โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

‘กมธ.มั่นคงฯ’ ถกปัญหาผู้ลี้ภัย หลังสหรัฐตัดงบความช่วยเหลือผู้หนีภัยสู้รบ 9 แห่ง

ไทยโพสต์

อัพเดต 2 วันที่แล้ว • เผยแพร่ 2 วันที่แล้ว

'กมธ.มั่นคงฯ' เผย ถกปัญหาผู้ลี้ภัย หลัง 'สหรัฐฯ' ระงับช่วยเหลือ ชง 3 ระยะรับมือ–ดันเปิดทางผู้มีทักษะทำงานในไทย

7 สิงหาคม 2568 - ที่รัฐสภา นายปิยรัฐ จงเทพ สส.กทม. พรรคประชาชน ในฐานะโฆษกกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ และ นายมานพ คีรีภูวดล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน แถลงผลการประชุม กมธ.ความมั่นคงแห่งรัฐฯ

โดยนายปิยรัฐ กล่าวว่า การประชุมในครั้งนี้ได้มีการติดตามการแก้ไขปัญหาผลกระทบจากคำสั่งทางการบริหารของประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ต่อการระงับความช่วยเหลือแก่ผู้อพยพโยกย้ายถิ่น ผู้หนีภัยการสู้รบ ในพื้นที่พักพิงชั่วคราวและผู้ลี้ภัยในเมืองของประเทศไทย ทั้งในระยะเร่งด่วน ระยะปานกลาง ระยะยาว

ทั้งนี้ กมธ.ได้เชิญบุคคลที่เกี่ยวข้องมา 3 หน่วยงาน ได้แก่ 1.นายภูมิธรรม เวชชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย โดยนายภูมิธรรมก็ได้มอบหมายสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) มาตอบแทน 2.นายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) โดยได้มอบหมาย นายรพี โล่ชัยยะกูล ผู้อำนวยการกองความมั่นคงภายในประเทศ มาตอลแทน 3.นายเตช บุนนาค เลขาธิการสภากาชาดไทย

ด้านนายมานพ กล่าวว่า สำหรับประเด็นผู้หนีภัยการสู้รบในศูนย์ 9 แห่งของประเทศไทย ในพื้นที่ 3 จังหวัด ได้แก่ จ.แม่ฮ่องสอน จ.ตาก จ.ราชบุรี โดยอยู่มาตั้งแต่ปี 2528 เป็นระยะเวลา 40 ปี โดยประเทศไทยได้มีการดูแล และมีหน่วยงานระหว่างประเทศมาช่วยเหลือ แต่หลังจากมีนโยบายของประธานาธิบดีสหรัฐอเมริการะงับความช่วยเหลือแก่ผู้อพยพ ปัญหาที่ตามมาคือจะเป็นภาระของคนในพื้นที่ ที่ต้องดูแลกัน และจะส่งผลกระทบโดยตรงกับคนไทย

นายมานพ กล่าวว่า ตนขอบคุณ สมช. ที่ได้มีการประชุมอนุว่าด้วยความมั่นคงภายใน เมื่อวันที่ 24 ก.ค. 2568 โดยมีมติออกมาที่มีการดำเนินการแนวทางอยู่ 3 ระยะ 1.ระยะเร่งด่วน ได้แก่ ความจำเป็นเรื่องของอาหารโดยเป็นสิ่งที่ประชาชนที่อยู่ในศูนย์อพยพจำเป็นต้องต้องใช้ โดยได้มอบหมายให้กระทรวงมาไทยเป็นคนประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดูแลในเรื่องนี้ 2.ระยะปานกลาง ต้องมาดูกันว่าจะทำอย่างไรให้ประชาชนที่อยู่ในศูนย์พักพิงทั้ง 9 แห่ง พึ่งพาตนเองได้ เช่น ให้ออกมาประกอบอาชีพเลี้ยงชีพได้ ที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงศูนย์พักพิงอพยพ

และ 3.ระยะยาว อาจจะสามารถออกมาประกอบอาชีพลูกจ้างในพื้นที่ใกล้เคียงหรือพื้นที่ในเมืองได้ ซึ่งรายละเอียดในข้อกฎหมาย ทางสมช. และกระทรวงมหาดไทย รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องไปพิจารณาในรายละเอียด อีกเรื่องเป็นประเด็นในเรื่องของการส่งกลับ โดยเป็นบุคคลที่สามารถเป็นอาสาสมัครที่จะกลับไปอยู่ในต้นทางได้

นายมานพ กล่าวอีกว่า ประเด็นเร่งด่วนที่ กมธ. อยากให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น คือเรื่องศูนย์ประสานงาน เพราะเราไม่รู้เลยว่าแต่ละศูนย์มีเรื่องใดบ้างที่ขาดเหลือในเรื่องของความจำเป็น อีกทางเพื่อให้การบริหารจัดการเป็นไปตามมติของสมช. ย้ำว่ากระทรวงมาไทยจำเป็นต้องมีศูนย์ประสานงานในพื้นที่ศูนย์ผู้หนีภัย 9 แห่ง รวมถึงประสานงานกับศูนย์ต่างประเทศ

นายมานพ กล่าวด้วยว่า กมธ.มีเรื่องที่อยากให้สมช. พิจารณาเป็นกรณีพิเศษ โดยปัจจุบันในพื้นที่อพยพ หรือประชาชนประเทศเมียนมาที่อยู่ในประเทศไทย หลายคนเป็นบุคลากรที่มีศักยภาพการทำงานที่สูงไม่ว่าจะเป็นแพทย์ วิศวะ ครู เราจึงอยากให้สมช. ช่วยดูในเรื่องของระเบียบที่จะสามารถเปิดโอกาสให้บุคลากรชาวเมียนมา หรือประชาชนที่อยู่ในศูนย์อพยพที่มีศักยภาพหรือที่มีทักษะเฉพาะทาง สามารถไปทำงานเป็นผู้ช่วยได้หรือไม่ ภายหลังจากนี้เราจะทำเอกสารส่งต่อไปยังนายกรัฐมนตรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ไทยโพสต์

เจ้าของรถยนต์เก๋ง MG ที่ตกเหวเขาคอม้า ไม่เชื่อกระดูกในเก๋งคือ ‘รัตน์ชนก’

24 นาทีที่แล้ว

ข่าวดี กทพ. ยกเว้นค่าทางด่วน 3 สายทางฟรี 12 ส.ค.

40 นาทีที่แล้ว

อุตุฯเตือน อีสาน ตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก รับมือฝนตกหนัก

52 นาทีที่แล้ว

ทักษิณ เสี่ยงนับโทษใหม่ ศาลรธน.คดีอิงค์ รอดยาก ชิงลาออกก่อนวันลงมติ?

7 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความการเมืองอื่น ๆ

ข่าวและบทความยอดนิยม