“รองเท้ากีฬาของจีนขายดิบขายดีในสิงคโปร์” โดย รศ.วิภา อุตมฉันท์
“รองเท้ากีฬาของจีนขายดิบขายดีในสิงคโปร์”
โดย รศ.วิภา อุตมฉันท์
ครั้งก่อนเราเพิ่งพูดถึงแนวโน้มที่จีนจะหันหลังให้กับการผลิตสินค้าราคาถูกคุณภาพต่ำ ไปสู่การสร้างแบรนด์ดังคุณภาพสูงสู่ตลาดโลก วันนี้เผอิญอ่านเจอข่าวที่เขียนโดย Justin Ong Guang-Xi เขาเป็นทหารและเป็นนักวิ่งชาวสิงคโปร์ เขาเล่าถึงรองเท้าคู่ใจที่เขาใช้วิ่งทุกวันว่า แต่ก่อนเคยใช้แต่รองเท้าผลิตจากประเทศตะวันตก รองเท้าจีนไม่เคยอยู่ในสายตาของเขาเลย เพราะเชื่อเต็มร้อยว่าถึงยังไงคุณภาพของรองเท้าจีนก็ด้อยกว่าของฝรั่ง ไม่ว่าจะเป็น Nike, Adidas, Asics ฯลฯ อย่างเทียบกันไม่ได้
แต่ไม่กี่ปีมานี้เมื่อเกิดปรากฏการณ์ใหม่ที่สินค้าจีนด้อยคุณภาพราคาถูก พลิกผันตัวเองขึ้นมาเป็นสินค้าที่เน้นเทคโนโลยีแข่งกับสินค้าจากประเทศพัฒนาแล้วทั้งหลาย Justin ยอมรับว่าไปไหนมาไหนก็ได้ยินคนพูดถึง “super shoes” ของจีน ซึ่งใช้เทคโนโลยีนำสมัย มี carbon plate (ซึ่งเข้าใจว่าจะเป็นแผ่นคาร์บอนที่ฝังอยู่ในพื้นรองเท้าเพื่อช่วยเพิ่มแรงส่งขณะวิ่ง) ทำให้รองเท้าจีนคุณภาพใหม่มีความสามารถในการช่วยเร่งความเร็วให้กับผู้สวมใส่ได้อย่างไม่น่าเชื่อ
ขณะนี้ Justin Lim ในวัย 32 ปี มีรองเท้าผลิตในจีนอยู่ในครอบครองถึง 6 คู่ในชื่อ Xtep, Qiaodan และ Bmai เขากล่าวว่า เขารู้จักแบรนด์เหล่านี้ผ่านการแนะนำในสื่อจีนที่ชื่อ “โต่วอิน” (Douyin) สิ่งแรกที่สะดุดใจเขาคือราคา คู่แรกซื้อผ่านออนไลน์ในราคาเพียง 60 เหรียญสิงคโปร์ (ประมาณ 1,500 บาท) ซึ่งต่ำกว่ารองเท้าวิ่งของแบรนด์อื่นๆ ราวครึ่งหนึ่ง แต่สิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจจริงๆ คือ ความทนทานของรองเท้าซึ่งมีอายุใช้งานได้ถึงกว่า 800 กิโลเมตร จนเขาต้องไปหาซื้อคู่ใหม่มาอีกคู่หนึ่ง
หลังจากเกิดโรคระบาดโควิด คนสิงคโปร์หันมาวิ่งออกกำลังกายกันเป็นกระแสฮิตกันไปทั้งประเทศ เฉพาะนัดที่รัฐบาลเป็นผู้จัดก็มีถึงเกือบ 750 ครั้ง มีผู้เข้าร่วมวิ่งมากกว่า 7 ล้านคน เปิดโอกาสให้ตลาดรองเท้าของจีนเติบใหญ่ขึ้นทันตาเห็นตั้งแต่ครั้งนั้น
