โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

สอนใช้ ‘Positioning Cross’ วิธีหาช่องว่างของตลาด เหมือนในซีรีส์ ‘สงครามส่งด่วน’

TODAY

อัพเดต 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 1 วันที่แล้ว • workpointTODAY

เชื่อว่าคนที่เคยดูซีรีส์เรื่อง “สงครามส่งด่วน” น่าจะยังจำฉากที่ตัวละครเสี่ยวหยูวาดกราฟบางอย่างที่มี 2 แกนบนกระจกรถของสันติ เพื่อหาช่องว่างในตลาดให้ Thunder Express มาสู้กับคู่แข่งกันได้อยู่

รู้ไหมว่ากราฟอันนั้นคือ “Positioning Cross” หรือบางตำราจะเรียก “Positioning Map”

เป็นเครื่องมือที่นักการตลาดเอาไว้ดูภาพรวมของอุตสาหกรรมว่าใครเป็นคู่แข่งของแบรนด์เรา และมีช่องว่างในตลาดตรงไหนบ้างเราสามารถลงไปเล่นได้ ?

แล้วถ้าเราอยากใช้เครื่องมือ Positioning Cross เหมือนในซีรีส์บ้างต้องทำอย่างไร ?

TODAYBizview จะสรุปให้ฟังแบบเข้าใจง่ายๆ

Positioning Cross เป็นเครื่องมือการตลาดชนิดหนึ่งที่มีลักษณะเป็นแผนภาพ 4 ช่อง

โดยแต่ละช่องจะระบุตำแหน่งทางการตลาดของแบรนด์ในอุตสาหกรรม คล้ายแผนที่ที่บอกว่าแบรนด์เราอยู่ตรงไหน ตรงไหนมีผู้เล่นเยอะ และตรงไหนมีผู้เล่นน้อย

ยกตัวอย่างเช่น แบรนด์รถยนต์ธรรมดาๆ กับแบรนด์รถยนต์หรู ถ้าเอามาพล็อตลงบน Positioning Cross จะต้องอยู่คนละช่องกัน

ทีนี้แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าแบรนด์อะไร ควรอยู่ตรงไหนของแผนที่ มาดูวิธีกัน

1. ให้เรากำหนดปัจจัย 2 อย่าง ที่คิดว่าลูกค้าตัดสินใจซื้อสินค้าของเราจากตรงนี้

ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเราอยากเปิดร้านกาแฟ สิ่งที่ทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อกาแฟสักแก้วก็อาจจะเป็น “ราคา” และ “บรรยากาศของร้าน”

พอได้แล้วให้เราเอาปัจจัยที่เลือกมาแทนค่าบน “แกนแนวนอน” และ “แกนแนวตั้ง” อย่างในเคสนี้จะกำหนดว่า

– แกนแนวนอน คือ “ราคา” จากถูกไปแพง เริ่มจาก “ฝั่งซ้ายไปขวา”
– แกนแนวตั้งคือ คือ “บรรยากาศของร้าน” จากบรรยากาศไม่ดีไปบรรยากาศดี เริ่มจาก “ล่างขึ้นบน”

จากนั้นให้เราเอาแกนแนวนอนและแนวตั้งมาวางซ้อนกันเป็นรูปตัว X เพื่อให้ได้ช่องทั้งหมด 4 ช่อง
(คล้ายที่เสี่ยวหยูวาดบนกระจกรถของสันติ) ก็จะได้โครงสร้างของ Positioning Cross ในเบื้องต้นแล้ว

แต่ต้องบอกไว้ก่อนว่า แต่ละอุตสาหกรรมจะมีปัจจัยที่ลูกค้าตัดสินใจซื้อแตกต่างกันพอสมควร

– ธุรกิจขนส่ง ลูกค้าอาจจะตัดสินใจซื้อด้วย ความสะดวก และ ความรวดเร็วในการส่ง
– ธุรกิจสายการบิน ลูกค้าอาจจะตัดสินใจซื้อด้วย ราคา และ ความสะดวกสบาย
– ธุรกิจแฟชั่น ลูกค้าอาจจะตัดสินใจซื้อด้วย ความสวยงาม และ คุณภาพของสินค้า

ซึ่งตรงนี้ก็ขึ้นอยู่กับมุมมองของนักการตลาดแต่ละคนด้วยว่าจะใช้ปัจจัยไหนมาวางเป็น Positioning Cross ?

2. เมื่อเราได้โครงสร้างของ Positioning Cross แล้ว ให้พยายามเติมแบรนด์ลงในช่องต่างๆ ตามโครงสร้างที่เราวางเอาไว้

อย่างในเคสของร้านกาแฟข้างต้น Positioning Cross ของเราจะมีช่องทั้งหมด 4 ช่อง ได้แก่

– ร้านกาแฟที่ “ราคาถูก” และ “บรรยากาศดี” จะอยู่ช่อง “ซ้าย-บน”
– ร้านกาแฟที่ “ราคาสูง” และ “บรรยากาศดี” จะอยู่ช่อง “ขวา-บน”
– ร้านกาแฟที่ “ราคาถูก” และ “บรรยากาศไม่ดี” จะอยู่ช่อง “ซ้าย-ล่าง”
– ร้านกาแฟที่ “ราคาสูง” และ “บรรยากาศไม่ดี” จะอยู่ช่อง “ขวา-ล่าง”

ซึ่งเรามีหน้าที่ต้องวิเคราะห์ และหาให้ได้ว่าแบรนด์อะไรควรจะต้องอยู่ตรงไหนของแผนที่

โดยมีวิธีง่ายๆ ที่หลายคนนิยมใช้ เพื่อให้พล็อตแบรนด์ในแผนที่ให้แม่นยำขึ้น ก็คือ “การทำแบบสอบถาม” เป็นสเกลตัวเลข

