โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

ค่าเงินบาท เปิดเช้านี้ 32.48 บาท/ดอลลาร์

การเงินธนาคาร

อัพเดต 17 กรกฎาคม 2568 เวลา 15.26 น. • เผยแพร่ 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ค่าเงินบาท เปิดเช้านี้ ที่ระดับ 32.48 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย แทบไม่เปลี่ยนแปลงจากระดับปิดวันที่ผ่านมา ณ ระดับ 32.53 บาทต่อดอลลาร์

17 ก.ค. 2568 นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาท เปิดเช้านี้ ที่ระดับ 32.48 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย แทบไม่เปลี่ยนแปลงจากระดับปิดวันที่ผ่านมา ณ ระดับ 32.53 บาทต่อดอลลาร์

โดยนับตั้งแต่ช่วงคืนที่ผ่านมา เงินบาท (USDTHB) เคลื่อนไหวผันผวน ในลักษณะ Sideways Down (แกว่งตัวในกรอบ 32.34-32.64 บาทต่อดอลลาร์) แม้จะมีจังหวะอ่อนค่าลงทะลุโซน 32.60 บาทต่อดอลลาร์ ในช่วงเวลาสั้นๆ ตามจังหวะการแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์ ที่มาพร้อมกับการย่อตัวลงต่อเนื่องของราคาทองคำ

ทว่า เงินบาทก็พลิกกลับมาแข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็ว เข้าใกล้โซนแนวรับ 32.30 บาทต่อดอลลาร์ ตามการอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์

ส่วนราคาทองคำก็พุ่งสูงขึ้น ท่ามกลางข่าวลือว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้เตรียมปลดประธานเฟด Jerome Powell ก่อนที่ผู้เล่นในตลาดจะคลายกังวลจากประเด็นดังกล่าว หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ รวมถึง รัฐมนตรีฯ คลัง สหรัฐฯ ออกมาปฏิเสธข่าวลือดังกล่าว หนุนให้ เงินดอลลาร์รีบาวด์สูงขึ้นบ้าง ส่วนราคาทองคำก็ย่อตัวลงเกือบถึงระดับก่อนรับรู้ข่าวลือปลดประธานเฟดดังกล่าว

สำหรับแนวโน้มของค่าเงินบาท เราขอคงมุมมองเดิมว่า เงินบาทยังมีความเสี่ยงเผชิญแรงกดดันฝั่งอ่อนค่าได้ในช่วงนี้ ตามจังหวะการทยอยแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์ ที่ได้แรงหนุนจากทั้งการทยอยปรับลดความคาดหวังต่อแนวโน้มการลดดอกเบี้ยของเฟด รวมถึงความไม่แน่นอนของการดำเนินนโยบายการค้าของสหรัฐฯ

อย่างไรก็ดี แนวโน้มการเคลื่อนไหวของเงินดอลลาร์จะขึ้นกับ รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญ อย่าง ยอดค้าปลีก (Retail Sales) ที่จะรับรู้ในช่วงคืนวันพฤหัสฯ นี้ โดยหากรายงานยอดค้าปลีกของสหรัฐฯ ออกมาดีกว่าคาด ก็อาจทำให้ผู้เล่นในตลาดปรับลดความคาดหวังต่อแนวโน้มการลดดอกเบี้ยของเฟดลงบ้าง หนุนให้เงินดอลลาร์มีโอกาสปรับตัวสูงขึ้นได้

ทว่า การปรับตัวขึ้นของเงินดอลลาร์ก็อาจเป็นไปอย่างจำกัด เนื่องจากผู้เล่นในตลาด อาจรอลุ้นรายงานข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐฯ

นอกจากนี้ ผู้เล่นในตลาดอาจยังมีความกังวลต่อประเด็นความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลสหรัฐฯ กับประธานเฟด หลังมีข่าวลือว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อาจมีคำสั่งปลดประธานเฟด Jerome Powell แม้ในภายหลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ออกมาปฏิเสธข่าวลือดังกล่าวก็ตาม

นอกจากนี้ เรามองว่า ราคาทองคำก็มีโอกาสทยอยรีบาวด์สูงขึ้นได้ไม่ยาก ท่ามกลางความไม่แน่นอนของการดำเนินนโยบายการค้าของสหรัฐฯ และความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลสหรัฐฯ กับประธานเฟด ทำให้แม้เงินบาทจะเผชิญแรงกดดันฝั่งอ่อนค่าบ้าง จากเงินดอลลาร์ แต่หากราคาทองคำยังคงทรงตัวในกรอบ Sideways หรือปรับตัวสูงขึ้นบ้าง ก็จะช่วยชะลอการอ่อนค่าดังกล่าว

ทำให้โดยรวม เงินบาท (USDTHB) อาจยังติดโซนแนวต้านแถว 32.60-32.70 บาทต่อดอลลาร์ ไปก่อน แต่หากเงินบาทสามารถอ่อนค่าทะลุโซน 32.70 บาทต่อดอลลาร์ ได้อย่างชัดเจน เราถึงจะกลับมามั่นใจว่า เงินบาทได้กลับเข้าสู่แนวโน้มอ่อนค่าลงอีกครั้ง ตามการประเมินด้วยกลยุทธ์ Trend Following

