แถลงการณ์ รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจงปมงดรับผู้ป่วยกัมพูชารายใหม่
จากกรณีที่ก่อนหน้านี้ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ อุบลราชธานี มีบันทึกข้อความ ลงวันที่ 30 ก.ค.2568 ถึง หัวหน้ากลุ่มงาน/หัวหน้างาน/หัวหน้าศูนย์/หัวหน้าหอผู้ป่วย เรื่อง ขอยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชาและการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา จนมีกระแสวิพากวิจารณ์ต่อประเด็นดังกล่าวนั้น
ล่าสุด นพ.มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผอ.รพ.สรรพสิทธิประสงค์ ได้แถลงชี้แจงรายละเอียดของเรื่องนี้ว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในโซเชียลช่วงคืนที่ผ่านมาจนถึงช่วงเช้าของวันนี้ มีความห่วงใยจะกระทบต่อความเชื่อมั่นของโรงพยาบาล สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นเป็นหนังสือที่สื่อสารกันภายในเพื่อปรับระบบบริการโดยอยู่บนสถานการณ์สำคัญคือสถานการณ์ที่ทาง รพ.สรรพสิทธิประสงค์ เป็นรพ.ในพื้นที่ ทั้งระบบส่งต่อหรือการส่งมาโดยตรง จึงเป็นที่มาของการปรับภารกิจในช่วงเวลานี้มาเน้นระดมทรัพยากรเพื่อดูแลผู้ป่วยที่ได้รับบาดเจ็บจากชายแดน
เบื้องต้นจึงได้มีการสื่อสารกันภายในโดยจะลดงานบริการที่ไม่จำเป็นลงประมาณ 30% เพื่อระดมทรัพยากรทุกอย่าง หนึ่งในนั้นเป็นพื้นที่เคยให้บริการที่เรียกว่า OPD Premium เมื่อมีสถานการณ์แบบนี้ตั้งแต่เมื่อวันที่ 24 ก.ค.ทาง รพ.ซึ่งเห็นตัวเลขของผู้รับบริการในกลุ่มนี้ลดลงมากอยู่ที่ 1-2% เท่านั้น จึงมีการปรับระบบตามหนังสือที่ปรากฎตามข่าว ทั้งนี้ พบว่ามีการสื่อสารออกไปนอกวงของรพ. อาจทำให้มีการสื่อสารคลาดเคลื่อนในประเด็นดังกล่าว
ทั้งนี้ ทางรพ.ขอเน้นย้ำเรื่องของหลักคิดและหลักปฏิบัติของชาว รพ.สรรพประสิทธิประสงค์ ในเรื่องของมนุษยธรรม และเพื่อความปลอดภัยโดยยืนยันในหลักมนุษยธรรมที่ยังรับผู้ป่วยถ้าหากมีความจำเป็นอย่างยิ่ง กรณีที่เป็นชาวกัมพูชาซึ่งอยู่ในพื้นที่ หรือมาจากพื้นที่อื่น ๆ แล้วจำเป็นต้องเข้าถึงระบบบริการทางการแพทย์และระบบสาธารณสุขโดยเฉพาะอย่างยิ่งภาวะฉุกเฉิน รพ.ก็มีช่องทางในการดูแลและรับผู้ป่วยกลุ่มนี้อยู่ นี่คือ กลุ่มที่เข้ามาใหม่
อีกกลุ่มหนึ่งคือ ชาวกัมพูชาที่นอนรักษาตัวอยู่ในขณะนี้ ด้วยหลักมนุษยธรรมยังดูแลเช่นเดิมโดยต้องคำถึงถึงความปลอดภัยของคนกลุ่มนี้ด้วย ดังนั้น จึงมีมาตรการจำกัดพื้นที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของญาติและล่าม ที่จะย้อนไปถึงเรื่องของความปลอดภัย
