รู้ไว้ดีกว่า 3 ผักที่ "อมสารเคมี" มากที่สุดในตลาด คนขายยังไม่กล้ากิน!
3 ผักที่ "อมสารเคมี" มากที่สุดในตลาด คนขายยังไม่กล้ากิน
ผักเป็นอาหารที่ขาดไม่ได้ในทุกมื้อของครอบครัว แต่ภายใต้สีเขียวสดใสและรูปลักษณ์ที่ดูน่ากินนั้น บางชนิดกลับแฝงไปด้วยสารตกค้างจากยาฆ่าแมลงในระดับที่น่ากังวล
ยกตัวอย่างเช่น ตามการรายงานของเว็บไซต์ SOHA ระบุว่า ที่ประเทศจีน มีการใช้ยาฆ่าแมลงถึง 1.8 ล้านตัน และปุ๋ยเคมีอีก 60 ล้านตันต่อปี โดยเฉพาะในเขตชนบท การใช้สารเคมีอย่างหนักนี้ส่งผลให้ผักบางชนิดมีสารตกค้างมากกว่าชนิดอื่นๆ อย่างเห็นได้ชัด
ขณะเดียวกัน ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า การรับประทานหรือสัมผัสกับผักที่มียาฆ่าแมลงตกค้างในระยะยาว อาจทำให้สารพิษสะสมในร่างกาย ส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกัน เสี่ยงเกิดพิษเฉียบพลัน และอันตรายต่อสุขภาพในระยะยาว
ผัก 3 ประเภทที่มักมีสารตกค้างจากยาฆ่าแมลงมากที่สุด
1. ผักใบเขียว
ผักใบเขียวมักมีปริมาณสารตกค้างสูง เพราะใบมีความนิ่ม อุ้มน้ำได้ดี และเป็นที่ชื่นชอบของแมลงศัตรูพืช ทำให้เกษตรกรต้องใช้ยาฆ่าแมลงในปริมาณมาก
ผักที่ใช้ยาน้อย ได้แก่ แครอท, มันฝรั่ง, กะหล่ำปลี, ผักกาดขาว, ผักสลัด, ผักชี
ผักที่ใช้ยามาก เช่น ถั่วฝักยาว, หอมใหญ่, กุยช่าย, แตงกวา, มะเขือเทศ, คะน้า, มะเขือยาว
ผักกลิ่นฉุนตามธรรมชาติ สามารถไล่แมลงได้เอง เช่น ตังโอ๋, ผักชี, ใบแมงลัก
2. ลำต้นและก้านของผัก จุดสะสมสารตกค้างสูงที่สุด
บริเวณโคนและก้านของผักเป็นจุดที่มักพบสารเคมีสะสมมากที่สุด เนื่องจากเมื่อต้นไม้ได้รับการฉีดพ่น ยาจะไหลลงตามใบและลำต้นสะสมอยู่บริเวณโคน โดยเฉพาะพืชอย่าง ผักกาดขาว ยาฆ่าแมลงจะไหลลงและค้างอยู่บริเวณกาบใบด้านล่างซึ่งอยู่ใกล้พื้นดิน หรือแม้แต่พริกหยวกที่ขึ้นบนต้น แต่ด้วยลักษณะต้นเตี้ย การฉีดยาก็มักทำจากด้านบนลงมา ทำให้บริเวณก้านพริกมีการสะสมสารเคมีมากเช่นกัน
ข้อแนะนำคือ ควรตัดส่วนโคนหรือกาบที่ใกล้ดินทิ้งก่อนรับประทาน ส่วนพริกหยวกควรเด็ดก้านทิ้งก่อนกิน
3. ผักที่มีรอยแมลงเจาะ อาจมีสารเคมีมากกว่าที่คิด
แม้จะดูเหมือนปลอดภัย แต่ผักที่มีรูแมลงกัด อาจไม่ได้หมายความว่า “ปลอดสาร” เสมอไป แต่แสดงว่าหนอนตัวเต็มวัยถูกสารเคมีกำจัดแล้ว และยังแสดงว่าตัวอ่อนหรือไข่ถูกทำลายแล้ว อีกทั้ง ความต้านทานของตัวหนอนตัวเต็มวัยจะมากกว่าตัวหนอนตัวเล็ก ดังนั้นปริมาณยาฆ่าแมลงที่ใช้จึงมากขึ้น
วิธีลดสารตกค้างจากยาฆ่าแมลงในผัก
ผักใบเขียว ตากแดดอ่อนก่อนล้าง ใช้น้ำล้างผักหรือน้ำเกลือ ตัดส่วนโคน ทลวกในน้ำเดือดแล้วล้างซ้ำ
ผักเปลือกบาง เช่น แตงกวา มะเขือม่วง หัวผักกาด ควรปอกเปลือกก่อนรับประทาน
พริกหวาน มะเขือเทศ ล้างให้สะอาดและเด็ดก้านทิ้ง
เห็ด ล้างให้สะอาด ลวกในน้ำเดือดประมาณ 10 นาที แล้วล้างน้ำอีกครั้ง
แม้ผักจะเป็นอาหารที่มีประโยชน์ แต่การเลือกซื้อและปรุงอย่างถูกวิธีคือสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพื่อหลีกเลี่ยงสารเคมีตกค้างที่อาจสะสมในร่างกายได้ในระยะยาว ดังนั้น ควรใส่ใจในการล้าง ทำความสะอาด และเลือกบริโภคผักตามฤดูกาลหรือจากแหล่งที่เชื่อถือได้ เพื่อสุขภาพที่ปลอดภัยในทุกมื้ออาหาร.