เศรษฐกิจซบหนัก! รัฐไม่กระตุ้นช่วงวิกฤต SME เสี่ยงล้มละลาย
นายสรเทพ โรจน์พจนารัช เจ้าของร้านอาหารในเครือสตีฟ คาเฟ่ และประธานชมรมผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหาร เปิดเผยข้อมูลกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า การจัดสรรงบประมาณที่เดิมจะเน้นไปที่งบสำหรับน้ำ ซึ่งรัฐบาลได้ตั้งใจจะกระจายงบประมาณไปยังท้องถิ่นเพื่อให้ชาวบ้านมีรายได้จากโครงการต่างๆ แต่ล่าสุดรัฐบาลได้ปรับลดงบประมาณสำหรับการบริหารจัดการน้ำเหลือเพียง 30,000 ล้านบาทเท่านั้น จากที่เคยวางแผนไว้ที่ตัวเลขที่สูงกว่า
ในส่วนของงบประมาณสำหรับถนนก็เช่นกัน ที่จะจัดสรรไว้ 40,000 ล้านบาท แต่ปัญหาคือรายละเอียดของการใช้จ่ายยังไม่มีความชัดเจน โดยไม่มีการชี้แจงว่าคงจะใช้เงินเหล่านี้ไปกับโครงการใด และจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับท้องถิ่นได้อย่างไร
“การจัดสรรงบประมาณแบบนี้อาจไม่ได้ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ทันที เพราะส่วนใหญ่เป็นโครงการระยะยาวที่ต้องใช้เวลานานในการดำเนินการ แต่ในระยะยาวอาจช่วยในเรื่องของการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน” แต่การกระตุ้นภาวะเศรษฐกิจในระยะสั้นกลับไม่ได้รับการสนับสนุนในครั้งนี้
แม้ภาครัฐจะมีแผนงานที่ดีในระยะยาว แต่ในเวลานี้สิ่งที่รัฐบาลควรทำคือกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้น เพราะสถานการณ์เศรษฐกิจภายในประเทศตกต่ำ และการบริโภคภายในประเทศหายไปเกือบ 50% ซึ่งหากไม่มีการกระตุ้นในระยะสั้น ผู้ประกอบการรายเล็กจะไม่สามารถรอดจากวิกฤตเศรษฐกิจนี้ได้
รัฐบาลควรแบ่งงบประมาณประมาณ 5,000 ล้านบาท มาจัดทำโครงการเพื่อกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ ซึ่งอาจจะทำได้โดยการขยายโครงการ “คนละครึ่ง” ให้มีการใช้จ่ายเพิ่มขึ้น และสามารถขยายวงเงินเพื่อให้ครอบคลุมกลุ่มผู้บริโภคที่มีรายได้น้อย นอกจากนี้ยังสามารถกระตุ้นการจับจ่ายได้เร็วและเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจระดับรากหญ้าได้โดยตรง
ในส่วนของการท่องเที่ยว รัฐบาลควรเร่งดำเนินโครงการท่องเที่ยวที่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างรวดเร็ว เช่น โครงการ "เราเที่ยวด้วยกัน" ที่เคยได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศ และอยากเสนอให้ปรับโครงการนี้ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยไม่ต้องรอการแก้ไขหรือปฏิรูปอย่างเชื่องช้า
ในส่วนของการบริหารจัดการน้ำ เห็นด้วยว่าเป็นเรื่องสำคัญที่รัฐบาลต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วน เนื่องจากปัญหาน้ำท่วมและการขาดแคลนน้ำในหลายพื้นที่ เช่น ภาคเหนือและภาคกลางที่ประสบปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากในช่วงฤดูฝน ซึ่งการบริหารจัดการน้ำในระดับท้องถิ่นนั้นควรได้รับการสนับสนุนจากงบประมาณที่มีการจัดสรรให้
ในช่วงเวลานี้ การกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศในระยะสั้นถือเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด โดยเฉพาะในภาคธุรกิจขนาดเล็กหรือSME ที่ยังคงเผชิญกับวิกฤตเศรษฐกิจ และการที่รัฐบาลไม่จัดสรรงบประมาณเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้น อาจทำให้ปัญหาความยากจนและการขาดแคลนเงินหมุนเวียนในท้องถิ่นยืดเยื้อไปถึงอนาคต