อนึ่ง เราขอย้ำว่า ผู้เล่นในตลาดควรระวังความผันผวนในช่วงตลาดทยอยรับรู้รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ ในคืนนี้ เนื่องจากสถิติย้อนหลัง 1 ปี สะท้อนว่า เงินบาท (USDTHB) เสี่ยงผันผวนในกรอบ +/- 1 SD ราว +0.3%/-0.2%

เรายังคงมีความกังวลเดิม คือ ความผันผวนของเงินบาทที่อาจกลับมาสูงขึ้นได้ ท่ามกลางความไม่แน่นอนของการดำเนินนโยบายการค้าของสหรัฐฯ และสถานการณ์การเมืองไทย ซึ่งเรามองว่า ผู้เล่นในตลาดควรใช้กลยุทธ์ Options เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน

มองกรอบเงินบาทในช่วง 24 ชั่วโมง คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 32.40-32.65 บาท/ดอลลาร์

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ

บรรยากาศในฝั่งตลาดหุ้นสหรัฐฯ เริ่มกลับมาอยู่ในภาวะเปิดรับความเสี่ยงมากขึ้น หลังรายงานผลประกอบการของบรรดาบริษัทจดทะเบียนส่วนใหญ่ โดยเฉพาะบริษัทการเงินขนาดใหญ่ รายงานผลประกอบการที่สดใส

ทว่า บรรยากาศในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ก็ถูกกดดันจากประเด็นข่าวลือประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อาจมีคำสั่งปลดประธานเฟด Jerome Powell แม้ว่าในภายหลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะออกมาปฏิเสธข่าวลือดังกล่าว ทำให้โดยรวมดัชนี S&P500 ปิดตลาด +0.32%

ตลาดหุ้นยุโรป

ทางฝั่งตลาดหุ้นยุโรป ดัชนี STOXX600 ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง -0.57% กดดันโดยความกังวลจากข่าวลือว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อาจมีคำสั่งปลดประธานเฟด Jerome Powell นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรปยังถูกกดดันจากการปรับตัวลงหนักของ ASML -11.4% และบรรดาหุ้นธีม AI/Semiconductor หลัง ASML ระบุว่า รายได้ของบริษัทมีแนวโน้มเติบโตลดลง

ตลาดบอนด์

ส่วนในฝั่งตลาดบอนด์ บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ เคลื่อนไหวผันผวนใกล้โซน 4.50% ท่ามกลางความกังวลของผู้เล่นในตลาดต่อข่าวลือว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อาจมีคำสั่งปลดประธานเฟด Jerome Powell ซึ่งกดดันให้บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ย่อตัวลงบ้าง ก่อนที่จะรีบาวด์ขึ้นสู่ระดับ 4.47% อีกครั้ง หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ปฏิเสธข่าวลือดังกล่าว

ทั้งนี้ เราคงมุมมองเดิมว่า การปรับตัวขึ้นของบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ในช่วงนี้ ได้ทำให้บอนด์ระยะยาวสหรัฐฯ มีความน่าสนใจมากขึ้น และเราคงคำแนะนำเดิมว่า ผู้เล่นในตลาดควรรอจังหวะบอนด์ยีลด์ระยะยาวสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้น ในการทยอยเข้าซื้อ หลัง Risk-Reward มีความน่าสนใจมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงโซน 4.50% ขึ้นไป สำหรับบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ

ตลาดค่าเงิน

ทางด้านตลาดค่าเงิน เงินดอลลาร์เคลื่อนไหวผันผวน โดยมีจังหวะอ่อนค่าลงอย่างรวดเร็ว ตามความกังวลว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อาจมีคำสั่งปลดประธานเฟด Jerome Powell ก่อนที่เงินดอลลาร์จะรีบาวด์ขึ้นบ้าง หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ออกมาปฏิเสธข่าวลือดังกล่าว ทำให้โดยรวมดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) ปรับตัวลงสู่ระดับ 98.4 จุด (แกว่งตัวในกรอบ 97.8-98.9 จุด)

ในส่วนของราคาทองคำ ความกังวลต่อประเด็นประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อาจมีคำสั่งปลดประธานเฟด Jerome Powell ก็มีส่วนทำให้ ราคาทองคำ (สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ส.ค. 2025) พุ่งสูงขึ้นทดสอบโซนแนวต้านระยะสั้น ก่อนที่จะย่อตัวลงสู่โซน 3,340-3,350 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ออกมาปฏิเสธข่าวลือดังกล่าว ทำให้ผู้เล่นในตลาดคลายกังวลต่อประเด็นดังกล่าวลงบ้าง

สำหรับในช่วง 24 ชั่วโมงหลังจากนี้ ไฮไลท์สำคัญจะอยู่ที่รายงานยอดค้าปลีก (Retail Sales) ของสหรัฐฯ ในเดือนมิถุนายน นอกจากนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอติดตาม รายงานข้อมูลยอดผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงาน (Jobless Claims)

