โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

ไมโครซอฟท์ - เมตา รายได้ Q2 โตเกินคาด นักลงทุนจับตาผลตอบแทน AI ระยะยาว

กรุงเทพธุรกิจ

อัพเดต 20 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 15 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ท่ามกลางความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก สองบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีอย่าง เมตา (Meta) และ ไมโครซอฟท์ (Microsoft) ได้รายงานผลประกอบการไตรมาส 2 ประจำปี 2025 ที่ออกมาดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ส่งผลให้ราคาหุ้นของทั้งสองบริษัทพุ่งขึ้นแรงในวันถัดไป

เมตารายงานรายได้ไตรมาส 2 ที่ 47.5 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นถึง 22% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้มากที่สุดในรอบกว่า 4 ปี ส่งผลให้ราคาหุ้นพุ่งขึ้นกว่า 12% ในขณะเดียวกัน ไมโครซอฟท์ประกาศว่า รายได้จากธุรกิจคลาวด์อาชัวร์ (Azure) แตะ 75 พันล้านดอลลาร์ต่อปี พร้อมทั้งได้รับแรงหนุนจากยอดขายพีซีที่เพิ่มขึ้น จนทำให้มูลค่าตลาดของบริษัททะลุ 4 ล้านล้านดอลลาร์

สิ่งที่ทั้งสองบริษัทมีเหมือนกันคือการใช้เงินลงทุนกับ “เอไอ” อย่างหนัก ซึ่งนำไปสู่คำถามสำคัญว่า เม็ดเงินมหาศาลที่ทุ่มไปนี้ เริ่มให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่าแล้วหรือยัง?

หากดูตัวเลขการลงทุน เมตาและไมโครซอฟท์ใช้งบลงทุน (CapEx) ในปี 2025 นี้เกิน 30% ของรายได้ ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่อยู่ประมาณ 15-20% และไม่เพียงแค่สองบริษัทนี้เท่านั้น ยังมี อัลฟาเบท (Alphabet) เจ้าของ กูเกิล (Google) ที่ประกาศเพิ่มงบลงทุนเป็น 85 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นจำนวนที่มากกว่ารายได้ทั้งปีของ 92% ของบริษัทในดัชนี S&P 500 เลยทีเดียว

เมตา จากโฆษณาสู่เอไอ

หากพิจารณาให้ลึกลงไปที่โมเดลธุรกิจของเมตา บริษัทมีรายได้หลักจากโฆษณาผ่านโซเชียลมีเดียต่างๆ เช่น Facebook, Instagram และ Reels แม้ว่าเอไอจะสามารถนำมาใช้ปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้ หรือเพิ่มประสิทธิภาพของโฆษณาได้ แต่ยังไม่มีภาพที่ชัดเจนว่าเอไอจะสามารถเปิดช่องทางรายได้ใหม่ที่แตกต่าง และเติบโตได้อย่างกว้างขวางอย่างไร

ด้วยเหตุนี้จึงเกิดคำถามว่า การใช้เงินจำนวนมหาศาลไปกับเอไอจะกลายเป็นรายได้ที่จับต้องได้ในระยะกลางหรือไม่?

โดยก่อนหน้าการประกาศผลประกอบการครั้งนี้ ราคาหุ้นของเมตาได้ร่วงลงราว 6% ในช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมา หลังจากมีรายงานว่า มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ประธานบริหารเมตา จ่ายค่าตอบแทนระดับหลายร้อยล้านให้กับนักวิจัยเอไอ พร้อมทั้งประกาศเป้าหมายที่จะสร้าง “Superintelligence” หรือเอไออัจฉริยะเหนือมนุษย์ ซึ่งสร้างความกังวลว่าอาจใช้เงินเกินขีดความสามารถ

“เรารู้ดีว่านี่เป็นการลงทุนมหาศาล และเป้าหมายของเราคือเปลี่ยนเงินก้อนนี้ให้กลายเป็นพลังประมวลผลระดับหลายกิกะวัตต์ เพื่อรองรับงานวิจัยและสร้างผลิตภัณฑ์เอไอที่ล้ำหน้าและใช้งานได้จริง” ซักเคอร์เบิร์ก กล่าว