ปลายปี 2023 สโมสรนักวิ่งของสิงคโปร์ (SRC) ซึ่งมีสมาชิกมากกว่า 15,000 คน ได้รับการติดต่อจากตัวแทนรองเท้าจีนให้ทดลองใช้รองเท้าจีนในการวิ่ง โดยมีส่วนลดให้กับสมาชิก ไปจนถึงมอบรองเท้าให้ฟรีเพื่อทดลองใช้เป็นตัวอย่าง จากนั้นสมาชิกของสโมสร SRC ที่มีกว่า 15,000 คน ก็เริ่มยอมรับในเรื่องคุณภาพและหันมาใช้รองเท้าของจีนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
Mr.Beh ผู้ก่อตั้งสโมสร SRC กล่าวว่า “ทุกครั้งที่เราออกวิ่งกันเป็นกลุ่ม ผมสังเกตเห็นได้ชัดว่าสมาชิกส่วนใหญ่ของเราหันมาสวมใส่รองเท้าจีน ไม่ใช่รองเท้าจากตะวันตกอย่างที่เคยเห็นกันในอดีต”
อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกคนที่หันมานิยมรองเท้าจีน ยังมีบางคนที่ติดใจรองเท้ายี่ห้อเก่า เพราะเชื่อว่ามันมีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานกว่า ได้รับการทดสอบมามากกว่า แต่นั่นเป็นสมาชิกส่วนข้างน้อยที่ยังไม่ยอมรับคุณภาพและความทนทานของรองเท้าจีน ตัวอย่างเช่นนักวิ่งมาราธอน Giebert Foo ก็เป็นคนหนึ่งที่ยังเชื่อว่ารองเท้าจีนคุณภาพต่ำกว่าและทนทานน้อยกว่ารองเท้าฝรั่ง
ปัจจุบันรองเท้าจีนในสิงคโปร์จำหน่ายในราคาประมาณ $150 ถึง $200 สิงคโปร์ ขณะที่ Nike และ Adidas ขายกันที่ $300 ถึง $400 ความนิยมรองเท้าจากจีนจึงวิ่งนำหน้ารองเท้าจากประเทศตะวันตกขึ้นมาเรื่อยๆ ปัจจุบันกว่า 90% ของรองเท้ากีฬาเป็นรองเท้าจากจีน เพิ่มขึ้นมากว่าครึ่งหนึ่งของปี 2022 Mr Darren Southcott ผู้ชนะการแข่งขันวิ่งมาราธอนปีนี้กล่าวว่า 60% ของนักวิ่งในสโมสรของเขามีรองเท้าจีนอย่างน้อย 1 คู่ แต่เมื่อต้นทศวรรษที่ผ่านมาไม่มีใครใส่รองเท้าจีนเลย เขากล่าวว่าคุณภาพเป็นตัวบ่งบอกสรรพคุณสินค้าที่ดีที่สุด การเติบโตของมันเพิ่มขึ้นกว่า 50% เมื่อเทียบกับ 2 ปีที่ผ่านมา และนับวันจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
ไม่เฉพาะเรื่องรองเท้าซึ่งเป็นสินค้าที่ไม่ต้องใช้เทคโนโลยีมากมาย แม้แต่รถยนต์ไฟฟ้า BYD ของจีน ซึ่งเมื่อออกสู่ตลาดใหม่ๆ ก็ไม่มีใครเชื่อในเรื่องคุณภาพ ถูกตีค่าว่าเป็นสินค้าลอกเลียนแบบมาจากคนอื่น แต่ปัจจุบัน BYD ได้พิสูจน์ให้เห็นทั้งการออกแบบ และคุณภาพที่เทียบได้กับรถยนต์ไฟฟ้านานาชาติ ทำให้ BYD กลายเป็นสินค้าอีกอย่างหนึ่งที่ขายดีที่สุดในสิงคโปร์ขณะนี้ และเป็นตัวบ่งชี้ให้เห็นว่า +“กลยุทธ์การใช้คุณภาพนำหน้าราคา ของจีนเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว” +