โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

ผลถก จีบีซี หยุดยิงอาวุธทุกประเภท 'กัมพูชา' ไม่ตอบรับ กู้ทุ่นระเบิด - ปราบแก๊งคอลฯ

กรุงเทพธุรกิจ

อัพเดต 2 วันที่แล้ว • เผยแพร่ 2 วันที่แล้ว

วันที่ 7 ส.ค.68 ที่ประเทศมาเลเซีย ผู้สื่อข่าวรายงาน การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee: GBC) ไทย - กัมพูชา สมัยวิสามัญ ใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง โดย 2 ฝ่ายเห็นพ้องแนวทางการปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิง 13 ข้อระหว่างกัน ซึ่งเป็นแนวทางที่ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของฝ่ายไทย ร่วมจัดทำกับฝ่ายเลขานุการของคณะกรรมการฯ ฝ่ายกัมพูชา

จากนั้นพลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และพลเอกเตีย เซ็ยฮา รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ได้ร่วมลงนามบันทึกผลการประชุม

พลเอก ณัฐพล แถลงว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาได้พบกับดาโตะ เซอรี อันวาร์ อิบราฮิม (Dato' Seri Anwar Ibrahim) นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ซึ่งมี พลเอก เตีย เซ็ยฮา รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกัมพูชา เข้าร่วมด้วย การหารือเป็นไปอย่างฉันมิตร โดยนายกรัฐมนตรีมาเลเซียยินดีที่เห็นการหยุดยิง และความคืบหน้าที่ดีในการหารือกรอบจีบีซีไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็นก้าวที่สำคัญในการปฏิบัติตามการหยุดยิง

ทั้งนี้ นายกมาเลเซีย ได้ยืนหยัดชัดเจนว่าได้มีการหารือกับผู้นำประเทศสมาชิกอาเซียนต่างๆ แล้ว และเห็นตรงกันว่าการแก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา เป็นเรื่องทวิภาคีระหว่างไทยกับกัมพูชา ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางของไทย ทางมาเลเซียจะเพียงช่วยประสานงานให้ทั้งสองฝ่าย หารือเพื่อแก้ไขปัญหากันเอง โดยมีอาเซียนสนับสนุน

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ยินดีที่การประชุมเจบีซี ไทย และกัมพูชาเห็นพ้องกันในเรื่องของคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว ที่นำโดยผู้ช่วยผู้ทหารมาเลเซีย และประกอบด้วย ผู้ช่วยทูตทหารจากประเทศสมาชิกอาเซียนเท่านั้น โดยสหรัฐอเมริกากับจีน จะไม่เข้าร่วม แต่ยินดีสนับสนุนตามที่ไทย-กัมพูชา เห็นสมควร

พลเอกณัฐพล ยังกล่าวขอบคุณมาเลเซียที่เป็นคนกลาง และช่วยประสานงาน ให้การประชุมครั้งนี้ผ่านไปเรียบร้อย โดยมีสหรัฐอเมริกา และจีน ร่วมสังเกตการณ์เช่นเดียวกับการประชุมพิเศษเมื่อ 28 กรกฎาคม 2568 โดยเป็นระดับเอกอัครราชทูต

การประชุม GBC ครั้งนี้ เป็นการติดตามประเด็นต่างๆ ที่ผู้นำไทย และกัมพูชาได้หารือเมื่อ 28 กรกฎาคม 2568 ซึ่งทั้งสองฝ่ายได้ตกลงให้มีการหยุดยิง และตนได้ย้ำในที่ประชุมว่า ตั้งแต่เวลาเที่ยงคืนของวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ฝ่ายไทยปฏิบัติตามสิ่งที่ผู้นำทั้งสองเห็นชอบร่วมกัน เรื่อการหยุดยิงอย่างเคร่งครัด แต่พบว่าฝ่ายกัมพูชาการ มีการละเมิดหยุดยิงหลังเที่ยงคืนของวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ซึ่งไทยใช้ความอดทนอดกลั้นที่สุด และตอบโต้เพื่อป้องกันตนเองเท่านั้นแม้ปัจจุบันสถานการณ์ชายแดนมีความสงบ แต่พบว่ากัมพูชายังเสริมกำลังเข้าไปในพื้นที่ และยังมีการใช้อากาศยานไร้คนขับ เข้ามาสอดแนมในพื้นที่ต่างๆ ของไทย ซึ่งเป็นการทำที่ยั่วยุ และอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดระหว่างกัน

นอกจากนี้ ยังมีการเผยแพร่ข้อมูล และข่าวที่บิดเบือน ไม่สร้างสรรค์ ไม่ช่วยให้สร้างบรรยากาศที่เอื้ออำนวยต่อการเจรจา และฟื้นฟูความสัมพันธ์

