สธ. หนุนคนไทยบริโภคเกลือไม่เกิน 1 ช้อนชา/วัน หวังลด NCDs
21 กรกฎาคม 2568 นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุขเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการลดบริโภคเกลือและโซเดียมเพื่อลดโรคไม่ติดต่อระดับชาติ ครั้งที่ 2/2568 โดยมีนายแพทย์สุทัศน์ โชตนะพันธ์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค คณะกรรมการจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และผู้ทรงคุณวุฒิ ร่วมประชุม
นายแพทย์โอภาส เปิดเผยว่า รัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุขให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) ซึ่งการบริโภคเกลือเกินขนาด ถือเป็นสาเหตุหนึ่งที่ก่อให้เกิดโรค NCDs โดยเฉพาะจากพฤติกรรมการบริโภคโซเดียมในคนไทยที่มีผลมาจากการปรุงอาหารในครัวเรือนและการบริโภคอาหารสำเร็จรูปส่งผลต่อการทำงานของไตจึงต้องเร่งรัดแก้ไขปัญหาโดยยกระดับการบังคับใช้มาตรการผ่านยุทธศาสตร์ลดการบริโภคเกลือและโซเดียมฯ ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือของภาคีเครือข่ายในการลดบริโภคเกลือและโซเดียมของประชาชน
ที่ประชุมวันนี้ได้มีมติเห็นชอบการขยายระยะเวลาการดำเนินงานยุทธศาสตร์ลดการบริโภคเกลือและโซเดียมในประเทศไทย พ.ศ. 2559 – 2568 ถึงปี 2570 พร้อมกับจัดทำแผนปฏิบัติการลดการบริโภคเกลือและโซเดียมในระยะต่อไป เพื่อให้บรรลุเป้าหมายลดการบริโภคเกลือและโซเดียมลงร้อยละ 30 หรือบริโภคเกลือและโซเดียม ไม่เกิน 2,000 มิลลิกรัมต่อวัน หรือเทียบกับเกลือแกงไม่เกิน 1 ช้อนชา เพื่อให้คนไทยสุขภาพดี ห่างไกลโรค NCDs
ด้านนายแพทย์สุทัศน์ กล่าวว่า ที่ประชุมยังได้ติดตามความก้าวหน้าของ 5 ยุทธศาสตร์ ลดบริโภคเกลือฯ ประกอบด้วย 1.การสร้าง พัฒนา และขยายเครือข่ายความร่วมมือ (S: Stakeholder network) สนับสนุนให้ อสม. มีเครื่องมือ Salt meter ในการตรวจวัดโซเดียมในอาหารครัวเรือน
2. การเพิ่มความรู้ ความตระหนักและเสริมทักษะประชาชน ชุมชน ผู้ผลิต/ผู้ประกอบการ บุคลากรวิชาชีพที่เกี่ยวข้องและผู้กำหนดนโยบาย (A: Awareness) เครือข่ายลดบริโภคเค็ม ผ่านสื่อประชาสัมพันธ์ "ลดจิ้ม" ผ่านช่องทางต่าง ๆ
3. การปรับเปลี่ยนสิ่งแวดล้อม เพื่อให้เกิดการผลิต ปรับปรุง เปลี่ยนแปลง และเกิดผลิตภัณฑ์ที่มีโซเดียมต่ำ รวมทั้งเพิ่มทางเลือกและช่องทางการเข้าถึงอาหารปริมาณโซเดียมต่ำ (L: Legislation and environmental reform) โดยใช้เกณฑ์ WHO SEARO ในการจัดเก็บภาษีปริมาณโซเดียมที่เหมาะสม พัฒนาและส่งเสริมการใช้สัญลักษณ์โภชนาการ "ทางเลือกสุขภาพ" ( Healthier choice logo) ในสินค้ากลุ่มอาหารกึ่งสำเร็จรูปและขนมขบเคี้ยว
พร้อมทั้งตรวจสอบการออกกฎหมายกำกับดูแลเรื่องปริมาณเกลือโซเดียม และ GLP (Good Laboratory Practice) ร่วมกับภาคีเครือข่าย เป็นทางเลือกสุขภาพให้ผู้ประกอบการได้รับตราสัญลักษณ์ Healthier choice
4. การพัฒนางานวิจัยและองค์ความรู้ และการนำไปสู่การปฏิบัติ (T: Technology and Innovation) โดยมีสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) ให้ทุนสนับสนุนงานวิจัยโครงการสำรวจสุขภาพประชาชนไทยโดยการตรวจร่างกาย ครั้งที่ 7 พ.ศ. 2567 – 2568 อยู่ในระหว่างการศึกษาโครงการวิจัยข้อเสนอเชิงนโยบายการจัดทำเกณฑ์มาตรฐานปริมาณโซเดียมสำหรับอาหารประเภทต่าง ๆ ของประเทศไทยเพื่อกำหนดเกณฑ์มาตรฐานปริมาณโซเดียมสำหรับอาหารและความเหมาะสมกับสถานการณ์การบริโภคโซเดียมและบริบทของประเทศไทย และเป็นแนวทางให้การบริโภคเกลือและโซเดียมของคนไทยลดลงลดค่าใช้จ่ายในการดูแลสุขภาพ
5. การพัฒนาระบบเฝ้าระวังติดตาม และประเมินผล เน้นตลอดกระบวนการผลิตและผลลัพธ์ (S: Surveillance, monitoring and evaluation)