ทรัมป์ แต่งตั้ง “สตีเฟน มิแรน” ประธานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจ นั่งผู้ว่าการเฟด
ทรัมป์ ตั้ง “สตีเฟน มิแรน” เสียบแทนคูเกลอร์ในบอร์ดเฟด ชี้อาจเป็นแค่บทบาทชั่วคราวก่อนเลือกประธานเฟดใหม่
วันที่ 8 สิงหาคม 2568 สำนักข่าว CNBC รายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศว่าเขาได้เลือก สตีเฟน มิแรน (Stephen Miran) ประธานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจ (Council of Economic Advisors: CEA) ให้ดำรงตำแหน่งสำคัญในคณะกรรมการผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐฯ (Federal Reserve Board of Governors) แทนที่ อาเดรียนา คูเกลอร์ (Adriana Kugler) ที่ลาออกในวันศุกร์ โดยมิแรนจะดำรงตำแหน่งแทนในวาระที่เหลือของคูเกลอร์ ซึ่งจะสิ้นสุดในวันที่ 31 มกราคม 2026
“ในระหว่างนี้ เราจะยังคงหาผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งอย่างถาวรต่อไป” ทรัมป์กล่าวในโพสต์ Truth Social โดยระบุเป็นนัยว่า ผู้ที่ดำรงตำแหน่งครบวาระ 14 ปี อาจเป็นบุคคลอื่น และมิแรนอาจเป็นเพียงผู้รักษาการชั่วคราว
“เขาอยู่เคียงข้างผมมาตั้งแต่เริ่มวาระที่สอง และมีความเชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจอย่างหาตัวจับยาก เขาจะทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยม” ทรัมป์กล่าวเพิ่มเติม “ขอแสดงความยินดีกับสตีเฟน!”
นอกจากตำแหน่งว่างของคูเกลอร์ซึ่งจะมีผลในวันศุกร์ ตำแหน่งประธาน Fed คนปัจจุบันอย่าง เจอโรม พาวเวลล์ (Jerome Powell) ก็จะหมดวาระในเดือนพฤษภาคมด้วย โดยผู้ที่มีโอกาสถูกเสนอชื่อแทน ได้แก่ ผู้ว่าการคนปัจจุบัน คริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ (Christopher Waller) อดีตผู้ว่าการ เควิน วอช (Kevin Warsh) และผู้อำนวยการสภาเศรษฐกิจแห่งชาติ เควิน แฮสเส็ตต์ (Kevin Hassett)
การแต่งตั้งมิแรนเกิดขึ้นท่ามกลางกระแสคาดการณ์ว่าทรัมป์อาจเสนอชื่อ “ประธานเงา” (shadow chair) ให้เข้าไปทำหน้าที่ใน Fed โดยเฉพาะเพื่อเป็นเสียงค้านและสะท้อนท่าทีของทำเนียบขาวในประเด็นนโยบายการเงิน
ทรัมป์เรียกร้องให้ลดดอกเบี้ยลงอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา ขณะที่มิแรนเคยเป็นนักวิจารณ์ Fed โดยเฉพาะกรณีการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างรุนแรงในช่วงโควิด-19 นอกจากนี้ เขายังเป็นผู้เขียนแผนการที่ถกเถียงกันอย่างมากชื่อ “Mar-A-Lago Accord” ซึ่งเสนอให้ลดค่าเงินดอลลาร์เพื่อแก้ปัญหาขาดดุลบัญชีเดินสะพัด และเคยวิจารณ์นโยบายของอดีตรัฐมนตรีคลังเจเน็ต เยลเลน เกี่ยวกับการซื้อพันธบัตรระยะสั้นเพื่อจัดการหนี้สาธารณะ
มาร์โค คาซิรากี นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสจาก Evercore ISI กล่าวในบันทึกว่า “การเลือกมิแรนเป็นการแต่งตั้งชั่วคราวเพื่อถ่วงเวลาให้ทรัมป์สามารถตัดสินใจอีกครั้งภายในเดือนมกราคม โดยไม่ผูกมัดตัวเองกับตำแหน่งประธาน Fed ถาวร”
อย่างไรก็ตาม มิแรนยังต้องผ่านการรับรองจากวุฒิสภาก่อนจะเข้ารับตำแหน่งในคณะกรรมการ 7 คน โดยคาดว่าจะเกิดขึ้นเมื่อวุฒิสภาเปิดประชุมอีกครั้งในเดือนกันยายน ขณะที่การประชุม FOMC ครั้งต่อไปซึ่งเขาจะมีสิทธิ์ออกเสียงจะมีขึ้นในวันที่ 16–17 กันยายน โดยตลาดคาดว่า Fed อาจลดดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2024
ทิม สก็อตต์ ประธานคณะกรรมาธิการการธนาคารของวุฒิสภา กล่าวยกย่อง มิแรน ว่าเป็น “นักเศรษฐศาสตร์ผู้มีความสามารถ” ซึ่ง “มีบทบาทสำคัญในการผลักดันนโยบายเศรษฐกิจเชิงเติบโตในฐานะประธาน CEA” และหวังจะฟังแผนการเพิ่มความโปร่งใสและความรับผิดชอบของ Fed จากเขา
ก่อนร่วมรัฐบาลทรัมป์ มิแรน เคยดำรงตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญอาวุโสด้านกลยุทธ์ที่ Hudson Bay Capital Management และเป็นนักวิจัยอาวุโสที่ Manhattan Institute for Policy Research ในช่วงที่ทำงานในกระทรวงการคลัง เขาเป็นผู้ร่วมออกแบบโครงการ Paycheck Protection Program (PPP) ในช่วงโควิด-19
นอกจากนี้ เขายังสนับสนุนนโยบายภาษีตอบโต้ (reciprocal tariffs) และมีจุดยืนสนับสนุนคริปโทเคอร์เรนซีอย่างแข็งขัน ในฐานะกรรมการ Fed เขาจะมีหน้าที่ทั้งด้านการกำหนดดอกเบี้ยและกำกับดูแลระบบการเงิน
แต่บทบาทสำคัญที่สุดในระยะสั้นของเขา อาจเป็นการเป็น “คู่ปรับ” ทางความคิดของเจอโรม พาวเวลล์ ประธาน Fed ซึ่งทรัมป์เคยโจมตีอย่างต่อเนื่อง ทั้งเรียกร้องให้ลาออก และแม้กระทั่งพิจารณาวิธีการปลดออก (แม้จะขัดต่อกฎหมาย)
ในการประชุม FOMC ล่าสุด สมาชิกที่ทรัมป์แต่งตั้งอย่างวอลเลอร์และมิเชลล์ โบว์แมน ลงมติค้านมติคงอัตราดอกเบี้ย ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 30 ปีที่มีผู้ว่าการมากกว่าหนึ่งคนไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจเรื่องดอกเบี้ย
อ้างอิง : cnbc.com