กกร. จัดคิวด่วนคุย 4 หน่วยงานรัฐ ถกรับมือพายุเศรษฐกิจ-อุตสาหกรรม
วันนี้ (2 กรกฎาคม 2564) นายผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) โดยมีนายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท) และดร.พจน์ อร่ามวัฒนานนท์ รองประธานกรรมการหอการค้าไทย
นายผยง กล่าวภายหลังการประชุมว่า กกร. มีแนวทางที่จะขอเข้าพบหน่วยงานเศรษฐกิจ 4 แห่ง ประกอบด้วย ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) กระทรวงการคลัง และกระทรวงพาณิชย์ ในเร็ว ๆ นี้ เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลในการสร้างความเข้าใจร่วมกันถึงแนวทางในการมองเศรษฐกิจในแต่ละภาคส่วน
โดยมีเรื่องสำคัญ คือ การปรับโครงสร้างอุตสาหกรรม ที่ต้องอาศัยความร่วมมือจากทั้งภาคการเงินและภาคอุตสาหกรรมในการร่วมมือกับภาครัฐ เพื่อชี้เป้าอุตสาหกรรมและจัดลำดับความสำคัญเนื่องจากทรัพยากรที่มีจำกัด ในการส่งเสริมการปรับความสามารถในการผลิตของไทย (competitiveness)
รวมถึงต้องมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลการค้าการลงทุนจากต่างชาติที่ ธปท. ร่วมกับ สภาพัฒน์ กระทรวงพาณิชย์ และ กกร. ร่วมกันศึกษาด้วย
"กกร. ในฐานะตัวแทนภาคเอกชน เตรียมแผนที่จะเสนอหน่วยงานภาครัฐต่างๆ เพื่อให้มีการจัดลำดับและให้ความสำคัญภาคส่วนที่น่าเป็นห่วง ในช่วง 6 เดือน ถึง 1 ปีข้างหน้า และเข้าใจปัญหารวมทั้งกำหนดการขับเคลื่อนประเทศไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อเรียกความเชื่อมั่น"
ขณะเดียวกันการส่งออกที่มีการโตเดือนล่าสุด 18% แต่ภาคการผลิตในประเทศไม่ขยายตัว ดูรายละเอียดแล้วพบว่าเป็นการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ และส่งออกไปสหรัฐ สัญญาการส่งออกครึ่งปีหลังแย่อาจจะลดลง 10% คาดทั้งปีโต 0%
แม้การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และประเทศต่าง ๆ จะมีความคืบหน้า โดยเฉพาะกับจีนและสหราชอาณาจักร แต่ยังไม่น่าที่จะได้ข้อสรุปที่เป็นรูปธรรม ก่อนวันที่ 9 กรกฎาคม 2568 ซึ่งอาจจะนำไปสู่การเรียกเก็บภาษีในอัตราสูงขึ้นหากไม่ขยายเวลา
ทั้งนี้ การส่งออกไทยในครึ่งหลังของปีจะหดตัว มูลค่าการส่งออกของไทยช่วง 5 เดือนแรกขยายตัว 14.9% จากการเร่งนำเข้าก่อนหมดช่วงผ่อนปรนของมาตรการภาษีของสหรัฐฯ แต่ระยะข้างหน้ามีสัญญาณแผ่วลงและมีความเป็นไปได้ที่มูลค่าการส่งออกในช่วงครึ่งหลังของปีจะหดตัวกว่า 10% ทำให้การส่งออกทั้งปีขยายตัวใกล้เคียง 0% ซึ่งจะกระทบต่อภาคการผลิต การจ้างงาน และรายได้ของแรงงานในห่วงโซ่อุปทานที่เกี่ยวข้อง