112 ปี วิศวะจุฬาฯ! ปั้นคนเก่ง สร้าง Ecosystem มีทักษะตรงใจอุตสาหกรรม
เนื่องในโอกาสครบรอบ 112 ปี ของคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รศ.ดร.วิทยา วัณณสุโภประสิทธิ์ คณบดีคณะ ฯ และทีมบริหาร เผยวิสัยทัศน์และทิศทางที่สำคัญของการบริหารคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อมุ่งสู่การเป็นสถาบันการศึกษาที่ปลูกฝังค่านิยมการเรียนรู้ตลอดชีวิตให้ทุกคนใน Ecosystem ที่ไม่จำกัดเพียงนิสิต แต่หมายถึงคณาจารย์ บุคลากร เจ้าหน้าที่ ศิษย์เก่าและพันธมิตรทั้งหมด
รศ.ดร.วิทยา วัณณสุโภประสิทธิ์ คณบดี ฯ เผย ในยุคสมัยแห่งการเรียนรู้ไม่มีที่สิ้นสุด การพัฒนาบุคคลไม่เพียงจำกัดอยู่แต่ในด้านวิชาการความรู้ แต่การปลูกฝังค่านิยมในการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่องก็เป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้เท่าทันกับปัจจุบันที่มีการพัฒนานวัตกรรมใหม่ที่สามารถเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของคนในสังคมได้ตลอดเวลา คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยที่ถือว่าเป็นสถาบันการศึกษาชั้นนำของประเทศที่ช่วยพัฒนาวิศวกรที่มีคุณภาพและมีคุณธรรม อยู่คู่สังคมไทยมานานกว่า 112 ปี มีความมุ่งหวังในการสร้างต้นกล้าที่สามารถเติบโตไปเป็นรากฐานอันมั่นคงของประเทศ อุทิศความสามารถที่มีเพื่ออนาคตที่ดีขึ้นของประเทศไทย และพร้อมที่จะพัฒนาตนเองอย่างไม่รู้จบ เพื่อเป็นผู้นำสังคมและพัฒนาอุตสาหกรรมได้อย่างยั่งยืน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
วิศวฯ จุฬาฯ ผนึกกำลัง 15 องค์กรชั้นนำ เตรียมจัดงาน SISTAM 2025
จุฬาฯ จับมือ 6 บิ๊กเทค - ภาครัฐ เปิดหลักสูตร AI ผู้บริหารระดับสูง
หมุดหมาย Community ส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต
“งานครบรอบ 112 ปี เป็นหมุดหมายสำคัญที่เราจะตอกย้ำสิ่งที่เรามุ่งเน้นมาตลอด คือการสร้าง Community ที่เอื้ออำนวยให้เกิดการเรียนรู้ ที่ไม่จำกัดแค่เฉพาะช่วงชีวิตการเป็นนักเรียน นิสิต แต่เป็นการเรียนรู้ตลอดชีวิต (Lifelong Learning) คณะฯมุ่งพัฒนา พัฒนาหลักสูตรที่ ตรงใจ ตรงไทย ตรงโลก ส่งเสริมชาววิศวะ ฯ จุฬา ฯ เป็นผู้รักการเรียนรู้และพัฒนาตนเองอยู่ตลอดเวลา”
คณะฯ มองเป้าหมายการพัฒนาแบ่งออกเป็น 2 มุมมองหลักคือ ด้าน Inside out และ Outside In ในด้าน Outside In คือเรื่องการพัฒนานิสิตให้เติบโตรอบทิศ เพราะนิสิตคือหัวใจสำคัญ ทุกคนมีความสามารถที่พัฒนาความสามารถเฉพาะตน สถาบันการศึกษามีหน้าที่ในการมอบโอกาสและประสบการณ์นำทางสร้างปัญญาและทักษะ ให้นิสิตมองเห็นความท้าทายและมีแนวทางการพัฒนาไปสู่คำตอบนั้น มอบโอกาสและประสบการณ์ให้เขาได้เติบโต เป็นวิศวกรที่ทรงคุณค่าป้อนเข้าสู่สังคมประเทศไทยและสังคมโลก
คณะ ฯ เข้าใจความต้องการของนิสิต ที่มีความหลากหลาย เราสนับสนุนให้นิสิตสามารถเรียนสาขาย่อยต่างภาคได้ (Minor) นิสิตสามารถกำหนดเส้นทางการพัฒนาตนเองได้อย่างไม่มีขีดจำกัด สร้างความเชี่ยวชาญตามความสนใจเพื่อพัฒนาความสามารถเฉพาะตัวของตัวเองได้อย่างเหมาะสม