ยกตัวอย่างเช่น ในเคสของร้านกาแฟข้างต้น เราอาจจะทำแบบสอบง่ายๆ 2 ข้อ ตามปัจจัยเรื่อง ราคา และ บรรยากาศของร้าน ที่เรากำหนดไว้ ได้แก่

1. คิดว่ากาแฟแบรนด์ A มีราคา ถูกหรือแพง โดยกำหนดคะแนน 1 – 10
(โดยที่ 1 = ถูกมาก และ 10 = แพงมาก)

2. คิดว่ากาแฟแบรนด์ A มีบรรยากาศเป็นอย่างไร โดยกำหนดคะแนน 1 – 10
(โดยที่ 1 = บรรยากาศธรรมดา และ 10 = บรรยากาศดีมาก)

สมมติว่าถ้าเราทำแบบสำรวจร้านกาแฟในตลาด แล้วพบว่าแบรนด์ Starbucks ได้คะแนนในเรื่องของราคาอยู่ที่ 8 และได้คะแนนเรื่องบรรยากาศในร้านที่ 10

เราก็อาจจะพล็อต Starbuck ให้อยู่ในช่อง “ขวา-บน” คือเป็นแบรนด์ที่ขายกาแฟในราคาสูงแต่ตกแต่งร้านสวย บรรยากาศดีนั่นเอง

3. วิเคราะห์ “ช่องว่างในตลาด” จาก Positioning Cross

เมื่อเราเติมแบรนด์ต่าง ๆ ใน Positioning Cross ครบ 4 ช่องแล้ว เราจะสามารถเห็นภาพรวมของตลาดได้เลยว่าพื้นที่ตรงไหนมีการแข่งขันสูง และพื้นที่ตรงไหนไม่ค่อยมีคู่แข่ง ?

อย่างในเคสร้านกาแฟข้างต้น สมมติว่าเราพล็อตแผนที่แล้วพบว่า ในตลาดไม่ค่อยมีร้านกาแฟที่ “ราคาถูก” และ “บรรยากาศดี”

เราก็อาจใช้ข้อมูลตรงนี้มาปรับปรุงโมเดลร้านกาแฟของเราให้เป็นร้านกาแฟที่ขายราคาถูก แต่บรรยากาศดี เพื่อสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งในตลาดได้

เหมือนกับในซีรีส์สงครามส่งด่วน ในฉากที่สันติเห็นว่าคู่แข่งของ Thunder Express คือ Easy Express มีตำแหน่งในตลาดแบบเดียวกัน คือ “ค่าขนส่งถูก” และ “สะดวก”

ก่อนที่สันติจะตัดสินใจวางตำแหน่งของ Thunder Express ใหม่ให้เป็นแบรนด์ที่ “ค่าส่งถูก” และ “สะดวกมาก”

และพัฒนาบริการรับสินค้าถึงหน้าบ้านลูกค้าให้ลูกค้าได้รับความสะดวกกว่าแบรนด์อื่นในตลาดเป็นแบรนด์แรกนั่นเอง

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก TODAY

จากติดลบ สู่กำไรหมื่นล้าน จับตา ‘การบินไทย’ คัมแบ็ค เข้าเทรดวันแรกแบบไร้เพดาน

3 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ไทยช้า หรือ กัมพูชาเร็วเกิน? คุยกับ อ.ธนภัทร ศูนย์กฎหมายระหว่างประเทศ มธ. ถึงการชิงพื้นที่ ‘เวทีระหว่างประเทศ’

4 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ย้อนเรื่องราวและความสำเร็จ ก่อน ‘The Devils Wears Prada 2’ มา

5 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ใกล้เส้นตายภาษีทรัมป์ ไทย กัมพูชา สิงคโปร์ มาเลย์ พิสูจน์ ‘พลังต่อรอง’ แต่ละชาติ

6 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความไอที ธุรกิจอื่น ๆ

ทรูฯห่วงใยลูกค้า-ปชช.บรรเทาภัยชายแดนไทย-กัมพูชา มอบเน็ตฟรี-โทรฟรี รถเสริมทัพสัญญาณศูนย์อพยพฯสนามช้าง จ.บุรีรัมย์

สยามรัฐ

พนง.รถไฟฯสายเหนือ รวมพลังจิตอาสา เฉลิมพระชนมพรรษาในหลวงร.10 วันที่ 28 ก.ค.68 - ส่งกำลังใจให้พี่น้องทหารไทย

สยามรัฐ

หอการค้ากระบี่ ผนึก ททท. จัดงาน “กินทุเรียนพื้นบ้าน” กระตุ้นเศรษฐกิจช่วงโลว์ซีซัน

สยามรัฐ

ภาคธุรกิจไทยรับสัญญาณบวก! หลัง “สหรัฐ” ถอดชื่อบริษัท “เมียนมา” จากบัญชีคว่ำบาตร

ข่าวหุ้นธุรกิจ

“ศปก.ทภ.2” รายงานสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา ฝ่ายตรงข้ามเสียชีวิต 100 นาย

ข่าวหุ้นธุรกิจ

CAAT เดินหน้ายกระดับการบินไทยสู่ Aviation Hub ชี้อุตสาหกรรมการบินกำลังกลับมาเจริญเติบโต

สยามรัฐ

"สุริยะ" สั่งการ ทล.-ทช.-ทย.-ทอท.-บขส. ปชช.ที่ได้ผลกระทบพายุโซนร้อนวิภา

สยามรัฐ

CAAT แนะผดส.ติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ตรวจสอบเที่ยวบิน-สิทธิการเปลี่ยนแปลงการเดินทาง

สยามรัฐ

ข่าวและบทความยอดนิยม

ดูเพิ่ม
Loading...