สำหรับการประชุม GBC ครั้งนี้ ฝ่ายกัมพูชาระดับนโยบาย ได้แสดงให้เห็นความจริงใจต่อมาตรการหยุดยิงที่ได้ตกลงกันไว้ การกระทำที่ละเมิดการหยุดยิงที่กล่าวมาข้างต้น อาจเป็นการดำเนินการโดยพลการของหน่วยงานในพื้นที่ ดังนั้นเจตนารมณ์ของตนที่เข้าประชุมวันนี้ คือ การหารือกับฝ่ายกัมพูชาอย่างตรงไปตรงมา ด้วยความจริงใจ และสุจริตของทั้งสองฝ่าย เพื่อหาแนวทางที่จะทำให้การหยุดยิงให้เดินหน้าต่อไปอย่างยั่งยืน เพื่อนำสันติภาพ และความสงบ มาสู่ชายแดนไทย-กัมพูชา อีกครั้ง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อประโยชน์ของประชาชนสองประเทศ จะได้กลับมาใช้ชีวิตเป็นปกติ

ผลการประชุมที่สำคัญในครั้งนี้ สิ่งที่ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบร่วมกัน คือ

1.ทั้งสองฝ่ายตกลงยึดมั่นเรื่องการหยุดยิงอย่างเคร่งครัด ซึ่งต้องครอบคลุมอาวุธทุกประเภท และคงกำลังไว้ในที่ตั้งเดิมนับตั้งแต่วันที่หยุดยิง โดยไม่มีการเสริมกำลังเพิ่มเติม

2.ให้มีคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว คือ ผู้ช่วยทูตทหารประเทศอาเซียนประจำประเทศไทย และกัมพูชา นำโดยผู้ช่วยทูตทหารมาเลเซีย เข้าไปสังเกตการณ์พื้นที่อย่างสม่ำเสมอ โดยจะไม่มีการข้ามแดน และมีการประสานงานอย่างใกล้ชิดกับ คณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค หรือ RBC และ GBC ในแต่ละประเทศ เพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีการละเมิดการหยุดยิงโดยฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง

3.ทั้งสองฝ่ายจะหลีกเลี่ยงการกระทำที่เป็นการยั่วยุ ทั้งทางทหาร และการให้ข้อมูลบิดเบือน หรือข่าวเท็จเพื่อเสริมสร้างบรรยากาศอำนวยการพูดคุย เพื่อหาทางออกโดยสันติ

4.ทั้งสองฝ่ายจะปฏิบัติตามกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัด โดยในช่วงเฉพาะหน้าจะเก็บร่างผู้เสียชีวิตส่งกลับประเทศ และประกอบพิธีอย่างมีเกียรติ มีศักดิ์ศรี ส่วนการส่งกลับเชลยศึกตามหลักกฎระหว่างประเทศ จะให้ส่งกลับทันทีที่มีการยุติการใช้กำลังโดยสมบูรณ์ซึ่งเป็นไปตามอนุสัญญาเจนีวา ฉบับที่ 3 โดยระหว่างนี้ตนได้ยืนยันว่าฝ่ายไทยได้ให้การดูแลบุคคลเหล่านี้ตามหลักกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศอย่างครบถ้วน

5.ทั้งสองฝ่ายจะรักษาช่องทางการพูดคุย และการใช้กลไกทวีภาคีที่มีอยู่ ในการแก้ปัญหาที่อาจเกิดขึ้น ไม่ให้ลุกลามบานปลาย โดยหลังจากนี้จะมีการประชุม RBC ภายในสองสัปดาห์ เพื่อประสานงานการปฏิบัติตามสิ่งที่ได้ตกลงกันไว้

นอกจากนี้ จะมีการประชุม GBC อีกครั้งในอีก 1 เดือนข้างหน้า เพื่อติดตามความคืบหน้าการผลประชุมครั้งนี้ และตนยังได้หยิบยกอีก 2 ประเด็นสำคัญ ซึ่งฝ่ายกัมพูชายังไม่ตอบรับ โดยขอให้มีการประชุมครั้งนี้เน้นเฉพาะการหยุดยิงก่อน และขอให้นำไปหารือการประชุม GBC ครั้งต่อไป คือ

1.ความร่วมมือในการเก็บกู้ทุ่นระเบิด ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดความตึงเครียด จนนำไปสู่การใช้กำลังระหว่างกัน เรื่องนี้ฝ่ายไทยพร้อมให้ความร่วมมือกับกัมพูชา ในการเก็บกู้ทุ่นระเบิดในพื้นที่ที่มีการปะทะ และพื้นที่อื่นๆ ตลอดแนวชายแดน เพื่อความปลอดภัยของประชาชนทั้งสองฝ่าย

2.ความร่วมมือในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ โดยเฉพาะการหลอกลวงออนไลน์ หรือ ออนไลน์สแกรม ซึ่งส่งผลต่อประชาชนคนไทย และประเทศอื่นในภูมิภาคอย่างกว้างขวาง

