มาริษลั่นน่าเกลียด เขมรปล่อยข่าวไทยลอบสังหาร จ่อประชุมทูตจัดการสงครามข่าวสารต่อ
มาริษลั่นน่าเกลียด เขมรปล่อยข่าวไทยลอบสังหาร จ่อประชุมทูตจัดการสงครามข่าวสารต่อ
เมื่อวันที่ 5 สิงหาคมนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ แถลงสถานการณ์ไทย-กัมพูชาว่า การบรรยายสรุปแก่คณะทูตและองค์การระหว่างประเทศเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาได้รับความสนใจและการตอบรับที่ดี โดยได้เสนอหลักฐานที่ชัดเจนมากขึ้น รวมถึงได้ย้ำกับมิตรประเทศว่าความขัดแย้งที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นสิ่งที่ไทยต้องการ และพยายามผลักดันให้เกิดการเจรจาทวิภาคีอย่างต่อเนื่อง
พร้อมกล่าวด้วยว่า ไทยไม่เคยใช้การรุกราน มีแต่การตอบโต้อย่างเหมาะสมตามสัดส่วนที่ไทยได้รับ และเรียกร้องให้กัมพูชามีการเก็บศพนายทหารกัมพูชาคืนสู่ครอบครัวเพื่อให้เกียรติและแสดงความเคารพ
นายมาริษกล่าวด้วยว่า ในขณะนี้มีการปล่อยข่าวสารที่บิดเบือน อย่างเช่นในเมื่อเช้ามีข่าวออกมาว่าไทยพยายามลอบสังหารสมเด็จฯ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภาและสมเด็จฯ ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าเกลียดมาก ทั้งยังไม่สอดคล้องกับกฎหมายระหว่างประเทศและกฎบัตรของสหประชาชาติ ทั้งนี้ กรมสารนิเทศได้ออกมาตอบโต้ในทันที
ในเรื่องนี้ ไทยทำงานอย่างเป็นทีม โดยใช้กลไกสถานเอกอัครราชทูตและทวิภาคีทั่วโลกรณรงค์จัดกิจกรรมเผยแพร่ข่าวสารที่ถูกต้องและได้ใช้โอกาสเพื่อชี้แจ้งข้อเท็จจริง สำหรับในกรอบพหุภาคีเอง เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวร ณ นครนิวยอร์ก และเอกอัครราชทูตผู้แทนถาวร ณ นครเจนนีวาได้ดำเนินมาตรการนโยบายที่สอดรับกัน สอดคล้องกับที่ตนได้ชี้แจ้ง ขณะเดียวกัน ในกรอบสื่อมวลชนต่างประเทศ นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศเข้าร่วมงานที่จัดโดยสมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งประเทศไทย (FCCT) เพื่อชี้แจ้งข้อเท็จจริงด้วย
นายมาริษกล่าวว่า ในวันที่ 7 สิงหาคม จะมีการประชุมออนไลน์กับสถานเอกอัครราชทูตไทยในต่างประเทศ ซึ่งก็จะมอบหมายหน้าที่ให้ชี้แจ้งข้อเท็จจริงและให้ความสำคัญกับสงครามจิตวิทยาและสงครามข่าวสาร ซึ่งถูกใช้ตลอดมา ไทยจะดำเนินการตอบโต้เพื่อแสดงให้เห็นว่ามีความจริงใจที่จะปฏิบัติตามผลการประชุมที่ปุตราจายา
การลงพื้นที่เยี่ยมเชลยศึกของคณะเจ้าหน้าที่จากสำนักงานภูมิภาคคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (ICRC) นับเป็นการดำเนินมาตรการเชิงรุกหลังจากที่พลรบของกัมพูชาตกค้างอยู่หลังจากที่ปะทะกับไทย ซึ่งประสานงานโดยคณะผู้แทนถาวร ณ นครเจนนีวา เพื่อแสดงให้เห็นว่าไทยมีความจริงใจ ยึดมั่นในกฎบัตรสหประชาชาติและกฎหมายระหว่างประเทศ และเป็นไปตามอนุสัญญาเจนีวาฉบับที่ 3 พร้อมเสริมว่า ภายใต้อนุสัญญานี้ มีข้อบทที่อนุญาตให้ปล่อยตัวเชลยศึกได้เมื่อสภาวะความขัดแย้งกันทางอาวุธหยุดสิ้นลง ไม่ใช่แค่การหยุดยิง ตราบใดที่มีโอกาสที่บุคคลเหล่านี้จะปฏิบัติตัวเป็นปริปักษ์กับประเทศก็มีสิทธิจะคุ้มตัวไว้
นายมาริษกล่าวว่า วันนี้เป็นการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) เป็นวันที่ 2 ระหว่างฝ่ายเลขานุการ ซึ่งมีเป้าหมายคือการหยุดยิงถาวรและมีกลไกในการตรวจสอบและมีขั้นตอนการหยุดยิงที่โปร่งใส พร้อมเปิดเผยว่ารัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของมาเลเซียเสนอให้มีการหารือระดับรัฐมนตรีต่างประเทศกับฝ่ายกัมพูชา แต่ตนก็ได้ปฏิเสธเพราะต้องการให้เกิดการดำเนินงานในกรอบทวิภาคีมากที่สุด
โดยรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศมาเลเซียเห็นพ้องและขอบคุณสำหรับคำแนะนำ อีกทั้ง ตนได้ฝากเรื่องสงครามข่าวสาร หาทางจัดการทำให้ฝ่ายกัมพูชาลดทอนการใช้สงครามข่าวสารให้น้อยลงเพราะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และทำให้ไม่ให้เกิดความคืบหน้าของเจรจา GBC เป็นไปในทางที่ดี
นอกจากนั้น นายมาริษกล่าวอีกว่า ในวันนี้ได้หารือกับกระทรวงการค้าของนิวซีแลนด์ มีการพูดคุยเรื่องความร่วมมือในการพัฒนาธุรกิจร่วมกันเพื่อหาทางลดผลกระทบมาตรการภาษีกับสหรัฐผ่านความร่วมมือห่วงโซ่อุปทานและห่วงโซ่คุณค่าอีกด้วย
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : มาริษลั่นน่าเกลียด เขมรปล่อยข่าวไทยลอบสังหาร จ่อประชุมทูตจัดการสงครามข่าวสารต่อ
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.matichon.co.th