จีนสร้าง ‘วงแหวนส่งไฟฟ้า’ ยาวกว่า 4,000 กม. ล้อมรอบทะเลทรายในซินเจียง
× กรุณาติดต่อทีมงานเพื่อดาวน์โหลดคลิป
อุรุมชี, 16 ก.ค. (ซินหัว) — จีนก่อสร้างโครงข่ายสายส่งไฟฟ้าแรงสูงพิเศษระยะทาง 4,197 กิโลเมตร ล้อมพื้นที่รอบแอ่งทาริม ซึ่งเป็นที่ตั้งของทะเลทรายใหญ่สุดในจีนเสร็จสมบูรณ์แล้ว หลังจากโครงข่ายช่วงสุดท้ายเชื่อมต่อถึงกันเมื่อวันอาทิตย์ (13 ก.ค.) ที่ผ่านมา รวมระยะเวลาสร้างนาน 15 ปี นับเป็นหมุดหมายสำคัญด้านโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่ตอนใต้ของเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน
บริษัทย่อยของการไฟฟ้าแห่งประเทศจีน สาขาซินเจียง ซึ่งเป็นผู้ดำเนินการก่อสร้างโครงการข้างต้น เผยว่า “วงแหวนส่งไฟฟ้า” สายนี้ ซึ่งเป็นโครงข่ายสายส่งไฟฟ้าแรงสูงพิเศษระดับ 750 กิโลโวลต์ (kV) ถือเป็นโครงข่ายไฟฟ้าลักษณะนี้ที่ใหญ่ที่สุดในจีน ประกอบด้วยสถานีย่อย 9 แห่ง และหอส่งไฟฟ้าสร้างจากเหล็กเกือบ 10,000 แห่ง คาดว่าจะดำเนินการเต็มรูปแบบภายในเดือนพฤศจิกายน 2025
แอ่งทาริมเป็นที่ตั้งของทะเลทรายทากลิมากัน ซึ่งเป็นทะเลทรายเคลื่อนตัวขนาดใหญ่อันดับสองของโลก พายุทรายที่โหมกระหน่ำตลอดหลายศตวรรษที่ผ่านมาได้ตัดขาดพื้นที่บางส่วนในซินเจียงตอนใต้และกระทบต่อโอกาสในการพัฒนา โครงการนี้จึงจะช่วยให้ซินเจียงตอนใต้เดินหน้าการพัฒนาที่รวดเร็ว และส่งเสริมการจัดหาพลังงานใหม่ทั่วจีน
สายส่งไฟฟ้าพาดผ่านภูมิประเทศหลายแบบ ตั้งแต่ผืนทรายที่เคลื่อนตัวในทะเลทรายไปจนถึงพื้นที่สูงของเทือกเขาคุนหลุน ทีมงานสร้างถนนชั่วคราวขึ้นมาเพื่อขนส่งวัสดุผ่านเนินทรายสูงกว่า 50 เมตร ส่วนในพื้นที่ภูเขา มีการใช้สายเคเบิลลำเลียงชิ้นส่วนหอส่งไฟฟ้ารวมเกือบ 3,000 ตัน
นอกจากนี้ เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะพันธุ์ไม้ท้องถิ่นในทะเลทรายอย่างต้นหูหยาง (populus euphratica) วิศวกรได้ปรับความสูงของหอส่งไฟฟ้าบางแห่งและปรับเส้นทางบางจุดเล็กน้อย พร้อมทั้งวางแผนปู “กระดานหมากรุกฟาง” มากกว่า 4.8 แสนตารางเมตร ซึ่งเป็นวิธีที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในจีนเพื่อยับยั้งการเคลื่อนตัวของทราย
รายงานระบุว่าโครงข่ายไฟฟ้าใหม่นี้มีบทบาทสนับสนุนเครือข่ายโครงสร้างพื้นฐานที่กำลังเติบโตรอบทะเลทรายทากลิมากัน ซึ่งรวมถึงทางหลวง สนามบิน และทางรถไฟ
ในหมู่บ้านคารั่งกู่ถ่าเก๋อบริเวณเทือกเขาคุนหลุน กระแสไฟฟ้ามีเสถียรภาพมากขึ้นนับตั้งแต่มีการเปิดใช้งานโครงข่ายไฟฟ้าบางส่วนในเดือนเมษายน จำนวนร้านค้าในท้องถิ่นเพิ่มขึ้นจาก 4 แห่งในปี 2018 เป็น 48 แห่งในปัจจุบัน ซึ่งแต่ละแห่งมีตู้เย็นหรือช่องแช่แข็ง
ชาวบ้านท้องถิ่นบอกเล่าว่าตอนนี้ผู้คนสามารถเลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านที่ใหญ่ขึ้นได้แล้ว หลายครอบครัวยังมีแผนซื้อยานยนต์พลังงานใหม่ สิ่งที่ครั้งหนึ่งเคยดูเกินเอื้อมสำหรับพวกเขากำลังกลายเป็นจริงแล้ว