ไมโครซอฟท์อาจได้เปรียบด้วยโมเดลธุรกิจที่เหมาะสม

ในทางกลับกัน ไมโครซอฟท์มีโมเดลธุรกิจที่เน้นการ “ขายซอฟต์แวร์” และบริการให้กับลูกค้าองค์กร เช่น Microsoft 365, Windows, Azure Cloud, Dynamics และอื่นๆ ซึ่งทำให้สามารถนำเอไอเข้าไปอัปเกรดผลิตภัณฑ์เดิม หรือสร้างฟีเจอร์ใหม่ที่ลูกค้ายินดีจ่ายเงินเพิ่มได้ทันที

ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ การขาย Copilot ที่ฝังอยู่ใน Word, Excel หรือการเพิ่มบริการวิเคราะห์ข้อมูลผ่านอาชัวร์ ทำให้การลงทุนด้านเอไอของไมโครซอฟท์สามารถเชื่อมโยงกับรายได้ง่ายกว่าเมตา

เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นนี้ ไมโครซอฟท์จึงประกาศว่าจะใช้งบลงทุนในไตรมาสหน้า (Q3 ปีงบประมาณ) สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ คือ 30,000 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 1.1 ล้านล้านบาท

อย่างไรก็ดี ไมโครซอฟท์ได้วางแผนอย่างระมัดระวังโดยมองภาพรวมทั้งปีงบประมาณ (ซึ่งจะสิ้นสุดในเดือนมิถุนายนปี 2026 ว่า การเพิ่มขึ้นของงบลงทุนจะไม่โตเร็วเท่าปีที่ผ่านมา ซึ่งหมายความว่าในปี 2025 นี้ บริษัทอาจใช้งบลงทุนเพิ่มขึ้นอย่างมาก แต่ในปีหน้าจะเริ่มใช้จ่ายแบบระมัดระวังมากขึ้น โดยเลือกลงทุนเฉพาะในจุดที่สำคัญจริงๆ เพื่อควบคุมต้นทุนและลดความเสี่ยงทางการเงิน

อินวิเดีย ผู้ชนะตัวจริงในสงครามเอไอ?

ในสนามแข่งขันของเอไอ บริษัทเทคโนโลยีแทบทุกแห่งกำลังทุ่มเงินอย่างหนัก แต่บริษัทที่ได้ประโยชน์สูงสุดจากกระแสนี้ ยังไม่ใช่เมตาหรือไมโครซอฟท์ แต่คือ อินวิเดีย (Nvidia)

เหตุผลก็เพราะ อินวิเดียคือผู้ผลิตชิปประมวลผล (GPU) ที่เป็นหัวใจสำคัญในการฝึกสอนโมเดลเอไอ ไม่ว่าจะเป็น ChatGPT, Claude, Gemini หรือแม้แต่โมเดลเอไอของบริษัทอื่นๆ ล้วนต้องใช้ชิปของอินวิเดียแทบทั้งสิ้น

นับตั้งแต่ ChatGPT เปิดตัวในปี 2022 ความต้องการชิปเอไอก็เพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด และสิ่งนี้ทำให้รายได้ของอินวิเดียพุ่งขึ้นกว่า 10 เท่าในเวลาเพียงไม่ถึง 3 ปี โดยล่าสุด มูลค่าบริษัทก็พุ่งทะลุ 4 ล้านล้านดอลลาร์ เทียบเท่ากับไมโครซอฟท์และแอปปเปิ้ล (Apple) ที่เป็นบริษัทมูลค่าสูงที่สุดในโลก

พูดง่ายๆ คือ ขณะที่บริษัทอื่นยัง “ทุ่มเงินกับเอไอ” อินวิเดียกลับ “เก็บเงินจากเอไอ” ไปแล้วเรียบร้อย

ความคาดหวังของนักลงทุน

ย้อนกลับมาดูฝั่งของเมตา แม้จะยังไม่ปรับเพิ่มเพดานค่าใช้จ่ายในปี 2025 อย่างเป็นทางการ แต่ ซูซาน ลี ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของบริษัทเมตา ก็เตือนชัดว่า ในปีหน้า บริษัทจะเผชิญกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะในเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ศูนย์ข้อมูลและเซิร์ฟเวอร์สำหรับเอไอ

รวมถึงค่าตอบแทนของบุคลากรเอไอที่กำลังแย่งตัวกันอย่างดุเดือดในอุตสาหกรรม ซึ่งทั้งหมดนี้ อาจทำให้ค่าใช้จ่ายรวมของเมตาในปี 2026 พุ่งแตะ 150,000 ล้านดอลลาร์ หรือเกือบ 3 เท่า ของที่ใช้ในปี 2021