รพ.สรรพสิทธิประสงค์ ขอยืนยันว่า ยังยึดหลักมนุษยธรรม ไม่ว่าเชื้อชาติไหน ชนชาติไหน ไม่ว่าจะอายุเท่าไร ทางรพ.ยังเป็นที่พึ่งสุดท้ายปลายทางสุขภาพ
ส่วนเรื่องของความปลอดภัยซึ่งมีสองด้าน คือ ด้านสถานที่ อีกด้านคือ บุคลากร ในส่วนของสถานที่นั้น ยึดหลักเป็นที่พึ่งของเขตบริการสุขภาพและภูมิภาคแห่งนี้เพื่อเป็นหลักในการดูแลรักษาพยาบาลแต่สถานที่ใกล้เคียงก็มีความสำคัญ เพราะจากปรากฎการณ์ที่มีโดรนเหนือพื้นที่ใกล้เคียงอยู่จึงต้องระวังความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นเรื่องของความปลอดภัยที่ต้องดูแล
ส่วนด้านบุคลากร ต้องประเมินความเสี่ยงเรื่องความปลอดภัยที่จะส่งผลกระทบ ยืนยันว่า จะทำให้ดีที่สุดในเรื่องของการรักษาพยาบาล ยืนยันว่า รพ.สรรพสิทธิประสงค์ ยังยืนหยัดดูแลรักษาประชาชน ไม่ว่าจะเป็นพลเรือน ทหาร ไม่ว่าจะมีเชื้อชาติใดก็ตาม ยังยึดหลักมนุษยธรรมและประเมินความปลอดภัยด้วย
สำหรับสาระสำคัญในแถลงการณ์เพื่อชี้แจงประเด็นต่าง ๆ มีรายละเอียด ดังนี้ จากประเด็นการเผยแพร่ภาพและข้อความที่เกี่ยวข้องกับหนังสือแจ้งเวียนภายในโรงพยาบาล เรื่อง "การยกเลิก การปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชาและการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา" และมีการแชร์ตามสื่อโซเชียลต่าง ๆ ทําให้เกิดการสื่อสารคลาดเคลื่อน ทางโรงพยาบาลจึงขอชี้แจงข้อเท็จจริง ดังนี้
1. โรงพยาบาลให้การดูแลผู้ป่วยกัมพูชา เป็นไปตามหลักมนุษยธรรม
- ผู้ป่วยรายเดิมที่ยังนอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาล ให้บริการโดยปกติให้เหมาะสมกับสถานการณ์เพื่อความปลอดภัย
- งดรับยาแทน เนื่องจากมีข้อจํากัดการจัดส่งยาข้ามแดน ทําให้มียาตกค้างจํานวนมาก
- ผู้ป่วยกัมพูชารายใหม่ พร้อมให้บริการตามหลักมนุษยธรรม โดยเฉพาะกรณีฉุกเฉิน
2. โรงพยาบาลคํานึงถึงความปลอดภัยของผู้ป่วยทั้งชาวไทย ชาวต่างชาติ ญาติ และบุคลากรโรงพยาบาล
3. โรงพยาบาลคํานึงถึงความปลอดภัยของสถานที่และบริเวณใกล้เคียง ภายใต้สถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดน
4. การให้บริการของโรงพยาบาลในสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดน ทําให้ต้องปรับการให้บริการที่ไม่เร่งด่วน บางประการลง เช่น การเลื่อนผ่าตัดกรณีที่ไม่ฉุกเฉิน งดบริการคลินิกพิเศษเฉพาะทางนอกเวลาราชการ (SMC Premium) ซึ่งเป็นการบริหารทรัพยากรภายในเพื่อปรับภารกิจและรูปแบบการให้บริการ
5. การปฏิบัติงานของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา (ล่าม)
- งดปฏิบัติงานชั่วคราว เนื่องจากมีผู้ป่วยชาวกัมพูชาจํานวนน้อยมาก ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัย