โดยเน้นการใช้พลังงานสะอาดและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
‘ประพัฒน์ รัฐเลิศกานต์’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แพลนเน็ต คอมมิวนิเคชั่น เอเชีย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา บริษัท เอสทีพี แพลนเน็ต ดีซี จำกัด ได้รับใบรับรองมาตรฐานระบบบริหารจัดการความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศ ISO/IEC 27001 อย่างเป็นทางการจาก British Standards Institution (BSI) ซึ่งเป็นองค์กรรับรองมาตรฐานระดับสากล
‘ประพัฒน์’ กล่าวเพิ่มเติมว่า การได้รับการรับรองมาตรฐานดังกล่าวจะช่วยยกระดับการให้บริการในธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์ โดยมีจุดเด่น ได้แก่
- ยกระดับมาตรฐานด้านความปลอดภัยของข้อมูลทั้งภายในองค์กรและในการให้บริการแก่ลูกค้า
- ลดความเสี่ยงจากเหตุการณ์ข้อมูลรั่วไหลหรือการโจมตีทางไซเบอร์
- สร้างความเชื่อมั่นให้แก่ลูกค้าและพันธมิตร
- สนับสนุนการปฏิบัติตามกฎหมายและข้อกำหนดด้านข้อมูลสารสนเทศ เช่น พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) และ พ.ร.บ.ความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ และ
- เพิ่มความได้เปรียบทางการแข่งขันในธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์และบริการคลาวด์ ซึ่งสามารถมั่นใจได้ว่าข้อมูลที่จัดเก็บไว้กับ STP PLANET DC จะได้รับการดูแลอย่างปลอดภัยสูงสุด
STP PLANET DC ตั้งอยู่ในพื้นที่จังหวัดระยอง ภายในเขตระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ให้บริการ Colocation และ Cloud รองรับความต้องการขององค์กรและภาคอุตสาหกรรมที่ต้องการโซลูชันดิจิทัลที่ปลอดภัย เสถียร และขยายได้ ปัจจุบันเริ่มมีลูกค้าจากทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มบริษัทด้านเทคโนโลยี วิจัย และ AI เข้ามาใช้บริการแล้ว
STP PLANET DC ได้รับการรับรองมาตรฐาน Tier 3 จาก Uptime Institute ปัจจุบันมีขนาด 1.8 เมกะวัตต์ (MW) และอยู่ระหว่างการขยายกำลังการให้บริการเป็น 5 – 10 เมกะวัตต์ (MW) เพื่อรองรับความต้องการของกลุ่มธุรกิจที่ต้องการประมวลผลและจัดเก็บข้อมูลขนาดใหญ่ โดยเฉพาะอุตสาหกรรม AI และยังมีเป้าหมายในการพัฒนาให้เป็น Green AI Data Center Ecosystem ที่ใช้พลังงานสะอาด
ด้านจุดแข็งของ STP PLANET DC คือทำเลที่ตั้งมีความปลอดภัยจากน้ำท่วม และตั้งอยู่ในพื้นที่ที่ปลอดภัยจากรอยเลื่อนแผ่นดินไหวตามข้อมูลจากกรมทรัพยากรธรณี อีกทั้งยังอยู่ห่างจากกรุงเทพฯ อย่างเหมาะสม ทำให้สามารถรองรับการวางระบบสำรองข้อมูลขององค์กรต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมด้วยโครงสร้างอาคารที่แข็งแรง ปลอดภัย และสามารถปกป้องข้อมูลจากภัยพิบัติที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต
นอกจากนี้ โครงสร้างอาคารที่ได้มาตรฐาน ระบบไฟฟ้าสำรอง อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง และระบบรักษาความปลอดภัยหลายชั้น ช่วยให้สามารถดำเนินงานได้อย่างต่อเนื่องแม้ในภาวะฉุกเฉิน ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้ากลุ่ม Cloud และผู้ให้บริการ AI GPU Server ที่ต้องการประมวลผลระดับสูง รองรับการใช้ไฟฟ้าได้ตั้งแต่ 6 – 40 กิโลวัตต์ (kW) ต่อ rack
บริษัทฯ ยังเน้นการใช้อุปกรณ์คุณภาพสูงจากแบรนด์ผู้ผลิตระดับโลก ทั้งระบบไฟฟ้าสำรอง ระบบควบคุมอุณหภูมิที่แม่นยำ ระบบเครือข่ายความเร็วสูง และโครงสร้างพื้นฐานด้านความปลอดภัย ซึ่งเมื่อรวมกับการได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO/IEC 27001 แล้ว จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยสนับสนุนให้ธุรกิจ Data Center ของบริษัทฯ เติบโตอย่างมั่นคง นายประพัฒน์กล่าว
ด้าน ‘กฤตภาส วิริยจันทร์ตา’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสทีพี แพลนเน็ต ดีซี จำกัด กล่าวว่า STP PLANET DC ตั้งอยู่บนพื้นที่ขนาดใหญ่ ใกล้แหล่งคมนาคมสำคัญ เช่น ท่าเรือแหลมฉบัง สนามบินอู่ตะเภา และสนามบินสุวรรณภูมิ ทำให้สามารถเชื่อมต่อกับภูมิภาคและต่างประเทศได้อย่างสะดวก และยังได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ ทั้งในด้านโครงสร้างพื้นฐานและสิทธิประโยชน์การลงทุนในพื้นที่ EEC เช่น การยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลสูงสุด 13 ปี และการอนุญาตให้ชาวต่างชาติถือครองที่ดินได้
STP PLANET DC มีความมุ่งมั่นในการพัฒนาและเสริมสร้างความมั่นคงด้านดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง เพื่อก้าวสู่การเป็นศูนย์ข้อมูลระดับภูมิภาคที่มีมาตรฐานสูงสุด สำหรับองค์กรภาครัฐ ภาคเอกชน และกลุ่มธุรกิจที่ต้องการโซลูชันดิจิทัลที่มีประสิทธิภาพและความปลอดภัยสูงสุด