แม้ซักเคอร์เบิร์กจะถือหุ้นแบบมีสิทธิโหวตขาด สามารถกำหนดทิศทางบริษัทได้โดยไม่มีใครโหวตคว่ำ แต่การที่เขา “ทุ่มเดิมพัน” กับเอไอระดับนี้ หมายความว่า เขาต้องมั่นใจว่าการลงทุนครั้งนี้จะเปลี่ยนเป็นผลลัพธ์ที่จับต้องได้

เพราะหากเอไอของเมตาไม่สามารถเปลี่ยนเป็นรายได้ที่ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ การเพิ่มอัตราการใช้งาน หรือการขายโฆษณาที่มีประสิทธิภาพขึ้น เสียงวิจารณ์เรื่องการใช้เงินเกินตัวก็อาจทวีความรุนแรงขึ้นในสายตานักลงทุน

ท้ายที่สุดแล้ว ราคาหุ้นของเมตาและไมโครซอฟท์ตอนนี้สูงกว่าช่วงก่อนที่กระแสเอไอจะบูมมากๆ อย่างเห็นได้ชัด ซึ่งแปลว่านักลงทุนได้ตั้งความหวังไว้สูงมากว่าการลงทุนในเอไอของทั้งสองบริษัท จะต้องสร้างรายได้และผลตอบแทนที่จับต้องได้จริงในเร็วนี้

ถ้าหากเอไอไม่สามารถช่วยให้บริษัทสร้างรายได้เพิ่มขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมตามที่นักลงทุนคาดหวัง ราคาหุ้นอาจปรับตัวลดลง เพราะนักลงทุนจะสูญเสียความเชื่อมั่นว่าการลงทุนในเอไอจะคุ้มค่าและทำกำไรในระยะยาว

อ้างอิง: WSJ และ CNBC

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก กรุงเทพธุรกิจ

ทรัมป์ 'ไล่ออก' หัวหน้ากระทรวงแรงงาน หลังตัวเลขจ้างงานสหรัฐต่ำคาด

30 นาทีที่แล้ว

มทภ.2 ขอบคุณ ทหารแนวหน้า ลั่น เราทำถูกแล้ว ขออย่าประมาท อะไรเกิดได้ตลอดเวลา

34 นาทีที่แล้ว

‘ธัญพร เนื้อตุ๋น’ ขายมา 33 ปี ใน ‘ซอยวัชรพล’ หมูตุ๋น ก็อร่อยนะ

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ไม่ต้องเดินหมื่นก้าว วิจัยใหม่ชี้ แค่ 7,000 ก้าวก็ลดโรค-อายุยืน

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความไอที ธุรกิจอื่น ๆ

เทียบชัดๆ สถิติการโจมตีทางไซเบอร์ แฮกเกอร์“ไทย VS กัมพูชา”

ฐานเศรษฐกิจ

Tim Cook นั่งเก้าอี้ซีอีโอ Apple แซง Steve Jobs อย่างเป็นทางการ

ฐานเศรษฐกิจ

พาณิชย์ เผย ฟิลิปปินส์ไฟเขียวนำเข้าน้ำตาล 4.24 แสนตัน เพิ่มโอกาสไทยส่งออก

กรุงเทพธุรกิจ

เปิดไทม์ไลน์ ‘ทีมไทยแลนด์’ เจรจาภาษีทรัมป์ 7 เดือนเต็ม ก่อนปิดดีล 19%

กรุงเทพธุรกิจ

ร้านทุกอย่าง 20 บาท ยุคนี้ ไปต่อไหวมั้ย?

ThaiFranchiseCenter

สศก.ขับเคลื่อนBig Dataสู่จังหวัดดิจิทัล เป้าเข้าถึงข้อมูลที่แม่นยำและเป็นปัจจุบัน

กรุงเทพธุรกิจ

ประวัติศาสตร์ของอัลตราซาวด์ เทคโนโลยีที่ทำให้เรามองเห็นลูกน้อยในครรภ์

SpringNews

“ประสิทธิ์” ซีอีโอ CPF ชื่นชม “ทีมไทยแลนด์” ปิดดีลภาษีสหรัฐ 19% มั่นใจเสริมศักยภาพแข่งขัน

ข่าวหุ้นธุรกิจ

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...