สหรัฐ 'ขาดดุลพุ่ง 20%' แตะ 9.4 ล้านล้านบาท รายจ่ายรัฐแซงหน้ารายได้ภาษี
สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานอ้างข้อมูลจากกระทรวงการคลังสหรัฐว่า การขาดดุลงบประมาณของรัฐบาลสหรัฐในเดือนกรกฎาคม “เพิ่มขึ้นเกือบ 20%” เป็น 291,000 ล้านดอลลาร์ หรือราว 9.4 ล้านล้านบาท แม้ว่ารายได้จากการจัดเก็บภาษีศุลกากรเพิ่มขึ้นเกือบ 21,000 ล้านดอลลาร์ หรือราว 6.7 แสนล้านบาทก็ตาม
สำหรับการขาดดุลนี้ ได้เพิ่มขึ้นในเดือนกรกฎาคม 19% หรือ 47,000 ล้านดอลลาร์ จากเดือนกรกฎาคม 2024 โดย“รายรับ” ของเดือนนี้เพิ่มขึ้น 2% หรือ 8,000 ล้านดอลลาร์ เป็น 338,000 ล้านดอลลาร์
แต่ “รายจ่าย” พุ่งขึ้น 10% หรือ 56,000 ล้านดอลลาร์ จนแตะ 630,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดของเดือนนี้
กระทรวงการคลังสหรัฐ ระบุว่า เดือนกรกฎาคม ปีนี้ มีวันทำการน้อยกว่าปีที่แล้ว ดังนั้น หากปรับตัวเลขให้สะท้อนความแตกต่างนี้ รายรับจะเพิ่มขึ้นราว 20,000 ล้านดอลลาร์ ทำให้การขาดดุลลดลงเหลือราว 271,000 ล้านดอลลาร์
เจ้าหน้าที่กระทรวงการคลัง กล่าวว่า รายได้สุทธิจากอากรศุลกากรในเดือนกรกฎาคม เพิ่มขึ้นเป็นราว 27,700 ล้านดอลลาร์ จากราว 7,100 ล้านดอลลาร์ ในช่วงเดียวกันของปีก่อน สาเหตุมาจากการขึ้นภาษีนำเข้าของประธานาธิบดีทรัมป์
แม้ทรัมป์จะกล่าวอ้างถึงเม็ดเงินหลายพันล้านดอลลาร์ที่ไหลเข้าสู่คลังสหรัฐ จากมาตรการภาษีดังกล่าว แต่ภาษีเหล่านี้ ก็เป็นภาระที่บริษัทผู้นำเข้าสินค้าเป็นผู้จ่าย และบางส่วนมักถูกส่งต่อไปยังผู้บริโภคในรูปของราคาสินค้าที่สูงขึ้น
จากดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่เผยแพร่เมื่อวันอังคาร แสดงให้เห็นว่า ราคาสินค้าบางประเภทที่อ่อนไหวต่อมาตรการภาษีนำเข้า เช่น เฟอร์นิเจอร์ รองเท้า และอะไหล่รถยนต์ ปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่ผลกระทบดังกล่าวถูกหักล้างด้วยราคาน้ำมันเบนซินที่ลดลงในดัชนีรวม
ในช่วง 10 เดือนแรกของปีงบประมาณนี้ รัฐบาลสหรัฐจัดเก็บภาษีนำเข้ารวมทั้งสิ้น 135,700 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 730,00 ล้านดอลลาร์ หรือ 116% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐให้สัมภาษณ์ในรายการ “Kudlow” ของเครือข่าย Fox Business Network ว่ารายได้จากภาษีนำเข้าของสหรัฐที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จะทำให้ศาลสูงสหรัฐ ตัดสินคัดค้านมาตรการเก็บภาษีนำเข้าของทรัมป์ได้ยากขึ้น หากมีการยื่นฟ้องร้องจนไปถึงศาลสูงสุด
เคน มาเธนี ผู้อำนวยการฝ่ายเศรษฐศาสตร์มหภาคของ Budget Lab มหาวิทยาลัยเยล กล่าวว่า ยังไม่ชัดเจนว่า รายได้จากภาษีนำเข้ารายเดือนจะเติบโตได้มากเพียงใด แต่เมื่อวัดจาก “อัตราภาษีนำเข้าที่แท้จริง” ซึ่งคำนวณจากรายได้ภาษีศุลกากรหารด้วยมูลค่าการนำเข้าสินค้า พบว่ายังอยู่ราว 10% ซึ่งต่ำกว่า “อัตราภาษีนำเข้าเฉลี่ยปัจจุบัน” ที่อยู่ราว 18% ตามประกาศล่าสุด
เขากล่าวว่า มีความเป็นไปได้สูงที่บริษัทจำนวนมากกำลังเก็บสินค้าไว้ในคลังสินค้าทัณฑ์บน โดยหวังว่าการเจรจาจะนำไปสู่การปรับลดอัตราภาษีนำเข้า แต่ในที่สุด สินค้าดังกล่าวก็จะต้องเข้าสู่ประเทศ ซึ่งจะทำให้เกิดการชำระภาษี
มาเธนี เสริมว่า “ผมคาดว่าตัวเลขเหล่านี้ สะท้อนว่ามีมูลค่านำเข้าส่วนหนึ่งในระดับมากที่ยังไม่ได้ถูกนำมาคำนวณภาษี” พร้อมระบุว่า สถานการณ์นี้อาจทำให้เกิด “การพุ่งขึ้นชั่วคราวของรายได้ภาษีศุลกากร”
ทั้งนี้ รายได้จากภาษีศุลกากรตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน ถูกกลบหมดด้วยการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายในโครงการประกันสุขภาพของรัฐบาล 10% หรือ 141,000 ล้านดอลลาร์ รวมถึง Medicare สำหรับผู้สูงอายุ และ Medicaid สำหรับผู้มีรายได้น้อย ซึ่งรวมแล้วอยู่ที่ 1.557 ล้านล้านดอลลาร์
ส่วนดอกเบี้ยหนี้สาธารณะยังคงเพิ่มขึ้น โดยแตะระดับกว่า 1.01 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วง 10 เดือนดังกล่าว เพิ่มขึ้น 6% หรือ 57,000 ล้านดอลลาร์ จากปีก่อน เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นเล็กน้อย และปริมาณหนี้ที่เพิ่มขึ้น
อ้างอิง: reuters
พิสูจน์อักษร….สุรีย์ ศิลาวงษ์