2 มุมมองเป้าหมายการพัฒนานิสิตวิศวะ จุฬาฯ
การพัฒนา Outside In นั้น จำเป็นต้องมีสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยด้วยจึงจะเกิดผล คณะ ฯ ยังให้ความสำคัญในการพัฒนาแบบ Inside Out ควบคู่ไปพร้อมกัน ในที่นี้หมายถึงการพัฒนาบุคลากรผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของนิสิตไปด้วย เช่น คณาจารย์ บุคลากรคณะ ฯ เจ้าหน้าที่ เราสนับสนุนการทำงาน และการพัฒนาการเรียนรู้ในทุกด้าน คณะ ฯ ได้มีการสนับสนุนเงินทุนวิจัยสำหรับคณาจารย์ให้เข้าไปมีส่วนร่วมในการทำงานวิจัยที่เป็นระดับ Pioneer ที่อาจเป็นนวัตกรรมใหม่ในการเปลี่ยนแปลงสังคมในอนาคตได้
อีกทั้งยังสนับสนุนให้เกิดผู้บริหารคณะ ฯ รุ่นใหม่เสมอ ผ่านโครงการ Co-learning Leadership ที่ช่วยผลักดันให้คณาจารย์ บุคลากรคณะ ฯ พัฒนาตนเองขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญในรุ่นต่อไปของคณะ ฯ ผ่านการอบรม และการสนับสนุนทรัพยากรต่างๆ เพื่อสร้างนักวิจัย ผู้บริหาร รุ่นใหม่ ที่มีทัศนวิสัยกว้างไกล ทันยุคสมัย มีความสามารถในการบริหารได้
นอกจากนี้ คณะ ฯ ยังเปิดกว้างเรื่องการพัฒนา ไม่ให้จำกัดอยู่เพียงภายในสถาบันการศึกษา แต่ยังมีการสร้างพันธมิตรจากภายนอกทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรมธุรกิจ ให้เข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาหลักสูตรการสอน Sandbox ให้นิสิตได้มีโอกาสในการฝึกงานกับบริษัทจริง ๆ ทุกปีตั้งแต่การศึกษาปีที่ 1 โมเดลนี้สามารถตอบโจทย์อย่างตรงจุด นิสิตทราบความต้องการและความคาดหวังจริงจากอุตสาหกรรมแต่แรก ทำให้มีทั้งเวลาและมีแรงบันดาลใจเรียนวิชาได้ตรงกับสิ่งที่ท้าทายและเป็นอนาคตของอุตสาหกรรม อีกทั้งยังเลือกพัฒนา Soft Skills ทักษะการทำงานเหมาะเฉพาะตน นิสิตกำลังการศึกษา สามารถทำงาน Part Time ต่อเนื่องกับบริษัทได้ นิสิตในหลักสูตรเป็นฟันเฟืองที่สามารถทำงานได้ทันที มีทักษะที่ตรงตามความต้องการของภาคอุตสาหกรรม และทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้คณะวิศวกรรมศาสตร์ร่วมมือกับคณะพาณิชศาสตร์และการบัญชีสร้างหลักสูตร Chula LGO (Leader For Global Operation) incorporated with MIT LGO ซึ่งพัฒนาบุคลากรที่มีความสามารถทางวิศวกรรมและบริหารธุรกิจ ซึ่งนิสิตต้องเข้าไปทำงานในอุตสาหกรรม 6 เดือนเพื่อแก้โจทย์ให้อุตสาหกรรม
จะเห็นได้ว่า เราให้ความสำคัญกับ “บุคคล (People)” อย่างจริงจัง เพราะเราเชื่อว่าการพัฒนาบุคคลคือหัวใจของการพัฒนาสิ่งต่าง ๆ ต่อไป สิ่งที่สถาบันการศึกษาอย่างคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สามารถทำได้คือการเป็นสะพานที่เชื่อมโยงระหว่างปัจจุบันและอนาคตให้นิสิต โดยเตรียมเครื่องมือและสภาพแวดล้อมที่อำนวยความสะดวกให้นิสิตสามารถเดินไปสู่จุดหมายได้อย่างมั่นคง พร้อมเป็นกำลังสำคัญของสังคมในยุคสมัยต่อไป