“ผมขอย้ำอีกครั้งว่า สิ่งที่ทั้งสองฝ่ายได้หารือ และเห็นพ้องกันในวันนี้ จะเกิดผลที่เป็นรูปธรรมได้ ต้องอาศัยความร่วมมือ และความจริงใจของสองฝ่าย ขอยืนยันว่าฝ่ายไทยจะยึดมั่นในการให้ความร่วมมือ และการพูดคุยอย่างสุจริตใจ และจริงใจต่อไป บนพื้นฐานของการเป็นเพื่อนบ้านที่ดี และหวังว่าฝ่ายกัมพูชาจะปฏิบัติตามเช่นเดียวกัน ท้ายที่สุดไทย และกัมพูชา เป็นประเทศเพื่อนบ้านที่มีพรมแดนติดกันย้ายหนีจากกันไม่ได้ เราเป็นสมาชิกของครอบครัวอาเซียนด้วยกัน หากทั้งสองประเทศสามารถแก้ปัญหาต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว ก็จะนำสันติภาพมาสู่พื้นที่ชายแดน และประชาชนของทั้งสองประเทศ ก็จะได้กลับมาใช้ชีวิตเป็นปกติอย่างสงบสุขอีกครั้ง“ พลเอก ณัฐพล กล่าว

จากนั้น สื่อมวลชน สอบถามว่า การประชุมคณะกรรมาธิการปักปันเขตแดน (JBC) จะมีอีกครั้งหรือไม่ และฝ่ายกัมพูชาส่งสัญญาณอย่างไร พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า สำหรับการประชุม GBC ที่มี รมว.กลาโหม เป็นประธาน และการประชุม RBC ที่มีแม่ทัพภาคฝ่ายไทย และ ผบ.ภูมิภาคทหาร ฝ่ายกัมพูชา เป็นประธาน จะเห็นได้ว่าประชุมโดยทหารเป็นประธาน

ส่วนการประชุม JBC ที่มีกระทรวงการต่างประเทศเป็นเจ้าของเรื่อง โดยการประชุม JBC เมื่อ 14 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา ได้มีการนัดหมายจะมีการประชุมเดือนกันยายน นี้ จึงยึดตามที่มีการประชุมครั้งนั้นเป็นหลัก ซึ่งเราแยกดำเนินการ

สำหรับการประชุมในวันนี้ไม่ได้มีการประชุมเรื่อง JBC แต่เราคำนึงว่าการประชุม JBC จะมีในเดือนกันยายน นี้

เมื่อถามถึงกรอบเวลาในการติดตามข้อตกลงหยุดยิง และจะพิจารณาให้ประชาชนกลับบ้านอย่างไร พลเอก ณัฐพล ระบุว่า การประชุม GBC ในวันนี้ ตนและรมว.กลาโหมกัมพูชา ได้ลงนามบันทึกการประชุมไปแล้ว ซึ่งจะเป็นกรอบการประชุม RBC ที่จะเกิดขึ้นภายใน 2 สัปดาห์ข้างหน้า และจะลงรายละเอียดภายในกรอบที่ได้ตกลงกัน และหลังจากนั้นอีก 1 เดือน จะมีการประชุม GBC วิสามัญ เพื่อติดตาม

“แต่ในกรณีที่เกิดเหตุไม่พึงประสงค์ มีการปะทะกันเกิดขึ้น จะมีการประชุม GBC วิสามัญ เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว” พลเอก ณัฐพล กล่าว

สำหรับประชาชนที่จะกลับภูมิลำเนา ปัจจุบันทาง ศบ.ทก. ได้กำหนดให้ผู้ว่าฯ แต่ละจังหวัดประสาน ผบ.หน่วยทหารในพื้นที่ได้โดยตรง เพราะสถานการณ์แต่ละจังหวัดไม่เท่ากัน จังหวัดใดมีความพร้อม สามารถกลับภูมิลำเนาได้ แต่สิ่งที่กองทัพห่วงใยคือปัจจุบันมีกระสุน และจรวดที่ฝ่ายกัมพูชายิงมาตกในชุมชน อาจยังหลงเหลืออยู่ จึงเร่งสำรวจ ดังนั้นประชาชนที่กลับภูมิลำเนาแล้ว หากพบเห็นวัตถุระเบิดดังกล่าวให้แจ้งหน่วยทหาร และตำรวจในพื้นที่ เพื่อดำเนินการเก็บกู้ระเบิดเพื่อความปลอดภัย

พิสูจน์อักษร….สุรีย์ ศิลาวงษ์

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก กรุงเทพธุรกิจ

“OTOP ศิลปาชีพ ปี 68” ผ้าไทยสุดฮิต คนแห่ช้อปแน่น รับเทศกาลวันแม่

11 ชั่วโมงที่ผ่านมา

‘เปา ฝาน’ หวนคืนสู่สาธารณะ หลัง ‘หายตัวแบบลึกลับ’ กว่า 2 ปี แท้จริงเขาถูกทางการจีนคุมตัว

12 ชั่วโมงที่ผ่านมา

C asean ครบ 10 ปี 'ฐาปน' ปลุกพลังอาเซียน ร่วมเติบโตยั่งยืน ท่ามกลางโลกผันผวน

13 ชั่วโมงที่ผ่านมา

กต.ประณาม ‘กัมพูชา’ ใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ชี้ละเมิดอธิปไตยไทย และกฎหมายระหว่างประเทศ

13 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความการเมืองอื่น ๆ

ข่าวและบทความยอดนิยม