รวมถึงรายงานดัชนีภาคธุรกิจโดย Philadelphia Fed ในเดือนกรกฎาคม และรอติดตามถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด เพื่อประกอบการประเมินแนวโน้มการดำเนินนโยบายการเงินของเฟด ซึ่งล่าสุด ผู้เล่นในตลาดต่างมองว่า เฟดมีโอกาสราว 84% ที่จะลดดอกเบี้ย 2 ครั้ง ในปีนี้ และเฟดมีโอกาสราว 40% ในการลดดอกเบี้ยเพิ่มเติมอีก 3 ครั้ง ในปีหน้า

ทางฝั่งยุโรป ผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้น รายงานข้อมูลตลาดแรงงานอังกฤษ อาทิ ยอดผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงาน และอัตราการเติบโตของค่าจ้างในเดือนมิถุนายน รวมถึง ยอดการจ้างงานและอัตราการว่างงานในเดือนพฤษภาคม เพื่อประกอบการประเมินแนวโน้มการดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) หลังล่าสุด อัตราเงินเฟ้อ CPI ของอังกฤษ ที่ออกมาสูงกว่าคาด ทำให้ผู้เล่นในตลาดทยอยปรับลดความคาดหวังต่อแนวโน้มการลดดอกเบี้ยของ BOE ในเดือนสิงหาคมลงบ้าง (จากเกือบ 100% เป็น 85%) แต่โดยรวมยังคงมองว่า BOE มีโอกาสลดดอกเบี้ยราว 2 ครั้ง ในปีนี้

ส่วนในฝั่งเอเชีย ในช่วงราว 6.30 น. ของเช้าวันศุกร์นี้ ตามเวลาประเทศไทย ผู้เล่นในตลาดจะรอติดตามรายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI ของญี่ปุ่น ในเดือนมิถุนายน หลังในช่วงที่ผ่านมาอัตราเงินเฟ้อของญี่ปุ่นทยอยปรับตัวสูงขึ้น ทำให้ผู้เล่นในตลาดบางส่วนยังคงมองว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มีโอกาสเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยเพิ่มเติมอีก 1 ครั้ง ในปีนี้

และนอกเหนือจากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจดังกล่าว ผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้น รายงานผลประกอบการของบรรดาบริษัทจดทะเบียน โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มเทคฯ อย่าง TSMC และ Netflix ซึ่งรายงานผลประกอบการของบรรดาบริษัทจดทะเบียนอาจส่งผลกระทบต่อบรรยากาศในตลาดการเงินในช่วงระยะสั้นได้

อ่านข่าว การเงิน-อัตราแลกเปลี่ยน-ราคาทอง ทั้งหมด ได้ที่นี่

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก การเงินธนาคาร

“เที่ยวไทยคนละครึ่ง” ว่างกว่า 3 แสนสิทธิ์ ลงทะเบียนได้ถึง 31 ต.ค.

17 นาทีที่แล้ว

จิตตะ เวลธ์ ชี้ลงทุนครึ่งปีหลัง AI Market Prediction ยังล็อกเป้าหุ้นจีน

22 นาทีที่แล้ว

“ลำไย” ล้นตลาด ส่งออกซบเซาราคาดิ่งหนัก

30 นาทีที่แล้ว

กรมเชื้อเพลิงฯ เร่งเครื่องสำรวจปิโตรเลียม คาดใช้เม็ดเงินลงทุนกว่า 2 พันล้านบาท

41 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความธุรกิจ-เศรษฐกิจอื่น ๆ

พาณิชย์ จับมือ ร้านศรณ์ Fine Dining มิชลิน 3 ดาว ร้านอาหารไทยแห่งแรกของโลกนำสินค้า GI มารังสรรค์เมนูสุดพิเศษ ดันซอฟต์พาวเวอร์ วัตถุดิบคุณภาพของไทย

BTimes

กมธ.พาณิชย์ฯ วุฒิฯ เตือนรัฐคิดรอบด้านภาษีทรัปม์ อย่าตาม "อินโด-เวียดนาม" เสี่ยง SME พัง-กระทบความมั่นคง

สยามรัฐ

เศรษฐา ขึ้นเวทีปาฐกถา ในงาน Mega Halal ลั่นไทยพร้อมเปิดประตูสู่โลก หวังอาหารฮาลาลขับเคลื่อนศก.อนาคต

MATICHON ONLINE

'จตุพร' ลงพื้นที่สระแก้ว เร่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจชายแดนไทย-กัมพูชา

ประชาชาติธุรกิจ

ค้าปลีก ชง 2 แนวทางเร่งด่วนฟื้นกำลังซื้อ-ท่องเที่ยวไทย

เดลินิวส์

เปิดมุมมองใหม่ของมหานคร MEA ชวนคุณบันทึกภาพความงามไร้สาย ชิงรางวัลรวม 120,000 บาท !

Manager Online

ข่าวดี! ต้นทุนค่าไฟลด ดัน 3 ทางเลือกทบทวนค่าไฟส่งท้ายปีต่ำสุด 3.98 บาทต่อหน่วย

เดลินิวส์

บีไอจี หนุนเป้า Net Zero ชูไนโตรเจนคาร์บอนต่ำ

หุ้นวิชั่น

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...