ทำความรู้จัก “CVS” โรคตาที่พบมากที่สุดในยุคโซเชียลมีเดีย
โรคซีวีเอส หรือ Computer Vision Syndrome กลายเป็นโรคตาที่พบมากในยุคโซเชียลมีเดีย และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ตามความก้าวหน้าของเทคโนโลยี ซีวีเอสไม่ใช่โรคร้ายแรง แต่มีผลกระทบ ที่สร้างความลำบากแก่ร่างกายในชีวิตประจำวันได้
CVS คืออะไร
Computer Vision Syndrome (CVS) คือกลุ่มอาการทางตาและการมองเห็นที่เกิดจากการใช้สายตาจ้องหน้าจอเป็นเวลานาน ต่อเนื่องหลายชั่วโมงต่อวัน การดูหน้าจอในที่มืด แสงสว่างไม่เพียงพอ ระยะห่างจากตาและหน้าจอไม่เหมาะสม รวมถึงสภาพอากาศที่สามารถทำให้ตาแห้ง โดยอาการจะเพิ่มความรุนแรงขึ้นตามระยะเวลาการใช้งาน
สาเหตุ
1.การใช้สายตาในระยะใกล้ถึงกลาง กล้ามเนื้อตาจะมีการเพ่งเพื่อให้ภาพคมชัด ทำให้การกระพริบตาลดลง เกิดอาการตาแห้ง ถ้าปล่อยให้ตาแห้งมากๆอาจทำให้กระจกตาถลอกตามมาด้วย ซึ่งอาจส่งผลต่อการมองเห็น
2.สิ่งแวดล้อมในขณะใช้สายตา เช่น
- แสงไฟไม่เพียงพอ
- ระยะห่างของหน้าจอไม่เหมาะสม
- ความสว่างหรือแสงสะท้อนจากหน้าจอมากเกินไป
- แอร์หรือพัดลม แรงและจ่อหน้า
ปัจจัยเหล่านี้ล้วนกระตุ้นให้เกิดอาการตาแห้งและตาล้าตามมา
3. ลักษณะทางกายภาพ เช่น ท่านั่งไม่เหมาะสม ก้มหน้าหรือเงยหน้ามากเกินไป ทำให้มีอาการปวดคอบ่าไหล่และหลังได้
อาการ
- แสบตา ระคายเคืองตา
- ตาแดง
- ตาสู้แสงไม่ได้
- ตาแห้ง
- ตาล้า
- ตาพร่า มองไม่ชัด
- มองเห็นภาพซ้อน
- ปวดกระบอกตา
- ปวดเมื่อย คอ หลัง
- ปวดศีรษะ ,เวียนศีรษะ
ภาวะแทรกซ้อนจาก CVS
หากปล่อยไว้เป็นระยะเวลานานโดยไม่ได้รับการแก้ไข โรคซีวีเอสอาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนทางตาอื่น ๆ และส่งผลต่อข้อต่อ กล้ามเนื้อของร่างกาย เช่น
- ภาวะตาแห้ง ตาล้าเรื้อรัง
- อาการปวดศีรษะ จากการใช้สายตาเพ่งหน้าจอ
- ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อบริเวณคอ บ่า ไหล่ หลัง ซึ่งมีสาเหตุจากท่านั่งทำงานหรือดูจอ ที่ไม่เหมาะสม
กลุ่มเสี่ยงของโรค CVS มีใครบ้าง
- กลุ่มคนที่ใช้โทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต คอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน
- กลุ่มคนตัดต่อกราฟฟิก ตัดต่อวิดีโอ
- นักเขียน
- กลุ่มพนักงานออฟฟิศ
- นักเรียน นักศึกษาที่ต้องอ่านหนังสือและใช้หน้าจอในการเรียน
- กลุ่มที่ทำธุรกิจผ่านมือถือ เช่น แม่ค้าออนไลน์ ประชุมออนไลน์
การป้องกันและรักษา CVS
CVS เป็นโรคที่สามารถป้องกันโดยการปรับพฤติกรรมได้ การเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย ที่สม่ำเสมอสามารถลดความเสี่ยงการเกิดโรคได้ง่ายๆด้วยวิธีดังนี้
- กฎ20-20-20 พักสายตาจากการใช้งานหน้าจอทุกๆ 20 นาที พัก 20 วินาที มองไกล 20 ฟุต หรือหลับตา
- ปรับระยะจากสายตาและหน้าจอให้เหมาะสม ไม่ใกล้หรือไกลเกินไป
- ปรับแสงหน้าจอให้มีความสว่าง คมชัดพอดี เลี่ยงการใช้หน้าจอในที่มืด
- การกระพริบตาสม่ำเสมอ ช่วยรักษาความชุ่มชื่นของดวงตา
- หยอดน้ำตาเทียม เพิ่มความชุ่มชื้นของดวงตา
- ปรับท่านั่งให้เหมาะสม เพื่อป้องกันการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อคอ บ่า ไหล่
- ตรวจสายตาและพบจักษุแพทย์เป็นประจำทุกๆ 6 เดือน
- ทุกๆ 2 ชม.ควรหยุดพัก15 นาที เพื่อลดการจ้องหน้าจอ
CVS อาจไม่ใช่โรคอันตรายที่เกิดผลทันที แต่หากปล่อยไว้โดยไม่แก้ไข ก็สามารถสร้างปัญหาระยะยาวต่อสุขภาพได้ การดูแลสายตาและปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตให้สอดคล้องกับคำแนะนำของจักษุแพทย์ ก็จะช่วยถนอมและยืดอายุการใช้งานของดวงตาให้อยู่กับเราได้นาน
ขอบคุณ : แพทย์หญิงภาวินี อมรพันธางค์ แพทย์ผู้ชำนาญการพิเศษ สาขาจักษุวิทยา โรงพยาบาลเวิลด์เมดิคอล (WMC)