‘ศบ.ทก.’ยันไทยข้อมูลแน่น พร้อมเจรจาวง ‘จีบีซี’ 4 ส.ค.นี้
เมื่อเวลา 12.15 น. วันที่ 30 ก.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ร.ต.สุรสันต์ คงสิริ โฆษกศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) แถลงความคืบหน้าสถานการณ์ไทย-กัมพูชาล่าสุดในวันเดียวกันนี้ ว่า ขอเน้นย้ำไทยยังคงยึดมั่นในเรื่องความอดทน อดกลั้น เชื่อมั่นในการดำเนินการด้านสันติภาพและดำรงการปฏิบัติตามหลักมนุษยธรรม แต่ทหารไทยถูกละเมิดอธิปไตยจึงมีความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการอย่างเด็ดขาด และเหมาะสม เพื่อปกป้องอธิปไตยและความปลอดภัยของประชาชน ซึ่งถือเป็นจุดยืนที่เราได้แสดงมาตั้งแต่ต้น ทั้งนี้ขอชื่นชมไปยังผู้กล้าและขอสดุดีวีรชนทั้งหลายที่อยู่ในแนวหน้าตั้งแต่วันแรกของการปะทะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งนอกเหนือจากทหารแล้ว ยังมีทหารพราน ตำรวจตระเวนชายแดนและเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงที่มีส่วนร่วมเป็นผู้ที่ทำให้การปฏิบัติงานของเราประสบความสำเร็จ นอกเหนือจากนั้นยังมีผู้ที่อยู่เบื้องหลังไม่ว่าจะเป็น หมอ พยาบาล เจ้าหน้าที่สาธารณสุข อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) และจิตอาสาต่างๆ ที่ช่วยดูแลกองทัพและประชาชนด้วยความไม่เหน็ดเหนื่อย ขอขอบคุณและขอสดุดีผู้กล้าทั้งหลายในส่วนตรงนี้ นอกเหนือจากภาครัฐแล้วเรายังมีภาคเอกชนที่ส่งกำลังใจและส่งสิ่งของอุปกรณ์ต่างๆ มาให้ทางทหาร และหน่วยงานเจ้าหน้าที่ความมั่นคงแนวหน้าอย่างต่อเนื่อง ขอขอบคุณบุญคุณของท่าน เราคงไม่ลืมและไม่สามารถที่จะพรรณนาได้ในเรื่องของน้ำใจของประชาชนและความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของคนไทย
พล.ร.ต.สุรสันต์ กล่าวต่อว่า ในวันที่ 4 ส.ค.นี้ มีกำหนดประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ซึ่งขณะนี้ฝ่ายไทยมีความพร้อมที่จะเข้าร่วมประชุม ตอนนี้เรากำลังรอฝ่ายกัมพูชาส่งหนังสือเชิญเข้าประชุมตามที่ได้ตกลงกันไว้ ซึ่งฝ่ายไทยพร้อมในเรื่องของรายละเอียดและเนื้อหาที่จะเข้าไปร่วมเจรจา ทั้งนี้ในส่วนที่มีการพูดคุยกันเมื่อวันที่ 29 ก.ค.ที่ผ่านมา ในระดับของแม่ทัพภาคได้ข้อตกลงในภาพรวมเรื่องแนวทางการหารือและแนวทางในการปฏิบัติร่วมกันระหว่างหน่วยทหารในพื้นที่ทั้ง 2 ฝ่าย หวังว่าภาพนี้ยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เพื่อนำไปสู่สันติภาพในภูมิภาคและระหว่างทั้งสองประเทศ
พล.ร.ต.สุรสันต์ กล่าวอีกว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา กระทรวงมหาดไทยได้รายงานตัวเลขผู้อพยพตามศูนย์พักพิงต่างๆ จำนวน 190,104 คน ในศูนย์พักพิง 780 แห่ง ซึ่งตอนนี้สถานการณ์ยังมีความเปราะบาง จึงขอให้ประชาชนรับฟังข่าวสารอย่างใกล้ชิด ประชาชนที่อยู่ศูนย์อพยพสามารถเดินทางกลับบ้านได้ต่อเมื่อทางภาครัฐยืนยันว่ามีความปลอดภัยแล้ว ฉะนั้นในช่วงนี้ขอเน้นย้ำ ขอให้ประชาชนอยู่ในสถานที่ที่จัดสรรไว้ให้ก่อน เพราะต้องดูสถานการณ์กันต่อไป
พล.ร.ต.สุรสันต์ กล่าวด้วยว่า ในที่ประชุม ศบ.ทก.ยังมีการพูดถึงการห้ามบินโดรนในพื้นที่ที่อาจจะกระทบความมั่นคงของประเทศไทยเมื่อวันที่ 29 ก.ค.ที่ผ่านมา สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) หรือ CAAT ได้ออกประกาศว่าห้ามมิให้ผู้ใดทำการบินหรือปล่อยอากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน หรือ โดรนในพื้นที่อาจจะกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ หรือในช่วงสถานการณ์ตึงเครียดบริเวณตั้งแต่ จ.ตราด จันทบุรี สระแก้ว บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี ปราจีนบุรี นครราชสีมา นครสวรรค์ เพชรบูรณ์ ชัยนาท พิจิตร และลพบุรี นอกจากนี้ยังห้ามบินโดรนทุกประเภทในรัศมี 9 กิโลเมตร หรือ 5 ไมล์ทะเล จากสนามบินหรือที่ขึ้นลงชั่วคราวทุกแห่งโดยเด็ดขาด ผู้ใดที่ฝ่าฝืนมีระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ.