ดร.ณัฏฐ์ ชี้ข้อโต้แย้งเขากระโดง ไร้น้ำหนัก-ไม่ตรงข้อกฎหมาย
ดร.ณัฏฐ์ วงศ์เนียม ระบุข้อโต้แย้งคัดค้านคำสั่งเพิกถอนที่ดินเขากระโดง ไม่ตรงตามหลักกฎหมาย และไม่ใช่เรื่องการเมือง หากแต่เป็นกระบวนการทางกฎหมายเพื่อประโยชน์ส่วนรวม พร้อมชี้ว่าผู้ได้รับผลกระทบยังสามารถใช้สิทธิ์ตามกฎหมายในการขอเยียวยาได้ตามขั้นตอน
7 สิงหาคม 2568 – สืบเนื่องจากกรณี ตัวแทนประชาชนจังหวัดบุรีรัมย์ ผู้ประกอบการธุรกิจ และนิติบุคคล ที่มีเอกสารสิทธิถูกต้องตามกฎหมายในพื้นที่เขากระโดง จ.บุรีรัมย์ ร่วมจัดงานแถลงข่าว ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ เพื่อตอบโต้ และชี้แจงกรณี นายภูมิธรรม เวชยชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และนายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้มีการเพิกถอนเอกสารสิทธิในที่ดินกว่า 5,083 ไร่ ซึ่งมีผู้ถือครองมากถึง 995 ราย นั้น
ล่าสุด “ดร.ณัฎฐ์” หรือ ดร.ณัฐวุฒิ วงศ์เนียม นักกฎหมายมหาชน ได้ให้ความเห็นเพื่อประโยชน์สาธารณะว่า ก่อนอื่นวันนี้ ตรงกับ วันที่ 7 สิงหา เป็น “วันรพี” ตนขอน้อมรำลึกถึงพระคุณ พระองค์เจ้ารพีพัฒนศักดิ์ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ พระบิดากฎหมายไทย ส่วนปมร้อนข้อโต้แย้งลุกฮือสู้รัฐที่ดินเขากระโดง หากฟังข้อโต้แย้ง ทนายความบางคน ที่ยกขึ้นแถลงเป็นข้อต่อสู้รัฐนั้น ฟังแล้ว เบาหวิว “ไร้น้ำหนัก” เพราะคดีที่ดินต้องสู้กันเรื่องเอกสารล้วนๆ หมือนกับเอาสีข้างถู ถลอกไปหมดแล้ว ดูประหนึ่ง พยายามจะเอาที่ดินของหลวง มาเป็นประโยชน์ของตนเองให้ได้ ทั้งๆที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาบที่ 5 ทรงพระราชทานให้กับราษฎรและจัดซื้อตามกฎหมายในสมัยรัฐบาลสมบูรณาญาสิทธิราชย์
ข้อโต้แย้งแบบนี้ ถ้าสู้กันในศาล “แพ้ทุกคดี”ทุกราย โดยน็อกแต่ศาลชั้นต้น การยกข้ออ้างอิง อ้างข้อกฎหมายนั้นมีหลายประเด็นไม่สามารถหักล้าง มติที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย แถลงให้เพิกถอนที่ดิน 5,083 ไร่
เพราะจุดอ่อน คำสั่งทางปกครอง ชุดที่นายพรพจน์ เพ็ญพาสน์ อดีตอธิบดีกรมที่ดิน ดำเนินการข้ามขั้นตอนไม่ชอบด้วยกฎหมาย จุดนี้ ล้มล้างคำสั่งทางปกครองเดิมและเมื่อการรถไฟและกรมที่ดินปักปันแนวเขตในปี 2567 เสร็จสิ้นแล้ว สามารถเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ที่ออกมาโดยไม่ชอบโดยใช้ช่อง ป.ทีดิน มาตรา 61 วรรคแปด
หากเอกชนเสียหาย มีช่องทางกฎหมายที่จะดำเนินการฟ้องเรียกค่าเสียหายได้
ส่วนที่แกนนำพรรคภูมิใจไทยบางคน ออกมาพูดในเชิงลักษณะข่มขู่ว่า อธิบดีกรมที่ดินคนใหม่ ให้ระวังติดคุก นั้น ตนว่า “หากวันนี้ ทำถูกต้องพรุ่งนี้จะต้องกลัววอะไร”
ถามว่า แกนนำบางคน พยายามปกป้องคนการเมืองในบุรีรัมย์ เพราะมีถิ่นที่อยู่ในที่ดินเขากระโดง ย่อมไม่แปลกที่ร้อนตัวแทน นายใหญ่เขากระโดง แต่ต้องแยกแยะว่า เรื่องนี้ ไม่ใช่เรื่องการเมือง ย้ำไม่ใช่เรื่องการเมือง แต่เป็นเรื่องความถูกต้อง ให้ยึดหลักกฎหมายเพราะเป็นเรื่องของการติดตามเอาที่ดินหลวงคืนเป็นหน้าที่ของพลเมืองไทยทุกคน ตนขอตั้งคำถามว่า พรรคสีน้ำเงิน เป็นพรรคอนุรักษ์นิยม จะปกป้องผลประโยชน์ของใคร ระหว่างผลประโยชน์ส่วนตัว หรือประโยชน์สาธารณะ
กลไก กระบวนการเพิกถอนโฉนดที่ดินที่ออกมา โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย เป็นไปตามกลไกของประมวลกฎหมายที่ดินได้กำหนดหลักเกณฑ์ขั้นตอนและวิธีการไว้ แต่ฝ่ายข้าราชการประจำทีผ่านมาพยายามเลียเอาใจฝ่ายการเมืองหวังให้ตนได้นั่งในตำแหน่ง ปกป้องกันเอง ทำให้ประชาชนเสียประโยชน์ในที่ดินสาธารณะสมบัติของแผ่นดินประเภทพลเมืองใช้ร่วมกัน ทำให้ล่าช้าในการเพิกถอน พยายามหาช่องมาหักล้างคำพิพากษาศาลฎีกา เอา “คำสั่งทางปกครองมาหักคำพิพากษาของศาลฎีกา” แล้วประเทศไทยจะอยู่กันอย่างไร หลักนิติรัฐและหลักนิติธรรมอยู่ตรงไหน
ส่วนผู้แถลง เป็นทนายบางคน ยกข้อกฎหมายมาพูด เหมือนจะรู้จริง แต่พอภาพรวมแล้ว ไม่น่าจะรู้จริง อ้างข้อกฎหมายสับสนไปหมด ควรไปศึกษาให้ถ่องแท้ แล้วออกมาเป็นทนายแก้ต่าง หน่วยกล้าตาย ยิ่งตอกย้ำ กลุ่มนี้ มีเจตจำนงฮุบที่ดินหลวงหรือไม่ ใช้อำนาจ “กฎหมู่” เหนือ “กฎหมาย” หรือไม่ เหมือนประหนึ่งเป็นการประจานตนเอง ไม่ได้เรียกว่า ขอความเป็นธรรม เพราะกฎหมายเปิดช่องให้เยียวยา หากรัฐกระทำผิดพลาด โดยเฉพาะแผนที่ดิน หากการรถไฟฯกับกรมที่ดิน รับรองแนวเขต ทุกอย่าง คือ “จบแล้วครับนาย” จะไปแถว่า พรฎ.ไม่มีแนวเขตและไม่มีแผนที่ ไม่เป็นที่ดินการรถไฟอีกไม่ได้
การพูดเอามัน ย่อมพูดได้ แต่ไม่มีกฎหมายรองรับเพราะไม่ใช่การทุเลาการบังคับ รัฐธรรมนูญคุ้มครองเพราะทรัพย์สินของประชาชนที่ได้มาโดยสุจริต ส่วนเอกสารสิทธิ์ได้มาไม่ชอบแต่แรก หลักสุจริตและรัฐธรรมนูญไม่คุ้มครอง
อธิบายภาษาชาวบ้านได้ ว่า ต้นฉบับโฉนดที่ดินหรือ นส 3 ก หากมีการเพิกถอนแล้ว ไม่มีราคา ถือเป็นกระดาษเปล่าเท่านั้น
หากอธิบดีกรมที่ดิน ใช้อำนาจรัฐในการเพิกถอนที่ดินจำนวน 995 แปลง บุคคลเหล่านี้ไม่อาจอยู่ในที่ดินของหลวงได้อีกต่อไป เพราะผิดกฎหมาย ตราบใดที่ศาลปกครองไม่ใช้วิธีการชั่วคราวก่อนพิพากษาในการทุเลาการบังคับ ผลการเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ยังมีผลตลอดเรื่อยไปจนกว่าจะมีคำพิพากษาของศาลปกครองเพิกถอนคำสั่ง
ส่วนที่บางคนยกขึ้นอ้างว่า การรื้อถอน ทำให้กระทบต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวของจังหวัดบุรีรัมย์ ถามว่า ค่าเข้าชมและบริหารจัดการที่ได้มาตกเป็นกรรมสิทธิของรัฐหรือไม่ ที่กล่าวอ้างล้วนเห็นแก่ตัวเพื่อผลประโยชน์ตนเอง สามารถเช่าที่ดินของการรถไฟฯและนำเงินค่าเช่าที่ได้มาเข้าหลวง ย่อมสามารถกระทำได้